วันนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ที่สถานีรถไฟอุบลราชธานี สถานีรถไฟ 1 ใน 3 ที่ชื่อสถานีเป็นชื่อจังหวัดแต่ตั้งอยู่ในตัวอำเภอ คืออำเภอวารินชำราบ ออกมาจากตัวเมืองจังหวัดอุบลราชธานีมาไม่กี่กิโลเมตร ซึ่งวันนี้ผมและเพื่อน ๆ มีแผนวางไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่าจะไปออกทริปรถไฟใกล้ ๆ คืออุบล – อุทุมพรพิสัย เป้าหมายหลักของเราคือ วัดสระกำแพงใหญ่ ที่รออยู่ปลายทางของพวกเรา ผมเองยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะนี้คือการนั่งรถไฟครั้งแรกในชีวิตของผม ตลอดช่วงอายุ 20 ปี มันทำให้การเดินทางในครั้งนี้ถือเป็นจุดกำเนิดและประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตที่เกิดขึ้นบนรถไฟสายนี้ จึงขอเรียกการเดินทางครั้งนี้ว่า รถไฟแห่งความสุขที่อุทุมพรพิสัย ก็แล้วกันนะครับ ผมเริ่มออกเดินทางจากสถานีอุบลราชธานี เวลาประมาณ 6 โมงเช้า ด้วยกระเป๋าเป้ใบเล็ก ๆ ใบหนึ่งและอาหารเช้าสุดอร่อยในรถไฟคือ ไก่ย่าง ข้าวเหนียวร้อน ๆ ของเรานั่นเอง เป็นการเปิดประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ เลยก็ว่าได้ จากนั้นเสียงรางรถไฟกับล้อเหล็กที่หมุนได้ยินเป็นเสียงเดียวกันอย่างเป็นจังหวะ ชึก - ชัก ชึก - ชัก จากอาการง่วงนอนที่ยังไม่ค่อยจะดีนักของตัวผม พอได้ยินเสียงรถไฟหัวใจที่ปกติก็เริ่มเต้นดังขึ้น พร้อมกับเหงื่อจากมือที่เริ่มออกมาเต็มมือ ทำให้หายง่วงอย่างทันตาเห็น พอนั่งไปสักพัก สายลมที่พัดผ่านมาทางช่องหน้าต่างที่เปิดไว้เล็ก ๆ พอมีลมเล็ดลอดเข้ามาเบา ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ผสานกับสายตาสองคู่ที่คอยจดจ้องกับวิวทิวทัศน์สองข้างทาง ทั้งทุ่งข้าว ป่าไม้ บ้านเรือนสลับกันไป ถือเป็นภาพที่สวยงามที่จะไม่มีวันลืมเลยทีเดียว.... และเวลาก็ได้ผ่านไป ชั่วโมงกว่า ๆ เร็วอย่าบอกใครกับการนั่งกินลมชมวิวแบบนี้ นั่งเพลินจนถึงแบบไม่รู้ตัว เมื่อถึงสถานีอุทุมพรพิสัยแล้วผมกับเพื่อนก็ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปต่อที่วัด ประมาณ 4 กิโลเมตร ก็ถึงวัดสระกำแพงใหญ่ จุดหมายหลักของเราแล้ว (แถวนั้นมีพี่วินคอยให้บริการด้วยนะไม่ต้องห่วง) จากนั้นพวกเราก็พากันเดินทางเข้าไปในวัด เห็นบรรยากาศภายในวัดสระกำแพงใหญ่แล้วก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ด้วยโบราณสถานและสิ่งก็สร้างอันวิจิตรงดงามที่ทางวัดสร้างขึ้นจนอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้แบกเป้ตามกันมาเลยเชียวล่ะ โดยสถานที่สำคัญของทางวัดและเป็นที่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาชื่นชมและสัมผัสบรรยากาศเลยคือ ปราสาทขอมโบราณ อายุกว่า 1,000 ปี มีขนาดใหญ่และยังคงความสมบูรณ์ค่อนข้างมาก ซึ่งมีด้วยกันถึง 6 หลัง ภายในก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เราได้กราบไหว้ขอพร ข้าง ๆ ตัวปราสาทเราก็จะเห็น ฆ้องใหญ่ชัยมงคลวุฒานุสรณ์ 102 ปี หลวงปู่เครื่อง สุภัทโท ซึ่งคนที่ไปวัดนี้เป็นต้องถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกในความทรงจำกันเลยล่ะ และที่สำคัญอีกหนึ่งจุดที่สามารถมองเห็นได้แต่ระยะไกลคือ รูปปั้นหลวงปู่เครื่อง สุภัทโท เพื่อให้ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสได้เข้าไปสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต สำหรับการเที่ยวชมวัดสระกำแพงใหญ่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ที่สนุกมาก ๆ พร้อมทั้งได้รับความรู้ชื่นชมความสวยความงามถือเป็นการท่องเที่ยวแบบวิถีพุทธตามรอยประวัติศาสตร์ จึงเหมาะกับหลาย ๆ คนเป็นอย่างมากที่จะมาลองสัมผัสความรู้สึกดี ๆ แบบนี้สักครั้ง ส่วนค่าเดินทาง ทั้งหมดทั้งไปและกลับผมใช้ประมาณ 60 กว่าบาท และค่ากินค่าอื่น ๆ อีกประมาณ 250 บาท ไปเช้าเย็นกลับ ถือว่าคุ้มค่าเงินทุกบาทจริง ๆ ส่วนเวลาวัดเปิดตั้งแต่ 06.00 – 18.00 น.เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด พิกัดอยู่ที่ ม.1 ต.สระกำแพงใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เพียงแค่คุณกล้าที่จะออกเดินทางประสบการณ์ที่ดีข้างหน้าจะรอคุณอยู่อย่างแน่นอน... ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวขอบคุณและสวัสดีครับ... ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน