สวัสดีค่ะทุกคนอ้ายฉิงพาเที่ยวภูทอก จ.บึงกาฬ หรือที่เรียกกันว่าภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่ก็อยู่ไม่ไกลกันนักแต่ยังไม่เปิดให้เข้าชม บอกเลยว่าใครที่ยังไม่เคยพิชิตเขานี้อยากจะให้มาลอง มันมีทั้งความสนุก ตื่นเต้น หวาดเสียว ลุ้นระทึกและประทับใจไปพร้อมกันเลย ใครชอบขึ้นเขา อยากให้วิวรอบทิศแบบ 360 องศา วัดภูทอกตอบโจทย์แน่นอน ชื่อวัดเต็ม ๆ ก็คือ วัดเจติคีรีวิหาร นั่นเอง ถ้าพร้อมแล้วมาเดินสะพานไม้ไปเที่ยวภูทอกบึงกาฬพร้อมกับอ้ายฉิงได้เลยการเดินทางไปเที่ยวภูทอกบึงกาฬของอ้ายฉิงเป็นการเที่ยวเมื่อช่วงกลางปี 65 ที่ผ่านมา ลองคิดย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน มันก็ทั้งสนุกและตลกเลย เพราะเป็นการไปเที่ยวแบบปุ๊บปั๊บไปมาก เพื่อนสนิทสมัยมหาลัยบอกว่าจะมาหาแต่ไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะพาไปเที่ยว ตอนแรกก็บอกว่าอยากเที่ยวในสกลนคร ไปวัดถ้ำผาแด่นเท่านั้นแต่พอมาถึงอ้ายฉิงก็โดนเพื่อนหิ้วขึ้นรถไปแบบงง ๆ ว่า “ไปเที่ยวภูทอก บึงกาฬกัน” เราก็ใจง่ายก้าวขึ้นรถไปแบบไม่ลังเลเลยเพื่อนมาจากอุบลราชธานีวิ่งตรงมารับอ้ายฉิงที่ อ.เต่างอย จ.สกลนคร โดยเฉพาะ เพื่อพาเที่ยวบึงกาฬ แต่ว่ากว่าเราจะได้เที่ยวก็ล้อหมุนค่อนข้างช้าพอสมควร ทำให้ไปถึงวัดภูทอกค่อนข้างช้า เกือบจะเที่ยงเลยทีเดียวอ้ายฉิงก็ไม่ติดอะไร เรื่องเที่ยวนั้นไวอยู่แล้วไปไหนไปกัน อีกอย่างภูทอก บึงกาฬ แม้จะเป็นจังหวัดที่ไม่ไกลจากสกลนครนักแต่ก็ยังไม่เคยไปเที่ยวสักที ในใจก็คิดไปด้วยว่าภูทอก ขึ้นยากไหมนะ ใช้เวลาเดินนานไหมนะ ส่วนตัวเคยพิชิตภูกระดึงมาแล้วหลายครั้งก็คิดว่าภูทอกก็คงจะไหว สบาย ๆ แน่นอนจำไม่ได้เหมือนกันว่าระยะเวลาการเดินทางจากสกลนครบ้านอ้ายฉิงมาถึงวัดภูทอกใช้เวลากี่ชั่วโมง หลังจากไปถึงวัดแล้ว ก็หาที่จอดรถ ภายในวัดขับเข้าไปด้านในได้เลยมีที่จอดรองรับหลายคน ด้านหน้าวัดก็มีร้านค้า ร้านขายของฝากต่าง ๆ รวมถึงร้านอาหารถ้าหิวก็แวะกันได้ ส่วนอ้ายฉิงและผองเพื่อนนั้นก็แวะซื้อนิดหน่อย ได้สมุนไพรติดมือกลับไปพอจอดรถแล้วพากันเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ด้านบนเขาภูทอกนั้นไม่มีที่ให้เข้าแน่ ๆ ป่าและเขาล้วน ๆ ในช่วงแรกของการเดินก็จะชิว ๆ สบาย ๆ ไม่มีความสูงชัน ไม่มีความยากในการปีนเลย โดยจะมีป้ายบอกอยู่เป็นช่วง ๆ ว่าเราปีนภูทอกน้อย บึงกาฬได้ถึงชั้นไหนแล้วซึ่งก็ต้องยอมรับว่าอ้ายฉิงเองก็เริ่มเหนื่อยและเหงื่อท่วมตัวตั้งแต่ชั้นต้น ๆ เลยทีเดียว ภูทอก บึงกาฬไม่หมูเลย ใครคิดจะมาเที่ยววัดภูทอกแนะนำว่าเตรียมร่างกายให้พร้อมและเตรียมแรงใจให้ดี เพราะถ้าถอดใจกลางทางเมื่อไหร่ก็ปีนไม่ถึงไหนแน่นอนอ้ายฉิงและเพื่อนปีนครบทั้ง 7 ชั้น แต่ว่าก็อาจไม่ได้ไปครบทุกจุด ทุกมุม เนื่องจากเวลามีจำกัด และสิ่งไม่คาดฝันก็ดันเกินขึ้นอีกด้วยเมื่อขึ้นไปถึงชั้นบน ๆ แล้ว จะเป็นการเดินบนสะพานไม้ภูทอก เดินรอบหน้าผาเลย แนะนำว่าไม่ควรจินตนาการถึงการร่วงและคนกลัวความสูงอาจไม่ชอบสะพานแบบนี้แน่ ๆ เช่นกัน เพื่อนอ้ายฉิงหนึ่งคนที่ไปพร้อมกันกลัวความสูง เดินเกาะหินผาไปด้วย ค่อย ๆ เดิน ก้าวขาทีละก้าว มองลงไปข้างล่างก็หวิว มองด้านหลังก็หวิว ใจหล่นวูบวาบได้ง่ายมากเอาจริง ๆ วิวที่สะพานไม้ภูทอกก็จะเป็นหน้าผาเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือ ความสูง ที่สูงขึ้นนั่นเองพออ้ายฉิงเดิน ๆ อยู่ แล้วปล่อยเพื่อนที่เดินช้าไว้ข้างหลัง เดินมาก่อนกับเพื่อนอีกคน คิดว่าจะมารอที่ต้นทาง แต่รอสักพักนานแล้วเพื่อนที่เดินตามหลังไม่ถึงสักที เลยปรึกษากันแล้วตัดสินใจเดินย้อนกลับตามเส้นทางเดิน ตอนนี้อ้ายฉิงก็อยู่ชั้น 6 แล้ว เหลือชั้น 7 ที่ก็ไม่คิดจะขึ้นเนื่องจากเป็นป่าล้วน ๆ แถมฟ้าเริ่มมืดลงเวลาใกล้จะ 6 โมงเย็นแล้ว เลยพากันรีบหาเพื่อนแล้วจะได้รีบลงเขาภูทอกแต่ปรากฏว่าเดินย้อนเส้นทางก็ไม่เจอ ถามผู้คนที่ผ่านไปก็ไม่มีใครเห็น เลยคิดว่าเพื่อนอีกคนน่าจะเดินขึ้นชั้น 7 เลย พากันขึ้นไปบนนั้น พบนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะขึ้นหรือไม่ขึ้นดี พวกเขาเห็นอ้ายฉิงและเพื่อนอีกคนก็ถามว่าจะขึ้นไปหรือ? เลยบอกว่าเราตามหาเพื่อนอีกคนที่หลงจากกัน มีน้อง 2 คนในกลุ่มนั้นตัดสินใจมาเป็นเพื่อน คนนึงน้องเล็กน่าจะชั้นอนุบาล ส่วนอีกคนพี่นั้นเพิ่งเรียนจบมหาลัย ต้องขออภัยที่จำชื่อน้องทั้งสองไม่ได้แล้วและอยากขอบคุณที่อุตส่าเดินเป็นเพื่อนทั้งที่ฟ้าเริ่มมืดแล้วณ ชั้น 7 วัดภูทอก บึงกาฬกับการหลงทางเสียเองบนนั้นมืดมาก ส่วนมากเป็นป่าไผ่ ใบไม้รกเดินต้องระวังเท้าให้ดี นอกจากจะต้องระวังสะดุดเถาวัลย์ล้มแล้วยังต้องระวังสัตว์มีพิษอย่างงู และตอกย้ำความน่ากลัวด้วยป้ายเขียนว่า “ระวังงู” หลังจากเดินบนเส้นทางป่าชั้น 7 ภูทอกนั้น เดินไปเดินมาหลงทางกันเสียเอง เพราะมันมีแต่ทางแยะ หาเพื่อนไม่เจอยังไม่พอ หาทางลงเขาก็ไม่เจออีกด้วย เดินกันอยู่พักใหญ่พยายามหาทางลง ดันไปเจอธงปักไว้ว่าเป็นจุดสูงสุดภูทอก จะลงทางนั้นมีหวังได้ไปสวรรค์ของจริงเป็นแน่สักพักน้องคนเล็กนั้นเริ่มน้ำตาคลอแล้วถามหาแม่ แล้วแม่น้องก็โทรมาตามว่าลงมาได้หรือยัง ก็ได้แต่ตอบว่ากำลังหาทางลงไปอยู่ พวกเขาเดินลงไปรอที่ชั้นล่าง ๆ แล้ว ในระหว่างที่พวกเราเดินทางลงจะลงจากภูทอกชั้น 7 อยู่นั้น แม่น้องก็โทรขึ้นมาอีกรอบ บอกถามชื่ออ้ายฉิงและเพื่อน บอกว่ามีเพื่อนคนหนึ่งตามหาอยู่ ปรากฏว่า เพื่อนที่อ้ายฉิงกำลังหานั้นเดินลงไปก่อนแล้ว แน่นอนเขาขึ้นมาชั้น 7 แต่เขาลงไปก่อนที่พวกเราจะขึ้นมา ปัญหาตอนนี้คือ อ้ายฉิงและผองเพื่อนบนนี้จะลงยังไง น้องอีกคนบอกว่าคิดออกทางเดียวคือโทรให้คนข้างล่างมาตามหาหรือเรียกเฮลิคอปเตอร์มารับ แค่คิดก็วุ่นวายแล้วไม่นานได้ยินเสียงคนแว่วดังขึ้นมา พวกเราเดินย้อนกลับไปยังบางเส้นทาง เพราะก็จำแทบไม่ได้ว่าเดินผ่านเส้นไหนบ้าง แต่ตามเสียงคนไป ปรากฏว่าเจอคนที่เหมือนกำลังจะขึ้นมา พวกอ้ายฉิงดีใจมากและบอกตัวว่า “เรารอดแล้ว” นั่นคือทางลงเขา มันก็เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่ระทึกใจไม่น้อยเลย อาจจะนานหน่อยกว่าจะเจอ กว่าจะลงจากภูทอกมาถึงที่จอดรถ นักท่องเที่ยวคนอื่นกลับไปหมดแล้ว อ้ายฉิงก็กล่าวขอบคุณและลาน้องทั้งสองที่เดินเป็นเพื่อนแล้วก็เดินทางกลับเช่นกันวัดภูทอกชมวิวสวย ปีนเขา 7 ชั้น แต่ละชั้นน่าสนใจอย่างไร?ภูทอก บึงกาฬ ชั้นที่ 1 – 2 เดินง่าย สะดวก ยังเป็นสะพานกลางป่าปกติ ค่อนข้างมืด สะพานทอดไปยังชั้นที่ 3 ด้วย มีโขดหิน มีทางแยก 2 ทาง ซ้าย - ขวา หากเลือกที่จะเดินไปทางซ้าย จะลัดไปยังชั้นที่ 5 ของภูทอกเลย หากเลือกที่จะไปทางขวาก็ไปยังชั้นที่ 4 นั่นเองภูทอก บึงกาฬ ชั้นที่ 4 จะเป็นสะพานไม้แบบเวียนรอบภูเขา เดินไต่ลัดเลาะไปตามหน้าผาสูง ด้านล่างจะเป็นเนินเขาเตี้ยจะมีชื่อเรียกว่าดงชมพู ทางด้านทิศตะวันออกจะจดกับภูลังกาที่เป็นป่าดินชื้น ในชั้นที่ 4 ของภูทอกนั้นจะเป็นที่พักแม่ชี ควรเดินด้วยความสงบสำรวมเสมอภูทอก บึงกาฬ ชั้นที่ 5 สำหรับชั้นนี้จะมีศาลาใหญ่ ๆ มีพระพุทธรูป กุฎิและที่เก็บสังขารพระอาจารย์จวน ให้ความรู้สึกสงบ ร่มรื่น อากาศเย็นสบาย มีบริเวณชั้นนี้จะมีถ้ำหลายจุด จะมีสะพานหินที่แยกออกไปจากกินใหญ่แต่ไม่ร่วงดูแล้วก็คล้ายกับพระธาตุอินทร์แขวนของเมียรม่าเลย หากไปยังจุดนั้นมองกลับไปจะเห็นวิวภูทอกได้ชัดมากภูทอก บึงกาฬ ชั้นที่ 6 หากใครขึ้นมาไม่ถึงบอกเลยว่าพลาดมาก เป็นชั้นที่จะได้เดินริมผา ชมวิวสวยงาม หากเที่ยวช่วงหน้าหนาวก็ลุ้นเจอหมอหนาสวยงามพัดผ่านอีกด้วย คนกลัวความสูงจะต้องใช้ความกล้าเข้ามาช่วยในการเดินสะพานไม้ชั้นนี้ภูทอก บึงกาฬ ชั้นที่ 7 สำหรับชั้นสุดท้ายนี้ ชั้นที่อ้ายฉิงหลงทางกลางป่า งูเยอะ เดินระมัดระวังกันด้วยพกไฟฉายด้วยจะดีมาก ขึ้นไปชั้น 7 ไม่ยากจะเจอบันไดทอดขึ้นไปจากชั้น 6 แม้ว่าจะแลดูขนาดพื้นที่ไม่กว้างนั้นแต่ถ้าหลงก็หาทางลงยาก บนนั้นมีเนื้อที่ 5 ไร่โดยประมาณเลยทีเดียวประวัติและที่มาวัดภูทอก บึงกาฬที่วัดเจติยาคีรีวิหาร(วัดภูทอก) นี้จะเป็นภูทอกน้อย มีบันไดขึ้นไปยอดภูซึ่งเปรียบกันว่าเหมือนบันไดที่เป็นเส้นทางธรรมที่น้อมนำสัตบุรุษให้พ้นโลกแห่งโลกียะ โลกแห่งโกกุตระ โลกแห่งการหลุดพ้นด้วยความเพียรพยายาม เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบ วัดภูทอก บึงกาฬ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2483 โดยท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ซึ่งก่อนนี้ท่านบำเพ็ญอยู่ที่ภูวัว อ.เซกา จ.หนองคาย ก็ได้นิมิตเห็นปราสาท 2 หลังที่สวยมากท่ามกลางภูมิประเทศที่สวยงาม ร่มรื่น เหมาะจะปฏิบัติธรรม เลยออกเดินทางไปพิสูตน์ ปักกรดอยู่บนถ้ำภูทอกกับพระครูศรีธรรมวัฒน์ ชาวบ้านเห็นเลยพร้อมใจกันสร้างวัดขึ้นมาภูทอกบึงกาฬสูงเท่าไรหลายคนคงมีคำถาม อ้ายฉิงก็หาข้อมูลมาให้แล้ว โดยวัดจากฐานจนถึงยอดภูทอกเลยจะสูง 460 เมตร มีบันไดต่าง ๆ ขึ้นไป 7 ชั้น ในชั้นที่ 6 นั้นหากวัดรอบจะได้ 800 เมตร ซึ่งเป็นผาสูงชันมาก ทางด้านทิศเหนือจะติดต่อกับภูทอกใหญ่ ทิศใต้ติดถนนบ้านนาต้อง บ้านศรีวิไล ทิศตะวันออกติดถนน ร.พ.ช. บึงกาฬ - บ้านโพธิ์หมากแข้ง และในทิศตะวันตกจะติดกับทุ่งนาบ้านนาคำแคน บ้านนาสะแบง เที่ยวภูทอกใช้เวลากี่ชั่วโมงนั้นก็ตอบยากเหมือนกัน ระยะเวลาการปีน การเดิน การหยุดพักแต่ละคนไม่เท่ากัน แล้วไหลจะเผื่อการหลงทางแบบอ้ายฉิง แต่ตีไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็กำลังดีเผื่อคนที่แวะภูทอกแล้วต้องไปเที่ยวบึงกาฬที่อื่นต่อบันไดภูทอกบึงกาฬใครสร้าง?สะพานนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเองแน่นอน และดูจากความตอกไม้ ตอกเหล็กเข้าหน้าผาหินนั้นมันไม่ง่ายเลยกว่าจะสร้างได้ ในปี พ.ศ. 2512 ทางชาวบ้านนาคำแคนได้ช่วยกันสร้างบันไดขึ้นภูทอกถึงชั้นที่ 5 – 6 และสร้างเสนาสนะสำหรับพระสงฆ์ ใช้เวลากว่า 2 เดือน 10 วันเลยกว่าจะเสร็จ ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2513 – 2514 พระอาจารย์จวน ได้ชวนชาวบ้านสร้างทำนบกั้นน้ำ 2 แห่ง เอาไว้เก็บน้ำและทำน้ำประปาขึ้นไปใช้ในวัดภูทอก นอกจากนั้นยังมีการถวายเครื่องไฟฟ้าแรงสูงจากกองทัพอากาศดอนเมืองพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่เป็นองค์ประธาน 1 องค์ในวิหารชั้น 5 กรมวิเทศสหการและญาติโยมสมทบทุนสร้าง รวมถึงศาลาที่ชั้น 1 และสร้างสะพานลอยฟ้ารอบภูทอกที่เป็นเส้นทางให้เราได้เดินริมผาตรงบริเวณชั้น 5 ชั้น 6 นั่นเอง รวมถึงการสร้างที่บำเพ็ญเพียรแทรกไปตามจุดต่าง ๆ ด้วย แน่นอนว่ากว่าจะสร้างได้ยากลำบากอย่างมาก เพราะจะต้องเจาะหินผา ทำนั่งร้านไม้ ทำสะพานที่มีความแข็งแรงการปรับปรุงสะพานไม้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและตรวจสอบความแข็งแรงอยู่เสมอ ในปี พ.ศ. 2513 ได้ปรับปรุงสะพานชั้น 5 ให้กว้างขึ้นและทางเดินเสมอกัน ในปี พ.ศ. 2517 ปรับปรุงสะพานไม้ชั้น 6 ของภูทอก และทำสะพานในชั้น 4 ให้กลับมาแข็งแรง ในปี พ.ศ. 2519 ได้จัดทำนบกั้นน้ำในเขตวัดและทำถังน้ำบนเขาภูทอกที่ชั้น 5 รวมถึงทำกุฎิต่าง ๆ บนชะง่อนเขา และในปี พ.ศ. 2523 ได้มีการจัดทำถนนรอบภูเขา 3 ลูก เป็นการกั้นเขตแดนของวัด ในส่วนของเจดีย์สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดับหินอ่อน สวยงาม สูง 31 เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2529 นั่นเองความประทับใจการเที่ยววัดภูทอก บึงกาฬชอบบรรยากาศของวัดภูทอก บึงกาฬ มีความสงบ ร่มรื่น พาร่างกายมาสัมผัสกับต้นไม้ ป่าเขา รู้สึกดีมาก ๆ แม้ว่าจะเหงื่อท่วมกายเพราะการเดินขึ้นเขาก็ตาม วิวแบบ 360 องศา สวยงามของจริงแบบไม่จกตา ยิ่งถ้าใครมาแล้วเจอหมอกหนาแล่นผ่านจะยิ่งเพิ่มความฟิน เสียดายอ้ายฉิงเที่ยวไม่มีหมอกลงแต่วิวก็ยังงดงามอยู่ดี ประทับใจบรรยากาศ ประทับใจน้องสองคนที่เดินเป็นเพื่อนและหลงทางด้วยกัน วัดมีที่จอดรถให้สะดวกสบายไม่ต้องกังวลการเตรียมตัวเที่ยวภูทอก บึงกาฬวางแผนการเดินทางจากจุดเริ่มต้นให้ดี ถ้าไปถึงเช้าหน่อยจะได้มีเวลาปีนแบบไม่เร่งรีบ ไม่ต้องกลัวจะลงจากเขาไม่ทันวัดปิดใส่รองเท้าที่เดินสะดวก รองเท้าผ้าใบที่พอดีเท้า เดินสบาย ไม่หลุดง่าย กันลื่นได้ดีชุดที่สะดวกต่อการปีนเขาเดินป่า เน้นใส่คล่องตัว แนะนำแขนขาว ขายาวจะดีสุด เพราะอยู่ในวัดและกันยุงและเหล่าแมลงได้ดีเตรียมร่างกายให้ดี โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเลย การปีนภูทอก 7 ชั้น เหนื่อยไม่เบาพกน้ำดื่มขวดเล็ก ๆ ติดตัวด้วย จิบระหว่างทางเดิน แต่อย่าลืมถือขยะกลับลงมาทิ้งให้ลงถังด้วย และควรเที่ยวแบบอนุรักษ์ไม่เด็ดหรือเก็บอะไรติดตัวออกมา ปล่อยให้ธรรมชาติสวยงามอย่างที่มันควรจะเป็น เก็บมาเพียงภาพถ่ายและความทรงจำก็พอการเดินทางมาวัดภูทอก บึงกาฬวัดภูทอก เขาภูทอกน้อย บึงกาฬ เดินทางมาเที่ยวได้ฟรี ไม่มีค่าเข้าชมใด ๆ กะระยะเวลาขึ้นลงเขาให้ดี ค่ำแล้ววัดก็ปิด ลงเขาลำบากนะ การเดินทางมาเที่ยวภูทอกนี้อ้ายฉิงและผองเพื่อนเองก็วิ่งรถตาม GPS มา ถึงวัดเลย บางเส้นทางอาจผ่านเขตชุมชน ผ่านหมู่บ้าน กว่าจะมาถึงวัดแต่ก็ไม่มีหลงGPS : https://goo.gl/maps/QUkYtcS8iD8h6s5h9Facebook: วัดเจติยาคีรีวิหาร ภูทอก จ.บึงกาฬนับเป็นอีกหนึ่งรีวิวเที่ยวบึงกาฬที่ค่อนข้างยาวเหมือนกัน สำหรับใครที่แวะมาชมภาพ มาอ่านรีวิวอ้ายฉิงขอบพระคุณด้วยใจ ฝากติดตามผลงานรีวิวอื่น ๆ ด้วยนะ ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวบึงกาฬอยู่บอกเลยว่าอย่าพลาดที่นี่ ภูทอกพร้อมต้อนรับให้ทุกคนมาทดสอบกำลังใจกำลังขากันแล้ว เนื้อหารีวิว : อ้ายฉิงผู้เขียนภาพประกอบ: อ้ายฉิงผู้เขียนบุคคลในภาพ : อ้ายฉิงผู้เขียนข้อมูลประวัติที่มา : วัดเจติยาคีรีวิหาร / วิกิพีเดีย , สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาพปก : Canva อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !