รีเซต

8 ออนเซ็นชื่อดัง ภูมิภาคโทโฮคุ+คันโต นั่งรถไฟไปง่ายสาย JR-East

8 ออนเซ็นชื่อดัง ภูมิภาคโทโฮคุ+คันโต นั่งรถไฟไปง่ายสาย JR-East
Muzika
20 พฤศจิกายน 2562 ( 15:00 )
1.7K

     ภูมิภาคโทโฮคุ และภูมิภาคคันโต นั้นเป็นแหล่งออนเซ็นชื่อดัง และที่เที่ยวอันซีนมากมาย แค่คิดว่าได้แช่ออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินเที่ยวมาทั้งวัน คงจะรู้สึกดีเกินบรรยาย ยิ่งโดยเฉพาะฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่เต็มไปด้วยสีสันแดงส้มยิ่งเพิ่มเสน่ห์อันน่าหลงใหลเป็นทวีคูณ วันนี้เราได้เลือกแหล่งออนเซ็นที่น่าสนใจในภูมิภาคโทโฮคุ และภูมิภาคคันโตมาฝากกัน ซึ่งออนเซ็นเหล่านี้ยังสามารถใช้ JR Pass เดินทางไปได้ในราคาสุดคุ้มอีกด้วย

 

 

 

1. นิวโตออนเซ็น จังหวัดอาคิตะ

 

 

     นิวโตออนเซ็น คือหมู่บ้านออนเซ็นตั้งอยู่บริเวณเชิงเขานิวโตในอุทยานแห่งชาติโทวาดะ-ฮะจิมันไต ประกอบด้วยออนเซ็น 7 แห่ง แต่ละแห่งมีแหล่งกำเนิด และคุณสมบัติของน้ำแร่ต่างกันไป ว่ากันว่าหากแช่ออนเซ็นครบทั้ง 7 แห่งนี้จะสามารถรักษาได้สารพัดโรคเลยทีเดียว โดยเฉพาะออนเซ็นที่พลาดไม่ได้เลยคือ ‘ทซึรุโนะยุ’ เพราะเก่าแก่ที่สุดในบรรดาออนเซ็นทั้ง 7 แห่ง

 

 

2. มินามิดะออนเซ็น จังหวัดอาโอโมริ

 

 

     ออนเซ็นที่นี่พิเศษไม่เหมือนใคร เพราะคุณจะได้แช่ออนเซ็นท่ามกลางลูกแอปเปิ้ลที่ลอยอยู่รอบกาย แอปเปิ้ลเหล่านี้อ่อนโยนต่อผิว และยังช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื่น ประกอบกับน้ำแร่ที่มีส่วนประกอบของอัลคาไลอ่อนๆ ยิ่งเสริมสรรพคุณด้านความงาม อีกทั้งกลิ่นหอมหวานซ่อนเปรี้ยวของแอปเปิ้ลยังทำให้รู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายได้อีกด้วย นอกจากออนเซ็นแล้ว บริเวณ ทซึการุ แห่งนี้ยังมีทิวทัศน์อันสวยงามของท้องทุ่ง ทิวเขาสลับซับซ้อนของชิราคามิ และเทือกเขาฮักโกดะให้คุณได้เพลิดเพลินอีกด้วย ที่นี่จึงได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับสาวญี่ปุ่น

 

 

3. ฮานะมากิออนเซ็น จังหวัดอิวาเตะ

 

 

     หมู่บ้านฮานะมากิออนเซ็นมีที่พักพร้อมออนเซ็นตั้งเรียงรายอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำไดกาวะ และแม่น้ำโทโยกาวะ ที่พักมีหลายรูปแบบให้เลือกไม่ว่าจะเป็นแบบทันสมัยหรือแบบดั้งเดิม พร้อมด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่างเช่น มากิออนเซ็น ไดออนเซ็น นามาริออนเซ็น โอซาวะออนเซ็น และยามะโนะคามิออนเซ็น อีกทั้งแต่ละที่ยังมีความพิเศษและคุณสมบัติของน้ำแร่แตกต่างกันไปอีกด้วย

 

 

4. กินซังออนเซ็น จังหวัดยามากาตะ

 

 

     เอกลักษณ์ของออนเซ็นแห่งนี้อยู่ที่อาคารเรียวกังไม้สไตล์ตะวันตกที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปลายสมัยไทโชจนถึงต้นสมัยโชวะตั้งเรียงรายอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำกินซัง สถานที่แห่งนี้ยังคงสภาพไว้ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมชวนให้คิดถึงกลิ่นอายในอดีต น้ำแร่ของที่นี่ใสไร้สี แต่มีกลิ่นกำมะถันอยู่บ้างเนื่องมาจากยังมีส่วนประกอบของโซเดียมคลอไรด์และซัลเฟต นอกจากนี้ ที่นี่ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ส์ชื่อดังอย่างเรื่องโอชินอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศสมัยเก่ายิ่งนัก

 

 

5. อะคิอุออนเซ็น จังหวัดมิยางิ

 

 

     หนึ่งในสามน้ำพุร้อนชื่อดังของญี่ปุ่น เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘น้ำพุร้อนแห่งนาโตริ’ เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำนาโตริทางตะวันตกของเมืองเซนได นอกจากชื่อเสียงเรื่องปริมาณแร่ธาตุที่เข้มข้นและอุณหภูมิน้ำที่สูงถึง 45 องศาเซลเซียสที่ทำให้ที่นี่โด่งดังเป็นอย่างมากแล้ว ออนเซ็นแห่งนี้ยังมีประวัติความเป็นมาอันเก่าแก่ และได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

6. ฮิกาชิยามะออนเซ็น จังหวัดฟุกุชิมะ

 

 

     ออนเซ็นแห่งนี้จัดเป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น โดยถูกค้นพบตั้งแต่ 1300 ปีก่อนโดยนักบวชผู้โด่งดังชื่อเกียวคิ ออนเซ็นบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมด้วยตัวเรียวกังที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำและมีลักษณะคล้ายโรงน้ำชาสมัยก่อน ในอดีตมีบุคคลชื่อดังทางประวัติศาสตร์มากมายที่ได้มาเข้าพักที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นนักรบชื่อดังอย่างโทโมโทมิ ฮิเดะโยชิและฮิจิคาตะ โทชิโซ หรือนักกวีและศิลปินอย่างทาเคฮิซะ ยูเมะจิและโยซะโนะ อากิโกะ นอกจากนี้ น้ำแร่ของที่นี่ยังเป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณอีกด้วย

 

 

7. คุซัทซึออนเซ็น จังหวัดกุนมะ

 

 

     ออนเซ็นที่ได้รับเลือกให้เป็นออนเซ็นที่ชาวญี่ปุ่นอยากไปมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ออนเซ็นนี้มีสรรพคุณสามารถรักษาเกือบทุกโรค อีกทั้งยังมีลำธารออนเซ็นยุบาทาเกะที่ตั้งอยู่กลางหมู่บ้านยิ่งเนรมิตให้ทัศนียภาพงดงามแปลกตาไม่เหมือนที่อื่น นอกจากแช่ออนเซ็นแล้ว ยังสามารถเดินเล่นรอบหมู่บ้าน ชมความงามของน้ำตกน้ำพุร้อน หรือตื่นตากับการแสดงยุโมมิซึ่งเป็นการแสดงร้องเพลงพื้นบ้านขณะใช้ไม้พายกวนน้ำในออนเซ็นเพื่อลดอุณหภูมิของน้ำ รับรองว่าหาดูที่อื่นไม่ได้แน่นอน

 

 

8. คินุกาวะออนเซ็น จังหวัดโทชิกิ

 

 

     ออนเซ็นแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำคินุกาวะในเมืองมรดกโลกนิกโก้ ในอดีตออนเซ็นแห่งนี้เปิดให้สำหรับนักบวช และไดเมียวเท่านั้น แต่เมื่อเข้าสู่สมัยเมจิเป็นต้นมาก็เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าใช้บริการได้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก น้ำแร่ของที่นี่เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ประกอบด้วยอัลคาไลซึ่งมีสรรพคุณมากมายตั้งแต่บรรเทาอาการปวดเมื่อย รักษาอาการอ่อนเพลีย เสริมสร้างสุขภาพ และยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนนุ่มอีกด้วย

===============

 

ท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุอย่างสนุกยิ่งขึ้นด้วย JR EAST PASS

 

  • โทโฮคุเป็นภูมิภาคขนาดใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆ การเดินทางจะสะดวกสบายและคุ้มค่ายิ่งขึ้นหากคุณใช้ JR EAST PASS (Tohoku Area) เพราะสามารถขึ้นรถไฟสาย JR Tohoku ได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวเป็นเวลา 5 วัน จึงท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกและเจาะลึกมากขึ้น โดยตั๋วผู้ใหญ่จำหน่ายในราคา 19,000 เยน และตั๋วเด็กราคา 9,500 เยน (ราคาสำหรับซื้อจากนอกประเทศญี่ปุ่นที่เว็บไซต์ทางการของ JR-EAST) รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ https://www.jreast.co.jp/e/eastpass_t/index.html

 

  • คุณยังสามารถเดินทางได้สะดวกกว่าเดิมด้วยบริการจองที่นั่งบนรถไฟ JR-EAST ล่วงหน้าผ่านอินเตอร์เน็ตก่อนเดินทางมาประเทศญี่ปุ่น ได้ที่เว็บไซต์ https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/Menu/Menu.aspx

 

  • ที่เว็บไซต์ของ JR-EAST ยังนำเสนอข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในคันโตและโทโฮคุทั้ง 4 ฤดู เพื่อการวางแผนก่อนมาเที่ยวญี่ปุ่นและเลือกท่องเที่ยวได้ตามความสนใจ โดยเข้าชมได้ที่ https://eastjapanrailway.com/th/2019-autumn