เมื่อพูดถึง สิงห์ปาร์ค เพื่อน ๆ หลาย ๆ คนก็อาจจะนึกไปถึงรูปปั้นสิงค์สีทองอร่าม ตัดกับสนามหญ้าสีเขียวที่เป็นไอคอนและโลโก้ ของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และเมื่อถามต่อว่ารู้จัก " สิงห์ปาร์ค " ไหม เพื่อน ๆ ก็อาจตอบว่ารู้จักสิคะ อยู่ที่เชียงรายใช่มะ ใช่ค่ะ สิงห์ปาร์คอยู่เชียงราย แต่ถ้าเราจะบอกว่า ที่ราชบุรี ก็มีนะเออเพื่อนทราบหรือเปล่า ?? แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ อ.สวนผึ้ง ราชบุรี นั่นคือ สวนผึ้งไฮแลนด์ ที่เราเรียกในความเข้าใจของเราว่า สิงห์ปาร์ค ณ ราชบุรีก็แล้วกัน เพราะสวนผึ้งไฮแลนด์อยู่ภายใต้การดำเนินการของบริษัท บุญรอดเช่นเดียวกันจ้าแต่จะเหมือนหรือแตกต่างอย่างไรตามเราและเด็ก ๆ ไปเที่ยวกันคร่า สวนผึ้งไฮแลนด์อยู่ไม่ไกลจากตัว อำเภอ สวนผึ้งถือเป็นแลนด์มาร์คที่ใกล้กว่าแลนด์มาร์คอื่น ๆ เมื่อผ่านจากตัวอำเภอ สวนผึ้งแล้วไม่ถึง 10 กิโลเมตร ก็ให้เตรียม ยูเทิร์นรถ สวนผึ้งไฮแลนด์จะอยู่ฝั่งขวา ขาออกจ้า เมื่อมาถึงเราจะเห็น ยีราฟคาเฟ่อยู่ทางด้านหน้าติดกับที่ซื้อตั๋ว สนนราคาตั๋วที่ 250 บ./ท่าน หางตั๋วสามารถนำไปแลกส่วนลดซื้อน้ำดื่มภายในได้นะจ๊ะ เด็กน้อยวิ่งปรู้ด ๆ ไม่รอช้า เตรียมต่อแถวเข้า พอบอกว่ามียีราฟนี่ตื่นเต้นสุดสุด ภายในพื้นที่สวนผึ้งไฮแลนด์มีกิจกรรมให้ทำมากมาย มีจุดเช็คอินถึง 16 จุดด้วยกัน และพื้นที่เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ มีการแบ่งโซนพื้นที่ไล่ระดับแต่ละโซนไป เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามา พวกเราจะเห็นกระเช้านั่งแบบรังนก ถูกจัดไว้ในสวนตกแต่งแบบอังกฤษ ซึ่งกำลังฮิตของสาวสาวนักท่องเที่ยวกันเลย จุดนี้รับรองได้รูปสวย ๆ อวดลงโซเชียลกันแน่นอน ถัดไปจะเป็นสวนต้นซากุระจำลองเห็นสีชมพูมาแต่ไกล ภายในมีบ่อปลาคาร์ฟญี่ปุ่น ขนาดใหญ่ให้เด็กเด็กได้ให้อาหารปลา และยังเป็นที่ตั้งของรูปปั้นสิงห์สีทองไอคอนของที่นี่อีกด้วย มุมถ่ายรูปเพียบ ไปแอ๊บถ่ายใต้ต้นซากุระสีชมพู๊ชมพู ได้ฟีลเหมือนไปปิคนิคกลางสวนในโตเกียว หลังจากให้อาหารปลาจนจุใจแล้ว เราพาเด็กน้อยเดินลงไปอีกหน่อยจะเป็นโซนฟาร์มม้าแคระ แพะโกอาล่า หรือแพะภูเขา ให้เด็กน้อยได้ให้แครอทกับน้องม้า ม้าแคระที่นี่เชื่องและฉลาดมาก และก็มาถึงโซนไฮไลท์ สวนยีราฟ นี่เป็นครั้งแรกที่น้องได้เห็นยีราฟ ร้องอู้หูววว !! กันเลยทีเดียว มีน้องยีราฟ อยู่ประมาณ 5-6 ตัว ให้เรายืนให้อาหารอยู่ทางเดินด้านบน พวกน้องเขาจะเดินมาหาเราเองพร้อมทำตาหวาน ๆ ใส่พวกเรา ปิ๊ง ๆ ๆ เดินมาถึงโซนด้านหลังสุดกันแล้ว เป็นโซนสวนเซ็น แบบญี่ปุ่น เมื่อเข้าไปภายใน พวกเราจะเห็นน้องห่านสีขาวตัวโต ๆ บ้างก็ลอยคลออวดโฉมให้เราชม บ้างก็นอนอาบแดดอยู่ริมบึงน้ำ มีสะพานไม้สีแดงให้เดินข้าม บรรยากาศเพลิน ๆ กำลังเคลิ้มเหมือนในหนังญี่ปุ่นดีอยู่หรอก แต่...ก็ต้องตื่นจากความฝันเพราะอากาศน่ะสิคะ ไหลย้อยกันเลยทีเดียว ด้วยความกว้างของบริเวณสวนผึ้งไฮแลนด์ สามารถเรียกเหงื่อพวกเราได้ดีเลยล่ะค่ะ เพราะต้องเดินขึ้นเดินลงเนินเขาน้อย ๆ เราว่าสถานที่ยังแอบขาดความชุ่มชื่นของต้นไม้ใหญ่ไปหน่อยอาจเป็นเพราะเพิ่งเปิดได้ไม่นาน คงต้องใช้เวลาเติบโตอีกสักหน่อยกว่าจะร่มรื่น แต่มิใช่ปัญหาของเด็กน้อยเลยสักนิดเดียว นางวิ่งเล่นจนหอบเราเลยให้นั่งพักทานน้ำขนมตรงส่วนคาเฟ่ หลังจากอิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาลาแล้วจ้า ถือเป็นวันดี ๆ กับการมาเที่ยวแบบเบา ๆ เป็นจุดเช็คอินที่เหมาะกับครอบครัว แต่อากาศคงไม่ได้เย็นเหมือนเชียงรายนะตัวเธอ แนะนำให้มาเช้า ๆ นะจ๊ะทุกคนด้วยรักค่ะ