คำว่า กลัวตกเทรนด์ เป็นคำที่ค่อนข้างน่ากลัวสำหรับการท่องเที่ยว เพราะช่วงหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยวแบบโหนกระแส เที่ยวแต่ในเมืองหลัก โดยไม่แยแสเมืองรองส่งผลให้พังในหลายด้าน Q: การเที่ยวแบบโหนกระแส เที่ยวแบบกลัวตกเทรนด์ พังอย่างไร A: กระทบปัญหาสิ่งแวดล้อม ค่าครองชีพ และวิถีชีวิต Photo by John Cameron on Unsplash การเที่ยวแบบกลัวว่าจะตกกระแสทำให้ทุกคนต่างแห่กันไปเที่ยวที่เดียวกันในเวลาเดียวกัน ก็เกิดปรากฎการณ์นักท่องเที่ยวกระจุกตัว โดยนับตั้งแต่ปี 2556 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแสดงข้อมูลว่าการท่องเที่ยวในบ้านเรา เที่ยวแบบกระจุกตัวอยู่ในจังหวัดใหญ่ ๆ เท่านั้น เช่น กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ กระบี่ พระนครศรีอยุธยา และเฉพาะกรุงเทพฯ เอง นักท่องเที่ยวเลือกที่จะท่องเที่ยวอยู่ในแค่จังหวัดกรุงเทพฯ ถึง 50% และพอทุกคนเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวเดียวกันมากเข้าก็เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดขยะที่เกิดจากการท่องเที่ยวถึง 500,000 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติก็เกิดความเสียหาย คนในแหล่งท่องเที่ยวที่กระจุกตัวนั้นก็มีค่าครองชีพที่สูงขึ้น มิหนำซ้ำยังส่งผลต่อวิถีชีวิตที่ถูกทำให้เปลี่ยนไป Photo by bantersnaps on Unsplash Q: แล้วจะทำอย่างไร A: ไม่รู้จะเรียกว่าในโชคร้ายมีความโชคดี หรือจะเรียกว่า เทรนด์การท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ก็มาดุถูกจังหวะ ถูกเวลาพอดิบพอดี เพราะคนหันมาสนใจท่องเที่ยวในสถานที่ที่มีคนไปน้อย ๆ รักษ์สุขภาพและใช้ชีวิตเนิบช้า จากข้อจำกัดและปัญหาข้างต้น จึงทำให้ในพ.ศ. นี้ คนเลือกที่จะไปเที่ยวเมืองรองมากขึ้น เพราะหนีปัญหานักท่องเที่ยวแออัด และไหนจะปัญหาที่พักเต็ม ปัญหามลพิษทางเสียง มลภาวะต่าง ๆ รวมถึงความเสี่ยงจากโรคระบาดในที่ที่มีคนจำนวนมาก นอกจากการท่องเที่ยวเมืองรองจะกลายเป็นเทรนด์แล้ว การท่องเที่ยวแบบรักษาสิ่งแวดล้อมและรักษ์สุขภาพ จำพวกนอนโฮมสเตย์ ทานอาหารจากสวนที่ปลูกเอง หรือสวนออร์แกนิค ไม่ใช้สารเคมี เป็นแนวโน้มของการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก Photo by Sebastian Pena Lambarri on Unsplash ยิ่งไปกว่านั้น นักท่องเที่ยวยุคใหม่ยังต้องการที่จะหลีกหนีไลฟ์สไตล์เดิมที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบที่ต้องเจออยู่ทุกวัน จึงเลือกที่จะออกไปท่องเที่ยวในที่ที่วิถีชีวิตมีความเนิบช้า สงบเงียบ ที่น่าสนใจคือ หากเดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองรอง จะได้พบว่านักท่องเที่ยวสายไลฟ์สไตล์เนิบช้านี้กลับมีอายุน้อยลง ไม่ใช่เพราะไม่มีแรง แต่พวกเขาสนใจใคร่รู้และต้องการหาตัวตน และที่สำคัญคือค้นหาแรงบันดาลใจ เพราะคนรุ่นใหม่ไม่นิยมทำอะไรที่ซ้ำกับคนอื่น การได้ท่องเที่ยวแบบคนน้อย อยู่กับความคิด จะเกิดความไอเดียสร้างสรรค์ได้มากและง่ายกว่า แม้กระทั่งการถ่ายรูปเพื่อลงโซเชียล การได้เที่ยวและถ่ายรูปแบบเรียล ๆ ไม่ติดฝูงคน ไม่ต้องรอให้คนออกไปจากวิวไฟเดอร์ (view finder) จะได้ภาพ real และ raw ด้วย Photo by Bekir Dönmez on Unsplash จากข้อดีทั้งหมดแล้ว อันที่จริงเที่ยวแบบไม่กลัวตกเทรนด์ ไม่ต้องโหนกระแส ยังเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า และเกิดมิตรภาพที่ยั่งยืน เที่ยวแบบไม่โหนกระแส เที่ยวแบบไม่กลัวตกเทรนด์ จึง Less but More วางแผนเที่ยวครั้งต่อไปลองคิดดูว่าอยากจะเบียดเสียดกับคนอื่น หรือไปเที่ยวแบบได้เรียนรู้ ได้เห็นโลกในแบบที่ควรได้เห็นดีกว่ากัน ภาพปก Photo by Simon Migaj on Unsplash