แม้ฉันจะเป็นชาวอีสาน แต่ขยันเที่ยวเมืองเหนืออย่างเชียงใหม่ ปี 2559-2561 เป็นปีที่ฉันไปเชียงใหม่ติดต่อกันถึง 3 ปี เพราะพี่ที่ทำงาน (ตอนนี้กลายเป็นที่เก่าไปแล้ว) ได้บนเรื่องลูกไว้ ต้องไปเชียงใหม่ทุกสิ้นปี ฉันเลยติดตามไปด้วย อาจจะดื้อนิด ๆ เพราะเราอยู่ฝ่ายเดียวกัน และลาไปพร้อมกัน! ใช่ค่ะ หัวหน้าค่อนข้างเอือม แต่ก็ยอมให้ไปเพราะเป็นทริปสายบุญ และการไปเยือนครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งไหน เพราะได้มีโอกาสร่วมงานกับเชื้อสายเจ้าเมืองเหนือตั้งแต่โบราณ นั่นก็คือ งาน "ดารารัศมี รำฦก" จัดระหว่างวันที่ 7-9 ธันวาคม 2561 ณ วัดสวนดอก ปกติก็จะมีเชื้อสายตระกูล ณ เชียงใหม่ มาร่วมงาน แต่งกายชุดพื้นเมืองเชียงใหม่ แต่ครั้งนี้ฉันและพี่ที่ทำงานเก่า ยกทัพจาก กทม. มาร่วมงานนี้ครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งวันที่พวกเรามาคือวันที่ 9 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน และมีการประเพณีพิธีกรรมที่น่าชมในวันสุดท้ายนี้ด้วย แต่ก่อนอื่น พวกเราไปไหว้พระประธานประจำวัดสวนดอกกันก่อน เพราะงานช่วงเย็นจะเริ่มประมาณ 17.00 น. ซึ่งยังไม่ถึงเวลา ระหว่างที่กราบพระ สังเกตเห็นพระพุทธรูป 3 องค์ซ้อนกันสวยงามพอดีเลย รู้สึกอิ่มบุญชึ้นมาเมื่อมองพระพักตร์พระพุทธรูป ที่มาของงาน "ดารารัศมี รำฦก" นั้น เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงเป็นเจ้าหญิงเชียงใหม่ก่อนจะมาเป็นพระราชชายาในรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีพระกรุณาธิคุณอย่างมากมายต่อเมืองเชียงใหม่ในอดีตอย่างมากมาย เพราะภายหลังรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต พระองค์ได้กลับมาเชียงใหม่อีกครั้ง เพื่อทรงทำนุบำรุงศาสนา ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นเชียงใหม่ พัฒนาการศึกษา การทอผ้า และการเกษตร จนเชียงใหม่มีความเจริญสืบมาจนถึงปัจจุบัน และในวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี จึงถือเป็น "วันพระราชชายาเจ้าดารารัศมี" (วันสิ้นพระชนม์ของพระองค์) ซึ่งเมื่องานเริ่มขึ้น ลำดับแรกเป็นพิธีบวงสรวง ซึ่งมีผู้คนที่เป็นเชื้อสายตระกูลของพระองค์มาร่วมงาน และจัดขบวนแห่ยิ่งใหญ่อลังการสมพระเกียรติ อีกทั้งยังมีการแสดงศิลปะท้องถิ่นล้านนา (ชื่อเก่าของเชียงใหม่ในสมัยโบราณ) ชื่อชุดการแสดง “ยอยศพระเกียรติเจ้าดารารัศมีพระราชชายา” โดยจัดบริเวณกู่เจ้านายฝ่ายเหนือ ในวัดสวนดอก (ภาษาเหนือ หมายถึง สุสานราชตระกูล ณ เชียงใหม่ เป็นสุสานหลวงที่เจ้าดารารัศมีทรงให้บรรจุอัฐิของเจ้านายในราชตระกูลไว้ที่นี่) สุดท้ายก่อนจบพิธีปิดงาน มีการจุดโคมที่วางไว้ตามสนามซึ่งโคมทำจากผ้าเป็นรูปกลีบดอกไม้ ข้างในมีเทียนอยู่ตรงกลาง ทุกจะถือเทียนหรือไฟแช็กไปจุดในโคมดอกไม้จนกระทั่งเต็มสนาม เป็นไฟสว่างไสวสวยงาม และยังมีการปล่อยโคมลอยไฟประจำท้องถิ่นเมืองเหนือ หรือที่รู้จักในนาม โคมยี่เป็ง ขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วย จำนววนไม่มากนัก แค่พอเป็นพิธี และควันประกอบการแสดงยังคงอยู่ด้วยตอนที่ทุกคนทำพิธีจุดโคมนี่ เมื่อถ่ายภาพออกมาจึงดูาสวยงามอย่างที่เห็น การจุดเทียนและโคมเหล่านี้ ก็เพื่อเป็นการรำลึกถึงเจ้าดารารัศมีนั่นเอง เป็นการจัดที่อบอุ่น ได้เห็นประเพณีท้องถิ่นที่หาชมได้ยาก และตื่นตาตื่นใจกับการแสดงอีกด้วย เพิ่งมารู้ทีหลังว่า งานนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของคนเชียงใหม่ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ถือเป็นเกียรติครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ร่วมงานนี้จริง ๆ ส่วนปี 2562 ได้จัดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 11-12 ธันวาคมนั่นเอง และในปี 2563 นี้ต้องรอดูสถานการณ์บ้านเมืองก่อน เพราะโรคโควิด-19 ยังคงระบาดอยู่ ใครอยากร่วมงานนี้คงต้องติดตามข่าวจากสื่อท้องถิ่นต่าง ๆ ของเชียงใหม่ไว้ ช่วงปลายปีอาจจะทราบข่าวคราวอีกครั้งกับงาน "ดารารัศมี รำฦก" ครั้งหนึ่งในชีวิต ร่วมงาน "ดารารัศมี รำฦก"