มาแล้วจ้า ........... วันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสบุกไปยังเกาะเล็ก ๆ ในประเทศอินโดนีเซีย ได้ยินชื่อตอนแรกคือแบบ เกาะไรวะ ไม่เห็นเคยได้ยินเลย!! แต่ไปก็ไป ลองดูสิว่ามันจะสวยมั้ย พอดีหลังจากที่เราแวะชมวิวชิมชาที่บาหลีแล้ว เราเลยอยากหาที่เที่ยวต่อ แต่พวกเราเบื่อบาหลีกันแล้วเพราะมาบ่อยเลยมานั่งคิดกันว่าจะไปไหนดีที่ไม่ไกลจากเกาะบาหลีมากและเดินทางสะดวก หลังจากใช้เวลาค้นหาไป 1 ชั่วโมงเราก็เห็นพ้องต้องกันว่าจะลองนั่งเรือไปเที่ยาเกาะ Nusa Lembongan กัน พวกเราซื้อตั๋วเรือจากร้านขายทัวร์ใน Ubud เขาบอกว่าจะส่งรถมารับแต่เช้าของวันถัดไปเพื่อไปขึ้นเรือสปีดโบ๊ทที่ท่าเรือSanur พอตื่นเช้าพวกเราเลยรีบแพ็คกระเป๋าเพื่อออกเดินทาง เราใช้เวลาเดินทางโดยรถตู้เพื่อไปขึ้นเรือประมาณ 2 ชั่วโมง ระยะทางไม่ไกลมากแต่รถติดมาก และถนนก็แคบมาก พอถึงท่าเรือก็รีบขึ้นเรืออกเดินทาง เป็นเรือเร็วแบบ 10 ที่นั่ง มีเสื้อชูชีพให้ทุกคน ความปลอดภัยใช้ได้เลย หลังเรือออกประมาณ 45 นาทีพวกเราก็มาถึงจุดหมายปลายทาง เกาะ Nusa Lembongan ภาพที่นึกไว้ตอนแรกคือ น้ำใส ทะเลสวย มองเห็นปลาเล็กปลาน้อยว่ายวนไปมา แต่พอลงเรือได้เท่านั้นแหละ น้ำทะเลฝั่งท่าเรือคือสีเหมือนน้ำโคลน ฮ่า ๆ แต่นั่นยังไม่พีค ที่พีคกว่านั้นคือ ถนนในเกาะ ถนนจากท่าเรือไปโรงแรมของเรา ยังเป็นถนนลูกรัง ฝุ่นสีแดงที่ถูกปลุกให้ตื่นขณะ 4 ล้อโดยสารคันเล็กผ่านไปทำให้ผมของพวกเรากลายเป็นสีน้ำตาลโดยไม่ต้องย้อม ระยะทางแค่ 10 กิโลเมตร แต่รู้สึกเหมือน 1,000 กิโลเลย เมื่อไหร่จะถึงเนี่ย มันเหมือนไกลมาก ท้องไส้ปั่นป่วนเพราะถนนมีหลุมเล็กหลุมใหญ่เยอะเหลือเกิน ตกลงไปทีนี่สะเทือนไปถึงอวัยวะภายใน เย้! ......... ในที่สุดพวกเราก็มาถึงโรงแรมสักที ดีใจมากที่ไม่ต้องนั่งรถหลบหลุมแล้ว พอพวกเราเงยหน้าขึ้นมองไปที่โรงแรมก็รู้สึกลืมความยากลำบากที่ผ่านมาแล้วเพราะโรงแรมสวยมาก เป็นสไตล์ Balinese Cottage มุงหลังคาด้วยก้านมะพร้าว มีสะว่ายน้ำตรงกลาง และติดกับ Devil’s Tear จึงได้ยินเสียงคลื่นทะเลขนาดใหญ่กระทบกับโขดหินขนาดมหิมา ทำให้เกลียวคลื่นมีความสูงได้ถึง 10 เมตร พอไปดูใกล้ ๆ กลายเป็นภาพที่สวยงามประทับใจมากมาก น้ำทะเลสีฟ้าครามสดใสจรดกับท้องฟ้าสีฟ้าอ่อนและผืนทรายนุ่มละเอียดสีทอง มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกมากที่พวกเราเลือกมาที่นี่กัน วันถัดมาเราเลือกเช่ามอเตอร์ไซค์เพื่อขี่ข้ามสะพานไปอีกเกาะชื่อ Nusa Ceningan ตั้งใจไปหาอะไรทานที่ Blue Lagoon เราออกตั้งแต่เช้าแล้วขี่เรียบไปกับชายหาดไปทางทิศตะวันออกจนเจอสะพานสีเหลืองเชื่อมสองเกาะ ถ้ามองลงจากสะพานไปพื้นน้ำจะเห็นว่าน้ำข้างล่างสะพานใสมาก มีปลาเล็ก ๆ สีฉูดฉาดว่ายวนไปมา พอลงจากสะพานเราเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหลักเลียบหาด ไม่น่าเชื่อว่าเกาะเล็ก ๆ เกาะนี้จะมีชายหาดสวยงามทอดยาวตลอดฝั่งตะวันตก เป็นสิ่งมหัศจรรย์มากที่ธรรมชาติที่สวยงามจะผสมกับบ้านเรือนท้องถิ่นได้อย่างลงตัว หมู่บ้านประมงเล็ก ๆ ที่มีเรือลำน้อยจอดอยู่ท่าหลังบ้านทุก ๆ หลัง พวกเราจินตนาการไปถึงเวลาพระอาทิตย์ตกว่าคงสวยงามน่าดู ว่าแล้วเราเลยใจอ่อนแพ้วิวสวย ตัดสินใจหาที่นั่งชิลบนเกาะจนถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดีกว่า เราไป Blue Lagoon เพื่อหาร้านนั่งช่วงบ่าย เลยได้ร้านที่อยู่ตรงข้ามฝั่ง Lagoon ชื่อบาร์ Mahana Point เป็นบาร์ที่อยู่บนแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล บาร์นี้เหมาะมากกับพวกฮิปปี้ ใช้ชีวิตสลาไลฟ์นั่งดูเกลียวคลื่นวิ่งเข้ากระทบฝั่ง ช่างเป็นวิวที่สวยงามและเงียบสงบดีจัง แต่บาร์นี้ยังไม่ใช่จุดที่สวยที่สุดในการดูพระอาทิตย์หรอกเพราะคนท้องถิ่นบอกว่ามีที่ ๆ สวยกว่านี้นั่นคือ Dead Pool View Point ที่ Nusa Lembongan ใช่ พวกเราต้องรีบขี่รถกลับไปเพื่อที่จะให้ทันพระอาทิตย์ตกซึ่งเหลือเวลาอีกไม่นาน สุดท้ายพวกเรามาถึงทันเวลาพอดี รีบจอดรถไว้ข้างหน้า View Point แล้วรีบวิ่งมาจองที่นั่งแถวหน้า จัดการสั่งค็อกเทลผลไม้สดชื่น ไม่นานท้องฟ้าก็กลายเป็นสีส้มสวยงามเป็นสัญญาณว่าพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า จากที่นั่งของเรามองลงไปจะเห็น Dead Pool ที่น่าเกรงขามสวยงามสมกับเป็นบ่อมรณะที่ตกลงไปแล้วไม่มีใครรักษาชีวิตกลับมาได้เลย สุดท้ายนับว่าทริปนี้ของพวกเรามีครบทุกรสชาติจริง ๆ ทั้งโหด มันส์ ฮา น้ำตาเล็ด และเป็นทริปที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้มด้วยวิวหลักหลายล้านในทุก ๆ มุมของเกาะ (ยกเว้นฝั่งท่าเรือ ฮ่า ๆ) อยากให้ทุกคนลองมาสัมผัสดูถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวบาหลีเพราะอยู่ไม่ห่างกันมากนัก เดี๋ยวตอนต่อไปจะพาไปเที่ยวที่สวย อีก ฝากติดตามผลงานของนักเขียนมือใหม่ด้วยนะคะ ภาพโดยผู้เขียน