“เมืองโบราณผิงเหยา” เป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศจีน ได้รับการยกย่องว่าเป็น “เมืองโบราณขนาดใหญ่ที่รักษาสภาพไว้ได้สมบูรณ์ที่สุด” ร่วมกับเมืองลี่เจียงแห่งมณฑลยูนนาน รวมถึงการที่เมืองโบราณทั้งเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “แหล่งมรดกโลก” จากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1997 แม้จะมีประวัติความเป็นมายาวนาน แต่สิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ปรากฏให้เห็นทุกวันนี้ถูกสร้างในยุคราชวงศ์หมิงและชิง โดยเฉพาะกำแพงเมืองที่มีการต่อขยายและบูรณะซ่อมแซมเกินกว่า 10 ครั้ง รวมถึงการสร้างป้อมประตูเมืองและเพิ่มหอป้องกันข้าศึก ปัจจุบัน “กำแพงเมืองผิงเหยา” มีความยาวโดยรอบประมาณ 6 กิโลเมตร สูงราว 12 เมตร ความกว้างของทางเดินบนกำแพงเมืองขนาด 3-6 เมตร มีประตูเมือง 6 แห่งอยู่ทางด้านทิศเหนือและใต้ ด้านละ 1 แห่ง ประตูเมืองด้านทิศตะวันออกและตะวันตก ด้านละ 2 แห่ง มีหอคอย 72 แห่ง และเชิงเทิน 3,000 แห่ง จัดเป็นกำแพงเมืองโบราณที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ เทียบเท่ากับกำแพงเมืองนานจิงและกำแพงเมืองซีอาน อดีตราชธานีโบราณอันยิ่งใหญ่ของประเทศจีน ตัวเมืองเก่าภายในกำแพงเมืองมีพื้นที่ประมาณ 2.25 ตารางกิโลเมตร มีอาคารในยุคราชวงศ์หมิงและชิงราว 3,800 หลัง ในจำนวนนี้เป็นอาคารที่อนุรักษ์เอาไว้ให้อยู่ในสภาพเดิมกว่า 400 หลัง ส่วนภายนอกกำแพงเมืองจัดเป็นเขตเมืองใหม่ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในด้านอสังหาริมทรัพย์ พาณิชกรรม อุตสาหกรรม และการขนส่ง โดยมีเนื้อเมืองหนาแน่นอยู่ทางด้านตะวันตกของเขตเมืองเก่าจากประตูเมืองไปจนถึงสถานีรถไฟเมืองผิงเหยา การจัดวางผังภายในเมืองโบราณมีลักษณะเกือบเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่า กำแพงเมืองด้านทิศเหนือ ตะวันออกและตะวันตก มีลักษณะตัดตรง ต่างจากด้านทิศใต้ที่บางช่วงบางตอนมีลักษณะโค้งเว้า หากมองจากมุมสูงลงมามีรูปร้างคล้ายเต่า มีหัวคือประตูเมืองด้านทิศใต้ มีหางอยู่ทางประตูเมืองด้านทิศเหนือ และขาทั้งสี่ข้างเป็นประตูเมืองด้านทิศตะวันตกและตะวันออก ด้านละสองแห่ง อีกทั้งนอกประตูเมืองด้านทิศใต้ซึ่งเปรียบเสมือนหัวเต่ายังมีบ่อน้ำอีกสองบ่อเป็นลูกตา เมืองผิงเหยาจึงมีชื่อเล่นว่า “กุยเฉิง” หรือ “เมืองเต่า” โดยมีถนนหลักสี่สายกระจายออกไปในสี่ทิศ ถนนรอง 8 สาย และซอยเล็ก 72 แห่งตัดผ่านกันไปมาเป็นโครงข่าย ถนนหลักด้านทิศใต้ หรือหนานต้าเจี่ย (Nan Da Jie) เป็นถนนสายหลักของเมืองที่ควบคุมโครงสร้างทางการเงินถึงร้อยละ 50 ของประเทศจีนในยุคราชวงศ์ชิง มีร้านค้าและร้านแลกเงินตั้งอยู่เรียงรายตลอดสองฟากฝั่ง ย่านการค้าเงินในเมืองผิงเหยาเป็นย่านการค้าเงินแห่งแรกของประเทศจีนที่เอกชนรวมตัวกันเปิดกิจการ เมื่อร่ำรวยขึ้นจึงก่อตั้งเป็นกลุ่มการค้า จากนั้นได้ขยายกิจการออกไปตั้งสาขาย่อยตามหัวเมืองต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในช่วงทศวรรษ 1940 กิจการร้านแลกเงินในเมืองผิงเหยาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าเงินของประเทศจีนในยุคนั้น ซึ่งเป็นที่มาของสมญานาม “วอลล์สตรีทแห่งประเทศจีน” นอกจากร้านแลกเงิน ถนนหลักทางทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตก ยังเป็นที่ตั้งของกิจการร้านค้าประเภทต่างๆ อาทิ โรงน้ำชา ร้านขายผ้า เกลือ ยา ร้านค้าเบ็ดเตล็ด ฯลฯ ร้านที่คงสภาพเดิมมาจนถึงปัจจุบันส่วนใหญ่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนร้านที่เหลือถ้าไม่ถูกแปรสภาพเป็นร้านอาหารก็กลายเป็นที่พักแรมไปเกือบหมด ปัจจุบันการเที่ยวชมเมืองโบราณผิงเหยาอาศัยการเดินเท้า เหมารถลาก ขี่จักรยาน นั่งรถม้า หรือใช้บริการรถรถพลังงานไฟฟ้า (Battery Car) ไปตามถนนสายหลักทั้งสามเส้นทางดังกล่าว นอกจากการเดินชมบรรยากาศเมืองเก่า ชื่นชมอาคารบ้านเรือนตามแบบสถาปัตยกรรมจีนที่เก่าแก่งดงามและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปชมวิวบนกำแพงเมือง รวมถึงเที่ยวชมอาคารที่ว่าการอำเภอผิงเหยา ศาลเจ้าประจำเมือง และบ้านเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์อีก 10 กว่าแห่ง มีตั้งแต่ร้านแลกเงิน โรงรับจำนำ บ้านคหบดี ค่ายมวย และอีกจิปาถะ โดยภายในอาคารยังได้จำลองบรรยากาศดั้งเดิมเอาไว้ มีทั้งข้าวของอุปกรณ์ประกอบฉาก ภาพวาด และหุ่นขี้ผึ้งในอากัปกิริยาต่างๆ ด้วย *รูปภาพประกอบบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน Travel Tips: เมืองผิงเหยาตั้งอยู่ในมณฑลชานซี (Shanxi) ห่างจากไท่หยวน (Taiyuan) ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 95 กิโลเมตร ห่างจากปักกิ่งเมืองหลวงของประเทศในทิศทางเดียวกันราว 610 กิโลเมตร และห่างจากเมืองซีอานซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลส่านซี (Shaanxi) มาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 550 กิโลเมตร พูดง่ายๆ คือซีอานอยู่ทางใต้ ปักกิ่งอยู่ทางเหนือ โดยผิงเหยาอยู่เกือบกึ่งกลางระหว่างสองเมืองนี้ การเดินทางสู่เขตเมืองโบราณผิงเหยา จากสถานีรถไฟเมืองผิงเหยาที่อยู่ห่างจากประตูเมืองด้านทิศตะวันตกไม่มากนัก ปัจจุบันมีรถพลังงานไฟฟ้า (Battery Car) ให้บริการรับส่งผู้โดยสารระหว่างประตูเมืองกับสถานีรถไฟ อัตราค่าโดยสารราว 5-10 หยวน หน้าสถานีรถไฟมีป้ายรถประจำทาง สามารถขึ้นรถเมล์สาย 1, 3, 103 ไปยังประตูเมืองต่างๆ ส่วนรถแท็กซี่ราคาประมาณ 10 หยวน (ใช้มิเตอร์) ลงรถที่ประตูเมืองด้านทิศตะวันตกดีที่สุด การเดินทางสู่เขตเมืองโบราณผิงเหยา จากสถานีรถไฟความเร็วสูงเมืองโบราณผิงเหยา ตั้งอยู่ไกลออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเขตเมืองเก่า เปิดใช้เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2014 นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถเมล์สาย 108 เพื่อเข้าสู่ตัวเมือง เวลาให้บริการ 7:00-20:30 ค่าโดยสารราคา 3 หยวน ส่วนรถแท็กซี่ราคาประมาณ 30 หยวน (ใช้มิเตอร์)