10 เมืองสีสวย สะดุด สุด Colorful ทั่วโลก สายถ่ายรูปต้องไปสักครั้ง !
ที่เที่ยวแต่ละเมือง แต่ละประเทศก็มักจะมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่ละที่ก็มีความดึงดูดใจนักท่องเที่ยวไม่เหมือนกันค่ะ และวันนี้ เราจะพามารู้จักกับ เมืองสีสวยสะดุด ใน 10 เมืองสีสวย สะดุด สุด Colorful ทั่วโลก ที่การันตีว่า ถ้าได้ไปเที่ยว สายชิลจะชอบมากๆ แถมยังได้รูปสวยๆ กับเมือง บ้านช่องต่างๆ กลับมาอีกด้วยค่ะ
มานาโรลา
Manarola
หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) ส่วนหนึ่งใน Cinque Terre ซึ่งเป็น 1 ใน 5 หมู่บ้านมรดกโลกของแคว้นลิกูเรีย (Liguria) ที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศอิตาลีค่ะ
หมู่บ้านนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1338 โดยตั้งอยู่ริมหน้าผาสูงชันบนฝั่งริเวียร่า และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศไปแล้ว เพราะสีสันสวยสะดุดของเมืองที่ทำให้ใครๆ ก็อยากมาสักครั้ง
===================
กวานาฮวาโต้
Guanajuato, Mexico
เมืองกวานาฮวาโต้ ตั้งอยู่ในหุบเขาแคบๆ ใจกลางประเทศเม็กซิโก โดยที่นี่ถูกค้นพบจากเหมืองแร่เก่าแห่งหนึ่ง ในภูเขาที่โอบล้อมเมืองนี้อยู่ สภาพของเมืองถูกตกแต่งด้วยสีที่ฉูดฉาดบาดตา และแน่นอนว่า ไม่นานผ่านไป เมืองนี้ก็กลายเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวไม่แพ้ที่ไหนเลยทีเดียว
====================
ท่าเรือบรีเก็น เมืองเบอเกน
Bryggen, Bergen, Norway
บรีเก็น เป็นท่าเรือเก่าของ เมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์ และยังเป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโกไปเมื่อปี 1979 อีกด้วยค่ะ แต่เดิมที่นี่เคยถูกเพลิงไหม้ แต่ปัจจุบันยังหลงเหลือสภาพอาคารไม้แบบโบราณอยู่บ้างค่ะ
TTphoto / Shutterstock.com
จากท่าเรือเดิม มีลักษณะเด่นที่การก่อสร้างอาคารเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ไปตามถนนแคบๆ ที่ทอดตัวขนานไปกับท่าเรือ ซึ่งบ้านเรือนจะมีลักษณะเป็นบ้านไม้สามชั้น มีหน้าจั่วและผนังข้างมุงด้วยแผ่นไม้ ทาสีที่โดดเด่นสะดุดตา สลับกันไปมา ส่วนด้านหลังมีโกดังหรือห้องเก็บของขนาดเล็กที่สร้างด้วยหิน เพื่อป้องกันบริเวณนี้จากเหตุเพลิงไหม้ เป็นอีกเมืองที่ทั้งสวย และอากาศดี เหมาะไปชิลสุดๆ
===================
วรอตสวัฟ
Wroclaw, Poland
เมืองวรอตสวัฟ เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโลว์เออร์ไซลีเชีย และยังเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศโปแลนด์อีกด้วย โดยที่นี้ถือว่าเป็นเมืองหนึ่งที่ดูทันสมัย มีความหลากหลาย และเต็มไปด้วยวัฒนธรรม
นอกจากความน่าสนใจในเรื่องของประวัติศาสตร์แล้ว ในเมืองแห่งนี้ยังถูกฉาบไปด้วยสีสันของสถาปัตยกรรมอาคารอันสวยงามรอบเมือง
=================
วิลเลมสตัด เกาะคูราเซา
Willemstad, Curacao
วิลเลมสตัด เป็นเมืองหลวงของเกาะคูราเซา ดินแดนเนเธอร์แลนด์แอนทิลลีส เกาะทางตอนใต้ของทะเลแคริบเบียน ประเทศเนเธอร์แลนด์ ดินแดนสวรรค์ของนักดำน้ำและผู้รักธรรมชาติทั้งหลาย
นอกจากนี้ลักษณะการตกแต่งอาคารบ้านเรือน โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอาณานิคมสไตล์ชาวดัตช์ และบริเวณทางเข้าของท่าเรือที่รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน ซึ่งอาคารแถบนั้นถูกระบายด้วยสีสันคัลเลอร์ฟูล ขนานไปกับพื้นผิวน้ำที่อยู่ข้างๆ สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวอย่างมาก ทำให้ถูกยกให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย
===================
เซนต์จอห์น นิวฟาวด์แลนด์
St. John’s, Newfoundland, Canada
เซนต์จอห์น เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดใน นิวฟาวด์แลนด์ ประเทศแคนาดา สำหรับสถาปัตยกรรมการตกแต่งของทีนี้นั้น มีความโดดเด่นแตกต่างจากที่อื่นๆ ของแคนาดา
ในส่วนของอาคารหลักๆ ของเมือง เป็นส่วนที่หลงเหลือจากประวัติศาสตร์ของอาณานิคมอังกฤษ แล้วนำมาบูรณะใหม่หลากหลายรูปแบบ แต่ที่เหมือนกันคือส่วนใหญ่จะทาด้วยสีสันแสนสดใส
=================
นูฮาวน์ โคเปนเฮเก้น
Nyhavn, Copenhagen, Denmark
ท่าเรือใหม่ อ่านว่า นูฮาวน์ แปลว่า ท่าเรือใหม่ เป็นเขตแห่งความบันเทิงริมน้ำของ เมืองโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ค สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 เป็นท่าเรือพาณิชย์ที่ไว้สำหรับเรือจากทั่วทุกมุมโลกมาเทียบท่า บริเวณนี้จึงรายล้อมไปด้วยผับ บาร์ และร้านอาหาร รวมไปถึงมีตึกรามบ้านช่องที่มีสีสันสดใส
ในช่วงฤดูร้อน นูฮาวน์ เป็นที่นิยมสำหรับวัยรุ่นชาวเดนมาร์กที่นิยมมานั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม แต่ถ้าไม่ชอบ คิดว่าราคาแพงไป ก็สามารถไปหาซื้อเครื่องดื่มจากร้านขายของชำและมานั่งที่ท่าเรือแห่งนี้ได้ตามอัธยาศัย นอกจากนี้ ยังเป็นที่สำหรับล่องเรือชมวิวและสถานที่ต่างๆ รอบกรุงโคเปนเฮเกนได้อีกด้วย
=================
ลา โบกา กรุงบัวโนส ไอเรส
La Boca, Buenos Aires
ลา โบกา เป็นย่านหนึ่งของกรุงบัวโนส ไอเรส เมืองหลวงของประเทศอาร์เจนตินา ย่านนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนชั้นแรงงาน มีสีสันสดใสหลากหลายจนลายตา ได้รับการก่อตั้งขึ้นในกลางศตวรรษที่ 19 เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของกรรมกรท่าเรือ โดยได้ตั้งติดอยู่ริมน้ำพอดี
sunsinger / Shutterstock.com
ย่านนี้ได้ชื่อว่ามีบ้านเรือนที่สร้างด้วยสังกะสีแต่มีการนำสีสดๆ แปลกๆ มาทา จิตรกรเบนีโต กินเกลา มาร์ติน เป็นผู้นำในการใช้สีของผู้คนในย่านนี้ในช่วงต้นๆ ศตวรรษค่ะ และก็นับเป็นที่ที่เตะตานักท่องเที่ยวให้ไปเยือนมากๆ
==================
บูราโน เวนิส
Burano, Venice
เกาะบูราโน่ เป็นเกาะที่เป็นที่อยู่ของชาวประมง และ ที่วิเศษสุดเลยคือเป็นหมู่บ้านที่มีสีสันสดใสไม่ซ้ำกัน จนได้ชื่อว่าเป็น เกาะแห่งสีสัน หรือเมืองลูกกวาดแห่งอิตาลี ที่นี่เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ในเขตทะเลสาบเวนิสทางตอนเหนือของเมืองเวนิสประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อด้านหัตกรรมทำลูกไม้ ติดอันดับต้นๆ ของอิตาลีนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 จนกระทั่งมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ลูกไม้เพื่อให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์และการผลิตอีกด้วย
การท่องเที่ยวนบูราโน่ส่วนใหญ่ก็จะเดินทางโดย การเดินเท้าชมเมือง และการท่องเรือชมสีสันตามอาคารบ้านเรือน ตั้งแต่ผนัง หน้าต่าง ประตู นั่นเองค่ะ
=================
เชฟชาอูน
Chefchaouen, Morocco
เมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศโมร็อกโก เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 538 ปี อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และมีชื่อเสียงมากที่สุดด้วยความโดดเด่นของอาคารบ้านเรือนที่ทาเป็นสีฟ้าทั้งหมดค่ะ
นอกจากสถาปัตยกรรมแบบโมร็อกโกที่เป็นสีฟ้า เชฟชาอูนยังมีสภาพแวดล้อมที่เป็นภูเขา และบรรยากาศในเมืองที่ผ่อนคลาย ทำให้เป็นที่ดึงดูดใจสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างมาก
ดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ แปลกแต่สวย! เชฟชาอูน เมืองสีฟ้าแห่งโมร็อกโก