เพิ่งผ่านปีใหม่มาหยก ๆ แบบนี้ เป็นธรรมดาของชนชาวไทยที่มักจะนึกถึงวัดวาอาราม ทำบุญกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้บทความนี้ก่อเกิดขึ้นมา เพราะต้องการจะแชร์-แบ่งปันทั้งบรรยากาศ ภาพรวม ความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ทุกผู้อ่านได้รู้ และอยากจะกล่าวสวัสดีปีใหม่แก่มิตรรักทุกท่านมา ณ ที่นี้ วัดไตรมิตรที่เรารู้จัก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนนมิตรภาพไทย-จีน บริเวณใกล้เคียงกับสถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นวัดอารามหลวง ที่สร้างตั้งแต่ปีพ.ศ. 2477 เดิมทีชื่อว่า “วัดสามจีน” เพราะร่วมก่อสร้าง-ก่อตั้งด้วยคนสามคน ซึ่งในยุคสมัยนั้น เป็นยุคที่ชนจากแผ่นดินจีนมาตามลำเรือสำเภา และเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ก็อย่างที่เราทราบและคุ้นเคยกันดีกับแถวเยาวราช ซึ่งเป็นเขตไชนาวทาวน์ของไทย วัดสามจีนจึงเป็นเหมือนประตูด่านหน้า ที่เมื่อใครพบเห็นก็เป็นการเตือนให้ได้รู้ว่า ท่านได้เดินทางเข้าสู่ย่านถิ่นอาศัยของชาวจีนแล้ว ในเวลาต่อมา วัดสามจีน ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘วัดไตรมิตร’ ซึ่งยังคงความหมายเดิมเอาไว้ เพราะไตรแปลว่าสาม และมิตรที่ว่านี้ บ่งบอกถึงมิตรภาพระหว่างชาวไทย ที่หยิบยื่นให้คนจีน ประหนึ่งเป็นพี่น้องจากชาติเดียวกัน ให้ทั้งที่ทำมาหากิน ให้ที่อยู่อาศัย และกลายเป็นคนกลุ่มก้อนเดียวกันในที่สุด ในทุกวันนี้ วัดสามจีน หรือ วัดไตรมิตร เปรียบเสมือนอนุสรณ์ที่ทำให้คนไทยทุกคน หรือผู้ที่มาท่องเที่ยวได้รับรู้ว่า ชนชาวไทยและจีน มีมิตรภาพอันยาวนานที่ดีต่อกัน เฉกเช่นคนไทยหลายหมื่นหลายแสนคน ที่ต่างก็มีรากเหง้าเป็นคนจีน มีเชื้อสายจีนสืบทอดต่อกันมา ผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งคน ที่มีเชื้อสายบรรพบุรุษเป็นคนจีนที่มาจากเรือสำเภา คุณตายังเล่าให้ฟังอยู่เลยว่าสมัยที่เป็นเด็ก ๆ อาม่าของคุณตาใช้ให้เอาถ่านไปเร่ขายตามบ้านที่เป็นตึกแถว ซึ่งเป็นนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคนไทย เน้นการค้าขาย ขยัน และสู้งานในทุก ๆ อย่าง เราจึงมักไม่ค่อยเห็นคนจีนอดตาย กลับกันในทุกวันนี้มีบ้านคนจีนหลายคน ที่ลูกหลานนำความรู้ นำหัวทางด้านค้าขายไปต่อยอดจนเกิดประโยชน์มากมาย วัดไตรมิตรช่วงนี้คนจะคึกคักมากเป็นพิเศษ เต็มไปด้วยชนจากต่างชาติ และคนไทยมากมายเข้าไปกราบไหว้ องค์พระประธานด้านในเป็นองค์ทองคำ ซึ่งในปัจจุบันไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นทองคำแท้หรือไม่ นอกเหนือจากนี้ยังมีโบสถ์ด้านล่างอีกโบสถ์ ที่ต้องลงไปกราบไหว้ด้วยเช่นกัน เราคาดเอาว่าการปั้นขององค์พระในโบสถ์นี้ เป็นการปั้นจากคนละสมัยขององค์พระในองค์ประธาน เพราะทรงหน้าแป้นกว่า เหมือนเป็นศิลปะจากทางขอม หรือไม่ก็สุโขทัย ตอนนี้หากใครจะเข้าไปกราบไหว้ ก็เป็นวาระที่กำลังเหมาะ เพราะทุกคนก็อยากจะไปไหว้เพื่อขอพรปีใหม่ แต่อยากให้ทุกท่านแต่งตัวให้เรียบร้อย หากนุ่งสั้น-แขนกุด จะโดนเจ้าหน้าที่ข้างบนจับใส่ผ้าคลุมหมดค่ะ แม้ภายในวัดจะไม่ได้มีสถาปัตยกรรมของจีนให้เห็นเหมือนในวัดจีนที่อื่น ๆ แต่ก็เต็มไปด้วยประวัติแห่งความเกี่ยวโยงกันอย่างแน่นแฟ้นระหว่างคนไทยและคนจีน ถ้าหากใครที่ยังไม่ได้มีโอกาสไปกราบไหว้ อยากเรียนเชิญทุกท่านให้ลองไปดูสักครั้งในชีวิต เพื่อให้ได้เห็นอนุสรณ์แห่งความผูกพันระหว่างคนจากชนชาติสองชาติ ที่ร่วมสร้างสิ่งดี ๆ ร่วมกันมาอย่างมากมายค่ะ สุดท้ายนี้ในวาระปีใหม่ ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการอำนวยอวยชัยให้ทุกท่าน มีแต่ความสุข มีแต่ความสบายใจ สุขภาพแข็งแรง และอยู่ติดตามผลงานการเขียนกันแบบนี้ไปนาน ๆ นะคะ ไว้พบกันในบทความต่อ ๆ ไปจ้า วัน-เวลา เปิดทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. ค่าใช้จ่ายในการชม : คนไทยเข้าฟรี คนต่างชาติเสียเงิน 300 บาทค่ะ