เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2564 วันพ่อแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันหยุดยาว 3 วัน (เสาร์ อาทิตย์ จันทร์) ภายหลังจากสถานการณ์ "โควิด-19" เริ่มผ่อนคลาย สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการยกระดับมาตรการความสะอาดหรือความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ที่ผ่านการรับรองและได้รับเครื่องหมาย SHA และ SHA+ เริ่มเปิดดำเนินการ และเป็นช่วงที่สถานประกอบการต่าง ๆ พยายามสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ให้มาใช้บริการ โดยนำเสนอสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมายให้กับนักท่องเที่ยว จึงเป็นโอกาสอันดีที่ผมกับครอบครัวจะได้ออกท่องเที่ยวซักทีหลังจากที่เหงาหงอยจากการ Lock Down โควิด-19 มาเป็นปี และก็ได้เลือกเซ็นทารา อ่าวนาง บีช รีสอร์ทและสปา กระบี่ เป็นจุดหมายการเดินทาง โดยติดต่อจองที่พักโดยตรงจาก website ของ Centara และได้จองเข้าพักวันที่ 4-6 ธันวาคม 2564 (3 วัน 2 คืน) ในราคาที่น่าพอใจ ผมและครอบครัวออกเดินทางวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม 2564 ขับรถจากกรุงเทพลงไปกระบี่ โดยแวะพักในตัวเมื่องก่อน 1 คืน และเข้าเช็คอินโรงแรมในวันรุ่งขึ้น (4 ธันวาคม 2564) และด้วยเซ็นทารา อ่าวนาง ได้รับการรับรอง SHA+ ผู้เข้าพักจึงต้องได้รับวัคซีนโควิดครบโดสด้วย ซึ่งผมและครอบครัวได้รับวัคซีนโควิดกันครบโดสแล้วจึงไม่มีปัญหาในการเข้าพัก และยังมีเซอร์ไพรส์จากทางโรงแรมที่มอบส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับการทานดินเนอร์ที่ชาดหาดโรงแรมและการใช้บริการสปาของโรงแรมอีก ช่วงที่เดินทางไปนั้นเป็นช่วงที่มีพายุเข้าทางภาคใต้ด้วย แต่โชคดีมากที่วันที่เราเข้าพักนั้นพนักงานโรงแรมบอกว่าเป็นช่วงที่อากาศเริ่มเปิดแล้ว จึงไม่มีฝน และอากาศสดใส ท้องฟ้าสวยงามมาก ในวันแรกที่เข้าพักก็จะเดินเล่น เล่นน้ำกันที่อ่าวนาง ในวันที่ 2 ตั้งใจจะเหมาเรือท้องถิ่นออกไปเที่ยว เกาะทับ เกาะไก่ เกาะหม้อ ที่เชื่อมต่อกันเป็นทะเลแหวก ซึ่งเป็น UNSEEN THAILAND และเกาะปอดะ ที่ขึ้นชื่อของทะเลกระบี่ ตื่นแต่เช้าทานอาหารเช้าเสร็จก็มานั่งรอรถที่จะมารับเราไปที่ท่าเรือคลองม่วง โดยเรือที่จะพาเราออกไปเป็นเรือท้องถิ่นแต่ก็เกิดเหตุระทึกขึ้นเมื่อผมและครอบครัวขึ้นเรือกันเรียบร้อย เรือก็ออกจากท่า แต่จังหวะที่ออกจากท่าท้องเรือไปกระแทกับตอไม้ใต้น้ำดังปุ ผมก็มองไปตรงจุดที่มีเสียง ก็เห็นว่าท้องเรือตรงนั้นแตกเป็นรูใหญ่ น้ำเริ่มทะลักเข้าท้องเรือ แต่คนขับซึ่งเป็นเจ้าของเรือยังไม่เห็นก็เร่งเครื่องออกสู่ทะเล ผมจึงตะโกนบอกเจ้าของเรือว่า ท้องเรือทะลุน้ำทะลักเข้ามาแล้ว ยังโชคดีที่เรือออกมาในทะเลไม่มาก น้ำยังไม่ลึก ผมจึงรีบอพยพครอบครัวออกจากเรือขึ้นหาดใกล้ ๆ ก่อน ส่วนเจ้าของเรือก็พยายามนำเครื่องยนต์ออกจากเรือที่กำลังจมทะเลอย่างรวดเร็ว ผมก็ติดต่อไปทางบริษัททัวร์ที่เราซื้อทัวร์ไว้ เขาก็บอกให้รอ เพื่อจะหาเรือมาเปลี่ยน เสียเวลาหลายชั่วโมง แต่ก็ได้ไปทั้ง 4 เกาะเพราะเสียเวลาเปลี่ยนเรือทำให้เวลาในการไปเที่ยวเกาะทั้ง 4 เกาะน้อยลง และเจอฝนด้วย ทำให้รู้สึกว่ายังเที่ยวได้ไม่เต็มอิ่ม แต่ก็ดีใจที่ครอบครัวปลอดภัยเดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ ผ่านมาหลายปีแล้ว ยังคิดถึงอ่าวนางอยู่ ยังมีอีกหลายที่ที่ยังไม่ได้ไป คงต้องหาวันว่างจัดทริปไปเยี่ยมเยียน "อ่าวนาง" ให้หายคิดถึงซะแล้ว เครดิดภาพ : รูปภาพทั้งหมดถ่ายโดยครีเอเตอร์เอง อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !