สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะคะ วันนี้ดิฉันพาทุกท่านผจญภัยไปในดินแดนสุโขทัยกัน ดินแดนที่มีอารยธรรมและอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้อาณาจักรอื่นๆในเอเชียอาคเนย์ แต่ในวันนี้ดิฉันจะขอพาทุกท่านมาชมส่วนหนึ่งของอาณาจักรสุโขทัยกันก่อน และในบทความต่อๆไปจะมีให้ดูกันอีกเยอะ สถานที่ท่องเที่ยวที่พาเรามาย้อนรอยในวันนี้ ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ซึ่งเป็นอุทยานที่รวบรวมเรื่องราวมางประวัติศาสตร์ไว้อย่างมากมาย แต่ในวันนี้ดิฉันจะพาทุกท่านไปชมส่วนหนึ่งในอุทยาน กับเทวสถานขนาดใหญ่ในศาสนาพรามหมณ์ ทุกท่านคงสงสัยกันว่าเทวสถานของพราหมณ์มาอยู่ในสุโขทัยได้ยังไง ถ้าทุกท่านพร้อมที่จะไปค้นหาคำตอบด้วยกันแล้ว เราไปชมกันเลยค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวในวันนี้ก็คือ วัดศรีสวาย ที่ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย นั่นเอง ทุกท่านคงสงสัยกับชื่อของสถานที่แห่งนี้ว่า ทำไมถึงเป็นวัด ไม่ไช่โบสถ์ของพราหมณ์หรอ จริงๆคือใช่ค่ะ เทวสถานขนาดใหญ่นี้เป็นเทวสถานในศาสนาพราหมณ์ มีลักษณะเป็นปรางค์ 3 องค์ตั้งเรียงกัน ซึ่งดูดีๆจะมีความคล้ายกับพระปรางค์3 ยอดที่ลพบุรี จริงๆปรางค์แห่งนี้มีลักษณะทรงปรางค์ที่เรียกว่า ทรงฝักข้าวโพด ซึ่งมีศิลปะแบบลพบุรีผสมอยู่ แต่วิธีการใช้เทวสถานนั้น มีความเหมือนกับปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทหินพิมาย และปราสาทหินเมืองต่ำ คือใช้บูชาเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ ซึ่งมีเทพอยู่ 3 องค์คือ พระพรหม พระนารายณ์ และ พระศิวะ แต่ปรางค์ที่วัดศรีสวายจะมีความแตกต่างกับปราสาทอื่นๆตรงที่ ปรางค์นั้นเราจะไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ เพราะมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ปราสาทเราจะสามารถเข้าไปได้เช่นปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นต้น แต่จากการที่เราได้เข้าไปสัมผัสก็พบว่า เทวสถานแห่งนี้น่าจะมีลานทำพิธีอยู่ข้างหน้า และมีปรางค์อยู่ด้านหลัง ที่สำคัญมีบ่อน้ำทำให้เชื่อได้ว่า ปรางค์แห่งนี้น่าจะทำพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์เพื่อบูชาเทพในวันสำคัญแน่นอน แต่ที่มาอยู่ในสุโขทัยได้เชื่อกันว่า น่าจะมีอาณาจักรหรืออาจจะเป็นกลุ่มคนที่มีจำนวนน้อย เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้และทำการสร้างเทวสถานไว้ แต่ภายหลังอาณาจักรสุโขทัยเติบโตขึ้นมาก็พบเทวสถานแห่งนี้มีอยู่แล้วแต่เดิม ทำให้ภายหลังถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดศรีสวายแบบของไทยแทน แต่ด้วยความเชื่อในศาสนาพราหมณ์มีอิทธิพลในเรื่องเทพผู้ปกครองเมืองอยู่แล้ว ดังนั้นกษัตริย์ที่จะมาปกครองจึงต้องมีการทำพิธีแบบพราหมณ์เพื่อเปรียบกษัตริย์เหมือนเทพที่อยู่บนสรวงสวรรค์มาปกครองโลกมนุษย์ ดังนั้นพิธีกรรมแบบพราหมณ์จึงเป็นสิ่งที่มีมาแต่ดั้งเดิมอยู่แล้ว จนถึงในปัจจุบันประเทศไทยของเราก็มีพระราชพิธีของกษัตริย์ที่ต้องใช้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในศาสนาพราหมณ์อยู่นั่นเอง ภายในอุทยานประวัติศาตร์สุโขทัยแห่งนี้ยังมีสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่มาก รอให้เราไปศึกษาอยู่ ที่สำคัญที่นี่เขามีจักรยานให้เช่าปั่นชมโบราณสถานภายในอุทยานด้วย เสียค่าเช่าคันละ 20-30 บาทเท่านั้น และในส่วนค่าเข้าชมอุทยานนั้น คนไทย 10 บาท คนต่างชาติ 40 บาท สุดท้ายนี้ดิฉันหวังว่าทุกท่านจะไปพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรสุโขทัยด้วยกัน และอย่าลืมแวะมาที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยนะคะ. เครดิตภาพปกและภาพถ่าย:โดยผู้เขียน