การมาเที่ยวฮานอยในครั้งนี้ก็คงหนี้ไม่พ้นกับเดินอีกตามเคยค่ะ เดินเลาะตามเมืองฮานอยไปทุกซอกทุกมุมชื่นชมดูเมืองที่เต็มไปด้วยรถยนต์น้อยใหญ่ รวมถึงต้นไม้เขียวขจีที่ผสมผสานกับบ้าน ตึกแถว คอนโด น้อยใหญ่ของชาวเวียดนาม เดินจนปวดขาเดินจนขาลากเข้าโรงแรม เพราะคุณอาชอบการเดิน (ภาพจากนักเขียน) การเที่ยวที่ต้องขึ้นแต่รถสำหรับพวกเราแล้วมันเป็นการเที่ยวที่เสียโอกาสได้มองเห็นสิ่งแปลกใหม่นอกจากแหล่งท่องเที่ยว มันเป็นการเปิดโลกใหม่ของการเดินทาง ได้มองเห็นรอยยิ้มของชาวบ้านแบบจริง ๆ ไม่ใช่ยิ้มเพราะอยากขายของหรือสิ่งอื่นเพื่อผลประโยชน์จากเรา แต่เป็นการยิ้มเพื่ออยากถาม "ไปไหนมา" แต่พูดภาษาไม่ได้ ชวนชิมแต่ไม่คิดเงิน (เพราะคุณอาถามว่า "อร่อยไหม" แต่คุณตาที่นั่งขายของอยู่ริมถนนคงเข้าใจว่า "ขอชิมหน่อยได้ไหม" แต่ก็ยังไม่คิดเงินอีก) เป็นความสุขที่ยิ้มให้กันและกันระหว่างคนเดินทางกับชาวบ้านริมถนน (ภาพจากนักเขียน) เดินจนงงว่าเดินมาไกลขนาดไหนแล้ว สายตาก็มองไปเห็นสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ดูออกจะเด่นตากับป้าย Vietnam Museum of Ethnology พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาเวียดนาม แต่เราได้ดูเวลาแล้วก็เห็นจะไม่เหมาะกับเวลานี้สักเท่าไหร่ เราจึงตัดสินใจว่าจะมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพราะเวลา ณ ตอนนี้ หากรวมกับการเข้าชมพิพิธภัณฑ์และเวลาการเดินกลับที่พัก อาจจะใช้เวลามากจนเกินไป เป็นอันว่าขยับขาเริ่มวันใหม่ค่ะ เริ่มของวันใหม่จากที่เราได้ตัดสินใจว่าจะไปที่พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาเวียดนามนั้น เราก็ได้เตรียมตัวเพื่อจะไปที่พิพิธภัณฑ์กัน จุดเริ่มต้นของเราอยู่ที่ทะเลสาบฮว่านเกี่ยม เตรียมการเดินทางอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 30 นาที เราก็วางแผนกันตอน 6 โมงเช้า (ไม่เข้าใจกับคุณอาหนาวใจจะขาดกับเวลานี้ 17 องศาเลยนะเธอ) เราได้เดินออกกำลังกายไปเรื่อย ๆ บวกกับพักดื่มชา กาแฟ จากที่ต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่คุณอาผู้ชอบกับบรรยากาศเดินช้าจน 2 ชั่วโมง 20 นาทีเลยทีเดียว (มีใครเดินมากกว่าเราอีกไหม) ในที่สุดเราก็มาถึง พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาเวียดนาม เหมือนได้ยินเสียงจากระฆังตีเสียงดังกับการมาถึง ดีใจเราเดินได้ (ภาพจากนักเขียน) เมื่อถึงที่เราไม่รอช้าเข้าซื้อตั๋วทันทีกับ ราคา 150 บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) เมื่อเดินเข้าไปในสถานที่สิ่งแรกที่เห็นคือ การจัดนิทรรศการของแต่ละชนเผ่าที่มีอยู่ในเวียดนาม ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากถึง 54 ชนเผ่า (เยอะมาก) เป็นการแสดงของเสื้อผ้า มีด ของใช้ในครัวเรือนต่าง ๆ วัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละชนเผ่า เสื้อผ้าของบางชนเผ่าก็ดูเหมือนคล้ายกับของจีนผสมผสานอยู่ด้วยค่ะ เดินจนงงเพราะเยอะมากเป็นสถานที่เหมาะแก่การศึกษาประวัติของชนเผ่าเวียดนาม ภายในอาจจะเป็นเสื้อผ้าวัฒนธรรมต่าง ๆ แต่เมื่อได้เดินออกมาข้างนอกก็จะมีการจัดนิทรรศการของบ้านหลังใหญ่ทรงสูง ของชนเผ่า จาม (Cham) เทย์ (Tay) เย้า (Yao) และเวียด (Viet) เป็นชนเผ่าหนึ่งของเวียดนาม ที่มีความแตกต่างกันออกไป เป็นบ้านที่แปลกกว่าที่อื่นที่ดิฉันเคยเห็นมา มีบันไดที่สูงเป็นสิ่งแปลกและน่าทึ่งมาก เพราะทำจากต้นไม้ทั้งต้นเลยค่ะ เป็นรูปทรงเหมือนพีระมิดหลังคาทรงสูง บ้างก็เหมือนศาลาวัดที่มีความยาวแปลกตาไม่เหมือนกันแต่ละหลัง สถานที่เป็นที่ร่มรื่นเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินชมเป็นอย่างมากอากาศไม่ร้อนค่ะกำลังดี (ภาพจากนักเขียน) หากใครที่ได้มาฮานอยก็ไม่ควรพลาดกับพิพิธถัณฑฑ์ที่นี้นะคะ ศึกษาประวัติศาสตร์ของชนเผ่าเวียดนามต้องที่นี้เลยค่ะ คุณจะทึ่งกับความหลากหลายชนเผ่าอย่างแน่นอน พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาเวียดนาม Vietnam Museum of Ethnology