หลวงปู่สรวง เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนจังหวัดศรีสะเกษ และคนทั่วไปที่อยู่ในประเทศไทย รวมไปถึงคนที่อยู่ฝั่งประเทศกัมพูชาด้วย ท่านถูกเรียกขานว่าเป็นนักบุญแห่งแดนอีสานใต้ และได้สมญานามว่า “เทวดาเดินดิน” ผู้ใดที่ได้มาพบและขอพรกับท่าน มักจะเกิดผลสำเร็จสมดังปรารถนา และก็ได้กลับมาหาท่านอีก จึงสร้างความศรัทธาแก่ทุกคนที่ได้มาพบ อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีความเมตตา กรุณา และมีบารมีที่สูงส่ง มักจะช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากอยู่เสมอ โดยท่านเป็นผู้ที่คอยบำเพ็ญเพียร รักษาศีลไม่ขาด ที่สำคัญคือ อยู่อย่างสมถะ เรียบง่าย ทำให้มีผู้เลื่อมใสในตัวท่านเป็นจำนวนมาก ประวัติของหลวงปู่สรวงนั้น ไม่ปรากฏแน่ชัดมากนัก เนื่องจากท่านมาจากประเทศกัมพูชา เป็นดาบสผู้รักษาศีลอยู่ตามป่าเขา โดยท่านได้ออกธุดงค์มาตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งท่านเข้ามาในประเทศไทยเมื่อใด ไม่มีผู้ทราบได้ ทราบเพียงว่าเข้ามาเป็นเวลานานแล้ว มีผู้พบเห็นท่านอยู่ภายในเขตอำเภอภูสิงห์ และอำเภอขุขันธ์ แต่ไม่ได้มีที่พำนักอยู่อย่างประจำถาวร มักจะเปลี่ยนที่พำนักไปเรื่อย ๆ ใช้ชีวิตอย่างสมถะอยู่ตามป่า หรือกระท่อมตามไร่นาของชาวบ้านในหมู่บ้านเขตชายแดน นาน ๆ ทีจึงจะกลับมาที่เดิม แต่เมื่อท่านเริ่มชราภาพลง ท่านก็ได้พำนักอยู่ในที่ประจำมากขึ้น ผู้คนสามารถมาพบได้ ทั้งยังมีผู้มาฝากตัวเป็นศิษย์ และอาสาขับรถให้ ท่านจึงได้ออกไปช่วยเหลือและสั่งสอนผู้คนตามที่ต่าง ๆ ซึ่งก็เดินทางไปเกือบทั่วประเทศไทย ทำให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น หลวงปู่สรวงได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2542 ซึ่งไม่มีผู้ใดทราบอายุที่แท้จริงของท่านเลย สรีระสังขารของท่านนั้นไม่เน่าเปื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยได้มีการเก็บรักษาไว้ในโลงแก้ว ประดิษฐานอยู่ที่วัดไพรพัฒนา ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ (พิกัด https://goo.gl/maps/7sQ6jTSznQzNLCH46) มีพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหล่องพ่อพุฒ วายาโม เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งท่านเองก็ได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สรวง และวัดไพรพัฒนานี้ ก็เคยเป็นที่พำนักของหลวงปู่สรวงด้วยเช่นกัน เดิมสรีระสังขารของหลวงปู่สรวงนั้น ประดิษฐานอยู่ในศาลาธม ภายในวัดนั้นเอง แต่ภายหลังพระครูโกศลสิกขกิจได้สร้างมณฑปปราสาท เพื่อเป็นที่ประดิษฐานสรีระสังขารใหม่ขึ้น โดยมีการสร้างเป็นศิลปะแบบขอมโบราณ ลักษณะรูปทรงคล้ายกับปราสาทเก่าแก่ ความงดงามของมณฑปปราสาทนี้ นอกจากจะอยู่ที่รูปทรงของสถาปัตยกรรมแล้ว ที่หน้าบัน บานประตู หน้าต่าง ยังแกะสลักลวดลายที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่สรวงไว้อย่างปราณีตและวิจิตรเป็นอย่างยิ่ง โดยทำการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2559 และได้มีพิธีอัญเชิญสรีระสังขารของหลวงปู่สรวงขึ้นไปประดิษฐานในมณฑปปราสาทนี้ เมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2559 ด้านในมีการจัดสถานที่ไว้ให้ประชาชนที่เดินทางมา ได้เข้ามากราบไหว้สรีระสังขารของหลวงปู่สรวงเพื่อขอพร และสามารถเดินลอดใต้โลงแก้วเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ ซึ่งทางวัดก็ได้เปิดให้ผู้คนเข้ามากราบไหว้ได้ตลอดทั้งปี และจะมีการจัดพิธีสรงน้ำ เปลี่ยนผ้าไตรให้แก่สรีระสังขารของหลวงปู่สรวง อีกทั้งยังมีพิธีบรรพชา อุปสมบทหมู่ การปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน เพื่อเป็นการบำเพ็ญกุศลและรำลึกถึงหลวงปู่สรวงในทุก ๆ ปี ซึ่งก็จะมีพุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสศรัทธาในหลวงปู่สรวงเดินทางมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก (ภาพประกอบทั้งหมดโดย : ผู้เขียน)