long time nee see trip in Rayong ก่อนที่เราจะแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยว นั้น ขอเกริ่นสักนิดก่อน ว่า เมื่อก่อนเราและเพื่อน ๆ ทำงานอยู่ที่เดียวกัน การที่จะนัดเจอกันหรือนัดเที่ยวก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากอะไรเลย พอชีวิตโตขึ้นความเปลี่ยนแปลงก็เริ่มเข้ามา ผู้เขียนได้ย้ายจากที่ทำงานเดิมมาอยู่ที่จังหวัดระยอง ก่อนหน้านี้เราได้มีการออมเงินในทุก ๆ เดือนสำหรับการเที่ยวโดยเฉพาะ และจุดหมายแรกของการเที่ยวคือ “ทะเล” เมื่อพูดถึงทะเลก็มีหลายที่ที่เราอยากไปสัมผัส โดยส่วนตัวผู้เขียนอยากไปฝั่งอันดามันมาก ๆ แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ก็คงต้องรอปีต่อไป เมื่อเป้าหมาย คือ ทะเล (เหมือนโชคชะตาจะรู้) เราทำงานอยู่ที่จังหวัดระยอง การตัดสินใจเลือกที่เที่ยวก็ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถตัดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นได้อีก สำหรับทริป 3 วัน 2 คืน ในระยองครั้งนี้จะเป็นยังไงไปดูกันเลย เริ่มต้นจากการเดินทางในตัวเมืองระยอง ไปที่ท่าเรือบ้านเพ ใช้เวลาประมาณ 30 - 45 นาที ก็ถึงท่าเรือ สำหรับรถยนต์ที่ฝากไว้ที่ท่าเรือมีค่าบริการคืนละ 100 บาท และค่าตั๋วเรือไปกลับ ประมาณ 100 ต่อคน การนั่งเรือใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็ถึงเกาะเสม็ด ค่าบริการผ่านด่านคนละ 20 บาท และค่ารถสองแถวคนละ 10 บาท เราจองห้องพักแบบครอบครัวสำหรับ 4 คน ที่โรงแรมชิลลี่ สำหรับโรงแรมนี้ ด้านล่างจะเป็นร้านอาหาร ข้างบนจะเป็นห้องพัก ดูแล้วลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ บรรยากาศในห้องพักสวย สะอาด และเหมาะกับราคาที่สุด อีกทั้งยังใกล้กับหาดทรายแก้วอีกด้วย สำหรับห้องพักเราเสียกันคนละ 625 บาท พอเราเข้าถึงห้องพักแล้ว พวกเราก็ต้องรีบทำเวลาอาบน้ำ แต่งตัว แข่งกับเวลาที่พระอาทิตย์จะตกดิน สาเหตุที่ต้องเร่งก็เพราะว่าเราเดินทางออกจากตัวเมืองมาก็ตอนบ่าย 2 โมงแล้วนั่นเอง แสงพระอาทิตย์ตก ยามเย็น แสงพระอาทิตย์ตก ยามเย็น ลูกหมู 2 ตัว กับการตั้งใจเซลฟี่ กับแสงพระอาทิตย์ตอนเย็น ณ หาดทรายแก้ว หลังจากที่เดินถ่ายรูปรอบหาดเสร็จแล้ว พวกเรามุ่งไปที่ ร้านพลอยทะเล ที่เลือกร้านนี้ไม่ใช่แค่ว่าอาหารอร่อย เพราะว่าเขามีโชว์ควงกระบองไฟด้วย การควงกระบองไฟเริ่มต้นขึ้นประมาณ 3 ทุ่ม การแสดงเป็นกลุ่มผู้ชายที่แข็งแรงประมาณ 10 กว่าคนได้ สำหรับไฮไลต์น่าจะเป็นการการควงไฟที่ทำให้หาดทรายสว่างไสวแบบนี้ เช้าวันที่ 2 ในเกาะเสม็ด เริ่มต้นด้วยการออกมาถ่ายรูปที่หาดทรายแก้ว ด้วยเวลาที่มีอย่างจำกัด คือ เราต้องเดินทางออกจากเกาะก่อน 10 โมง เพราะต้องออกเที่ยวที่ต่าง ๆ ต่อ แต่ก็มาเที่ยวเกาะเสม็ดทั้งทีคงไม่ได้แค่มาหาดทรายแก้วอย่างเดียวเนาะ ยังมีเกาะต่าง ๆ ที่ยังรอให้เราไปชมความงามอีกมากมาย จากนั้นเราได้เช่ารถสองแถว เที่ยวเกาะต่าง ๆ ในเกาะเสม็ด เรา 4 คน เสียค่ารถไปคนละ 200 บาท ถือว่าคุ้มมาก รถสองพาเราไปเกาะต่าง ๆ เริ่มต้นด้วยอ่าวพร้าว และจบด้วยจุดชมวิว แต่ละที่เขาให้เวลาเรา 20 นาที แต่ถ้าเราต้องการมากว่านั้นก็บอกเขาได้ เกาะแต่ละที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ผู้เขียนจำแต่ละเกาะไม่ได้แต่มีรูปมาฝากนะ เกาะต่างๆ เกาะต่างๆ เกาะต่างๆ เกาะต่างๆ เกาะต่างๆ พอจบจากเที่ยวรอบเกาะ ก็ได้เวลาเดินทางออกจากเกาะเสม็ดแล้ว พอถึงฝั่งก็มุ่งไปที่ ทุ่งโปร่งทองกันต่อ เราถึงทุ่งโปร่งทองประมาณเกือบเที่ยง พื้นที่สีเขียวขจี กับแสงแดดที่ร้อนแรง จนพวกเราไม่สามารถเดินต่อไปจนถึงเรือรบประแสร์ได้ เราตัดสินใจหยุดอยู่ที่มุมถ่ายรูปประมาณ 5 นาทีได้ แล้วก็ต้องหันหลังเดินกลับออกมา เมื่อไม่ได้เดิน ก็ล่องเรือเอาบรรยากาศสักหน่อยก็ยังดี บรรยากาศการล่องเรือช่างแตกต่างกับการเดินที่ผ่านมาจริง ๆ โดยส่วนตัวเราชอบมาก พี่คนขับเรือบอกเราให้ถ่ายรูปกับหัวเรือ เป็นอะไรที่เสียวมากบอกเลย แต่พอมาดูรูปแล้วก็ถือว่าคุ้มค่าเสี่ยงนะ นั่งเรือชมธรรมชาติ จากนั้นก็เดินทางกันไปต่อที่ เขาแหลมหญ้า เสียค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท รถยนต์อีก 30 บาท เมื่อมาถึงเขาแหลมหญ้าก็ต้องไปถ่ายรูปกับบ้านหลังสีขาว (ไม่ถ่ายถือว่ามาไม่ถึง) เราใช้เวลากับสะพานอยู่นานมาก สำหรับการถ่ายรูปที่ชลมุนวุ่นวายของแต่ละคน เขาแหมหญ้า เขาแหลมหญ้า เขาแหลมหญ้า จากนั้นเราเดินทางกลับที่พักในตัวเมืองระยอง ไปกินข้าวเย็น ที่ร้านบุฟเฟ่ย์ เจ้มาลี ซีฟู๊ด ราคาหัวละ 399 รวมทุกอย่างไม่จำกัดเวลา อาหารสด สะอาด อร่อย 😋 หลังจากนั้นพวกเราๆก็ได้แฮงเอาท์กันต่อที่ มานี มีบาร์ ฟังเพลง ชิวๆ ตามประสา สาวๆ อิอิ จบทริป วันสุดท้ายส่งเพื่อนๆรถรถตู้กลับไปกรุงเทพ ที่ ขนส่งระยอง การเดินทาง เดินทางโดยใช้รถส่วนตัว Cr.panadda pky