“สวัสดีค่ะ! วันนี้เราจะพาทุกคนไปหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองกรุงเทพฯ และสัมผัสกับความสงบสุขที่ ‘คุ้งบางกระเจ้า’ ที่ซึ่งธรรมชาติยังคงอุดมสมบูรณ์และยังคงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่จะช่วยฟื้นฟูพลังให้กับร่างกายและจิตใจของคุณ ที่นี่คือคำตอบ การเดินผ่านเส้นทางทุ่งหญ้าและป่าโกงกางริมแม่น้ำเจ้าพระยา จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้กลับไปเชื่อมต่อกับธรรมชาติอีกครั้ง บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีและอากาศที่บริสุทธิ์ เป็นเสมือนการพักผ่อนสำหรับจิตใจที่เหนื่อยล้า มาร่วมสัมผัสความเงียบสงบและวิถีชีวิตท่ามกลางธรรมชาติที่คุ้งบางกระเจ้ากันค่ะ” โดยวันนี้เราเดินทางมาที่วัดบางนานอก เพื่อที่จะข้ามเรือข้ามฟาก วัดบางนานอก-วัดบางน้ำผึ้งนอก เที่ยวแรก 5.00 น. จากวัดบางน้ำผึ้งนอก เที่ยวสุดท้าย 21.20 น. จากวัดบางน้ำผึ้งนอก เที่ยวสุดท้าย 21.30 น. จากวัดบางนานอก อัตราค่าโดยสาร เด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 90 ซม. ภิกษุ สามเณร ฟรี เด็ก 2 บาท ผู้ใหญ่ 5 บาท รถจักรยานและหาบเร่ 7 บาท รถจักรยานยนต์และรถเข็น 10 บาท รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ 12 บาท รถจักรยานยนต์พร้อมคนซ้อนท้าย (คนซ้อนท้ายเพิ่มคนละ 5 บาท) เมื่อเรานั่งเรือข้ามฟากมายังวัดบางน้ำผึ้งนอกแล้วก็ทำการเช่าจักรยาน ที่เราจะใช้ปั่นในวันนี้ ร้านที่เราเลือกในวันนี้ก็คือร้านลุงจวบ จักรยานเช่า ราคาคันละ 50 บาท ปั่นได้ทั้งวันเลย คุณลุงให้ลองปั่นก่อนได้นะจนกว่าจะเจอคันที่ถูกใจ ตอนที่เรารับรถจักรยานมาคุณลุงจะให้น้ำดื่มเรามา 1 ขวด พร้อมแผนที่ ตอนเรานำจักรยานมาคืนคุณลุงก็จะให้น้ำเราอีกพร้อมผ้าเย็น (ปกติจะเป็นน้ำมะพร้าวแต่ตอนเราไปไม่ใช่หน้ามะพร้าว เลยได้อิชิตันมาแทน สดชื่นเหมือนกัน^^) ได้จักรยานแล้ว พร้อมลุย! ที่แรกที่เราจะปั่นไปก็คือ บ้านธูปหอม ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของบางกระเจ้าเลยนะ เพราะนอกจากจะมีบรรยากาศร่มรื่นแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ลองทำเพียบ! พอปั่นมาถึง กลิ่นหอมของธูปก็ลอยมาแตะจมูกทันที ฟีลแบบธรรมชาติมาก ที่นี่เค้ามีกิจกรรมให้เราได้ลองทำหลายอย่างมากไม่ว่าจะเป็นเสื้อมัดย้อม กระเป๋า ผ้าเช็ดหน้าและ ธูปหอมสมุนไพร สูตรเฉพาะของชุมชนเองด้วยนะ เราเลือกทำเสื้อมัดย้อม จะมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบร้อนและแบบเย็น แบบร้อนหลังจากทำเสร็จจะต้องรอ 1 ชั่วโมง และแบบเย็นหลังจากทำเสร็จจะต้องรอ 2 ชั่วโมง เราเลือกแบบเย็นเพราะสีสันเยอะกว่า หลังจากเลือกว่าจะทำอะไรแบบไหนแล้ว พี่ๆเขาก็จะมาสอนเราอย่างละเอียด พอทำเสร็จระหว่างรอเสื้อแห้งเราก็สามารถปั่นไปเที่ยวที่อื่นก่อนได้ แล้วค่อยกลับมารับ ที่นี่เปิดให้ทำกิจกรรม ตั้งแต่ 9:00-15:00น. และสามารถมารับเสื้อได้ถึง 17:00น. บอกเลยว่าบ้านธูปหอมเป็นจุดที่ต้องแวะ! ได้ทั้งกลิ่นหอมๆ ได้ลองทำของแฮนด์เมด แถมได้ซึมซับวิถีชีวิตของชุมชนไปพร้อมๆกัน นอกจากนี้ยังมีมุมสวนสวยๆให้เดินเล่น ถ่ายรูป หรือใครอยากพักผ่อนชิลๆ ก็นั่งรับลมใต้ต้นไม้ใหญ่ได้เลย มาแล้วจะหลงรักแน่นอน! ปั่นจักรยานกันต่อ ไม่แวะไม่ได้!” เรากำลังมุ่งหน้าไปยัง ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ตลาดท้องถิ่นที่รวมของกิน ของฝาก และวิถีชีวิตชุมชนไว้ครบ! พอมาถึงก็สัมผัสได้ถึงความคึกคักของร้านค้าต่างๆ ที่ขายทั้งอาหารพื้นบ้าน ขนมไทย และผักผลไม้สดๆ จากสวน ของกินที่นี่มีให้เลือกเยอะมาก! เริ่มต้นด้วย ก๋วยเตี๋ยวเรือชามเล็ก ที่รสชาติเข้มข้นสุดๆ ตามด้วย ขนมถ้วยโบราณ หอมๆ มันๆ กินคู่กับชาไทยเย็นๆ คือดี! ถ้าอยากลองอะไรพิเศษ ที่นี่มี ข้าวเกรียบปากหม้อสูตรโบราณ ที่ทำกันสดๆ แป้งบาง ไส้แน่น อร่อยจนต้องขอเบิ้ล นอกจากของกินแล้ว ตลาดนี้ยังมีสินค้าทำมือจากชุมชน เช่น กระเป๋าสาน เครื่องจักสาน และเสื้อผ้าฝ้ายลายสวยๆ ให้เลือกซื้อกลับบ้านด้วย ใครที่ชอบเดินตลาดและอยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวบางกระเจ้า ที่นี่คือจุดแวะที่พลาดไม่ได้! ได้กินของอร่อย ได้ช้อปของฝาก แถมยังได้ซึมซับบรรยากาศของชุมชนอีกด้วย หลังจากเดินเล่นตลาดกันจนเต็มอิ่ม ที่ต่อไปเราขอพาทุกคนไปพักเติมพลังกันที่ เรือนนมสด คาเฟ่บรรยากาศสบายๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในตลาดน้ำบางกระเจ้า ที่นี่ไม่ได้มีแค่นมสด แต่ยังมีเมนูอาหารไทยโบราณให้ลองชิมอีกเพียบ! เมนูเด็ดที่ต้องลองคือ ชาชงร้อนๆ หอมกลมกล่อม เสิร์ฟคู่กับ เมี่ยงคำ ที่จัดเต็มเครื่องเคียงมาให้ครบทั้งใบชะพลู มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้ง ถั่วลิสง และน้ำเมี่ยงรสหวานหอม เคี้ยวเพลินมากๆ นอกจากนี้ยังมี ขนมจีน เสิร์ฟพร้อมน้ำยาเข้มข้น จะเลือกเป็นน้ำยากะทิหรือแกงเขียวหวานไก่ก็อร่อยไม่แพ้กันบรรยากาศของร้านให้ฟีลเหมือนมานั่งเล่นบ้านญาติ อบอุ่นและเป็นกันเองสุดๆ นั่งจิบชาไป มองวิวตลาดน้ำไป เป็นโมเมนต์ที่สโลว์ไลฟ์มากๆ ถ้าใครมาเที่ยวตลาดน้ำบางกระเจ้าแล้วอยากหามุมสงบๆ นั่งพัก หรืออยากลิ้มรสอาหารไทยแบบดั้งเดิม ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดแวะที่ไม่ควรพลาด! ว่าแล้วก็ขอนั่งจิบชาให้สบายใจก่อน แล้วเดี๋ยวเราปั่นจักรยานไปต่อกัน!” “ปั่นต่อ… ไปชิลที่ The Ozone Bangkrajao จุดแวะสุดฮิตที่ครบทั้งศิลปะ วิวสวย และของอร่อย!” หลังจากจิบชาที่เรือนนมสดกันแล้ว เราก็ออกเดินทางไปยังอีกหนึ่งจุดหมายที่ห้ามพลาดในบางกระเจ้า นั่นก็คือ The Ozone Bangkrajao ที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่และพื้นที่สร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกๆ เหมาะกับสายชิลและคนที่รักงานศิลปะ มาถึงแล้วทำอะไรได้บ้าง? • อย่างแรกเลยคือ กิจกรรมระบายสี ที่มีทั้งกระถางต้นไม้และงานศิลปะเล็กๆ น่ารักให้เราได้ลองเพ้นท์กัน ใครชอบงานคราฟต์ต้องถูกใจแน่นอน! • ต่อมาคือ จุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นความร่มรื่นของบางกระเจ้าได้แบบเต็มตา เหมาะกับการมานั่งพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ และถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำ • และที่ขาดไม่ได้คือ อาหารอร่อย! ที่นี่มีทั้งเมนูขนมและเครื่องดื่มสดชื่นๆ เช่น สมูทตี้ผลไม้ ชาเย็น และกาแฟหอมๆ รวมถึงเมนูอาหารแบบโฮมเมดที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากชุมชน บรรยากาศของ The Ozone Bangkrajao ให้ความรู้สึกเหมือนได้มานั่งเล่นในสวนหลังบ้านที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจี มีมุมให้พักผ่อนเยอะ และอากาศที่นี่ก็บริสุทธิ์สมกับเป็น “ปอดของกรุงเทพฯ” จริงๆ ใครที่อยากหาที่นั่งพัก ทำกิจกรรมเบาๆ หรือถ่ายรูปชิคๆ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่ที่ต้องมา! ว่าแล้วก็ขอพักจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ก่อน แล้วเดี๋ยวเราปั่นจักรยานไปลุยกันต่อ!” “ปั่นจักรยานต่อ… สูดอากาศบริสุทธิ์ที่ สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์ ‘โอเอซิสสีเขียว’ ใจกลางบางกระเจ้า!” มาถึงแล้วทำอะไรได้บ้าง? • ที่นี่เป็นจุดเช็กอินยอดฮิตของสายปั่น เพราะมี เส้นทางจักรยาน ที่ลัดเลาะไปตามสวน ร่มรื่นสุดๆ ปั่นไปชมวิวไป ได้ฟีลธรรมชาติแบบเต็มที่ • สำหรับสายถ่ายรูป บอกเลยว่าต้องไม่พลาด สะพานไม้กลางบึง จุดถ่ายรูปสุดฮิตที่มีฉากหลังเป็นต้นไม้สีเขียวและสายน้ำ ให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลายสุดๆ • ถ้าอยากพักผ่อนแบบชิลๆ ก็มี ลานกว้างให้ปิกนิก นั่งเล่นใต้ต้นไม้ใหญ่ สูดอากาศสดชื่น หรือจะนั่งมองนกที่บินไปมาเพลินๆ ก็ได้ เพราะที่นี่เป็นแหล่งดูนกที่สำคัญแห่งหนึ่งเลย • ไฮไลท์อีกอย่างคือ หอดูนก ที่สามารถขึ้นไปชมวิวจากมุมสูง มองเห็นพื้นที่สีเขียวกว้างใหญ่ของบางกระเจ้า และถ้าโชคดี อาจได้เห็นนกสายพันธุ์หายากอีกด้วย! ทำไมต้องแวะที่นี่? เพราะสวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อน เติมพลังจากธรรมชาติ และดื่มด่ำกับความสงบของบางกระเจ้าแบบเต็มที่ ใครที่อยากหาสถานที่สูดอากาศบริสุทธิ์ ใกล้กรุงเทพฯ ที่นี่คือคำตอบที่ดีที่สุด!ว่าแล้วก็ขอแวะนั่งใต้ร่มไม้ สูดลมหายใจลึกๆ ก่อน แล้วเดี๋ยวเราจะไปต่อกัน!” ปิดท้ายทริปบางกระเจ้า… ด้วยการย้อนรอยเสน่ห์ปลากัดไทยที่ พิพิธภัณฑ์บ้านปลากัดไทย! หลังจากปั่นจักรยานชมธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์กันที่สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์แล้ว เราขอปิดทริปนี้กันที่ พิพิธภัณฑ์บ้านปลากัดไทย อีกหนึ่งสถานที่ที่สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามและความสำคัญของ ปลากัดไทย อย่างแท้จริง ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่เลี้ยงปลากัดธรรมดา แต่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของปลากัดไทยที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน ภายในจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับสายพันธุ์ปลากัด วิธีการเพาะเลี้ยง และการพัฒนาสีสันลวดลายของปลากัดแต่ละประเภท ไฮไลท์ของที่นี่ • ชมปลากัดไทยแท้ ที่มีทั้งปลากัดป่าหายากและปลากัดสวยงามสายพันธุ์ต่างๆ ที่ถูกคัดสรรมาเป็นพิเศษ • เรียนรู้ เรื่องราวของปลากัดไทย ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ไม่ใช่แค่ในฐานะปลาสวยงาม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและเป็นนักสู้ตัวจิ๋วที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร • ใครที่อยากได้ปลากัดติดไม้ติดมือกลับบ้าน ที่นี่ก็มีปลากัดสายพันธุ์ดีจำหน่าย พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ บรรยากาศของพิพิธภัณฑ์บ้านปลากัดไทยให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง ที่นี่ไม่เพียงแต่เปิดให้ชมความงามของปลากัด แต่ยังช่วยส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นถึงคุณค่าและอนุรักษ์ปลากัดไทยให้อยู่คู่กับวัฒนธรรมไทยไปอีกนาน “จบทริปบางกระเจ้าแบบเต็มอิ่ม ได้ทั้งเที่ยว กิน และเรียนรู้วัฒนธรรมไทยแบบจัดเต็ม ใครที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ได้ทั้งความชิลและความรู้ บอกเลยว่าบางกระเจ้าเป็นตัวเลือกที่ห้ามพลาด! แล้วครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหนอีก รอติดตามได้เลย!” ภาพจาก : ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !