สวัสดีสายเที่ยวค่ะ เราเป็นอีกคนที่ฝันอยากไปเที่ยวอเมริกาสักครั้งในชีวิต หยอดกระปุกเตรียมพร้อม ก่อนจะจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม ทำสวย ทำหล่อ จัดกระเป๋า เอาเรื่องนี้ก่อนค่ะ ขอวีซ่าท่องเที่ยวของอเมริกา หรือ B1/B2 ไม่มีเข้าประเทศเขาไม่ได้เชียวนะเราจะมาเล่าขั้นตอนต่างๆ จากประสบการณ์ตรงของเราเอง ในการขอวีซ่าประเทศนี้ค่ะ ไม่ได้ใช้เอเย่นต์ บอกเลยว่า ทำเองได้ ไม่ยากเกินไป เราเริ่มจากเข้าไป Facebook ของสถานฑูตแล้วก็ศึกษาข้อมูล เชื่อถือได้แน่นอนขั้นแรกคือ การเข้าไปที่เว็บนี้ค่ะ https://www.ustraveldocs.com/th/ เพื่อสร้างบัญชีหรือโปรไฟล์ ต้องมีอีเมล์ยืนยัน สามารถเลือกภาษาบนเว็บเป็นภาษาไทยได้จากนั้นจึงเข้าไปกรอกฟอร์ม DS 160 ซึ่งจะคล้ายๆ กับการกรอกใบสมัครงานเลยค่ะ ถ้ากรอกไม่ครบ ไม่ถูกต้อง ระบบก็จะแจ้งเตือน ให้กรอกครบ จนถูกต้อง จนกด Submit ได้ สามารถเลือกเป็นภาษาไทยได้นะคะเพื่อนๆ วัยทำงาน เปลี่ยนงานมาหลายที่ อาจต้องใช้เวลากรอกนาน ถ้าเป็นเด็กนักเรียน นักศึกษา ข้อมูลก็จะน้อยหน่อย กรอกเรียบร้อยจะไปถึงหน้าที่พิมพ์ใบชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งต้องไปชำระเป็น เงินสดที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเท่านั้น ไม่สามารถชำระออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต เมื่อชำระเรียบร้อยจะมีอีเมลล์แจ้งมาให้เราเข้าไปเลือกวันนัดหมายได้ หลังจากชำระเงินไปไม่เกิน 24 ชั่วโมงค่ะ หน้าเว็บจะบอกไว้เลยค่ะ ว่าคิวที่เร็วที่สุดจะเป็นวันที่เท่าไหร่ บางทีเห็นแล้วตกใจว่า โห เดือนพฤศจิกายนเลยเหรอ อย่าใจเสียค่ะ อย่าตกใจ เข้าไปเลือกไว้ก่อน เพราะหลังจากนี้ เราสามารถเลื่อนให้เร็วขึ้นหรือช้าลง ได้อีก 2 ครั้ง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เราใช้ฟังก์ชั่นนี้เลื่อนวันสัมภาษณ์ให้เร็วขึ้นมาหลายเดือนเลยค่ะ แรกเริ่มเราได้คิวเดือนกันยายน แต่ท้ายที่สุด เราเลื่อนจนได้คิวเดือนพฤษภาคม ค่ะ จะมีผูุ้สมัครที่เลื่อน หรือ คิวหลุดมาเรื่อยๆ ใครอยู่หน้าคอมบ่อยๆ คอยเข้าไปเช็คตอนเช้า หรือ กลางคืน ว่ามีคิวว่างเร็วกว่าเดิมไหม ก็เลื่อนตามที่เราสะดวก เพราะทางสถานฑูตเองก็ยืนยันเป็นทางการค่ะ ว่ามีการเปิดคิวเพิ่มจริงๆ เมื่อเลือกวันเวลาสัมภาษณ์แล้ว จะมีเมล์ยืนยันมาให้พร้อมใบนัดหมาย ซึ่งเราต้องพิมพ์ออกมาถือไปแสดงกับเจ้าหน้าที่หน้าสถานฑูตในวันสัมภาษณ์วันสัมภาษณ์เราขอแนะนำเป็นชั้นตอนแบบนี้เลยค่ะ1. ไปถึงสถานฑูตก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จะมีจุดต่อแถวด้านหน้า เจ้าหน้าที่จะมาขอเก็บหนังสือเดินทางและใบนัด ที่มีบาร์โค้ด ก่อนจะแจกบัตรคิวให้เข้าไปข้างใน 2. มีจุดตรวจกระเป๋าและต้องฝากโทรศัพท์มือถือ ตามระเบียบ กระเป๋าสะพาย 10-12 นิ้ว นำติดตัวไปได้ปกติ เผื่อใครอยากพกเอกสารสำคัญไปแสดงกับเจ้าหน้าที่กงสุล เมื่อเข้าไปด้านใน1. ตรวจเอกสารและรูปถ่ายกับเจ้าหน้าที่ชาวไทย + พิมพ์ลายนิ้วมือ 2. สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุล เป็นภาษาอังกฤษขอย้ำความสำคํญของรูปถ่ายนะคะ อันนี้มีแจ้งไว้บนเพจของทางสถานฑูตเลย จัดให้เป๊ะตามนี้ เห็นใบหูสองข้างชัดเจน ถ้าเจ้าหน้าที่พิจารณาว่ารูปไม่เข้าเกณฑ์ ต้องถ่ายใหม่เวลาตรวจเอกสารกับเจ้าหน้าที่ชาวไทยตรงหน้าต่าง เขาจะให้เราขานชื่อรายงานตัวตรงไมโครโฟน แล้วถามว่าจะไปทำอะไรที่โน่น ตอบสั้นๆ ว่า "ไปเที่ยวค่ะ" อย่าลืมว่ามันคือวีซ่าท่องเที่ยวจากนั้นพิมพ์ลายนิ้วมือ แล้วรอสัมภาษณ์ในบริเวณเดียวกันกับเจ้าหน้าที่กงสุลชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจเต็มในการพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติตรงนั้นเลย ทราบผลทันที ผู้สมัครแต่ละคนมีข้อมูลและวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป คนที่ขอวีซ่าไปทำงาน หรือ วีซ่านักเรียน ก็จะต่อแถวปะปนกันตรงนี้ บางท่านโดนถามนานมาก น้องนักเรียน นักศึกษา มีตื่นเต้น ตะกุกตะกัก ตอบไม่ถูก ไปไม่เป็นกันเยอะเลย บางคนต้องไปถ่ายรูปใหม่ เจ้าหน้าที่กงสุลจะถามประมาณ 3-4 คำถามเท่านั้นค่ะ ใช้เวลาคนละไม่เกิน 10-15 นาที หลักๆ คือ วัตถุประสงค์ในการเดินทางไปอเมริกาของเรา คือจะไปเที่ยวที่ไหน ไปอยู่นานเท่าไหร่ ควรมีคำตอบไว้ในใจค่ะ ถ้าชัดเจนคือจบตอนที่สัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่กงสุลไม่ได้ขอดูเอกสารอะไรจากเราเพิ่มเติมเลย ลองพิจารณาเตรียมไปเท่าที่คิดว่าจำเป็นพอค่ะ ไม่ควรพะรุงพะรังจนเข้าข่ายบ้าหอบฟาง เคล็ดไม่ลับ1.แต่งกายชุดที่สุภาพเรียบร้อยเหมือนมาติดต่องานราชการ ดูภูมิฐาน สะอาดสะอ้าน ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องใส่กระโปรงใจเย็นๆ2.มีสติเวลาตอบคำถามนะคะ ตอบตามความเป็นจริงจะง่ายกว่าท่องบทไป 3. เตรียมเงินสดติดตัวไปด้วยนะคะถ้าต้องถ่ายรูปใหม่ ไม่มีเจ้าหน้าที่สอนการใช้ตู้ และไม่มีเงินให้แลก ค่าถ่ายรูป 150 บาท (บางคนต้องกลับออกไปแลกเงินด้านนอกสถานฑูตเลย)เรารู้สึกว่าขั้นตอนต่างๆ ไม่ซับซ้อน สามารถทำได้ด้วยตัวเอง สะดวกและรวดเร็วพอสมควร ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เคยฟังเขาเล่ากันมา ทำด้วยตัวเองแบบนี้ ประหยัดไปได้เยอะเลยค่ะ เพราะเห็นว่าบางบริษัทที่รับจ้างทำ คิดราคาแพงกว่าค่าวีซ่ามาก ที่สำคัญ ไม่มีใครสามารถการันตีหรือรับประกันอะไรได้ว่า ถ้าใช้บริการเอเย่นต์ไหน จะได้วีซ่าท่องเที่ยวของอเมริการแน่นอน เพราะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเดียวที่กำหนดให้ผู้ขอวีซ่าเข้าประเทศเขาทุกคนต้องไปแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่กงสุล แบบไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีการดำเนินการผ่านบริษัทเอกชนต่างๆ และผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่สามารถเข้าไปเป็นเพื่อนผู้สมัครในบริเวณสถานฑูตได้ วีซ่าท่องเที่ยว B1/B2 ที่เราได้มาคือ ยาว 10 ปีค่ะเครดิตภาพที่ 1,2 ถ่ายภาพหน้าจอจาก https://www.ustraveldocs.com/th/ภาพที่ 3 และ ภาพที่ 4 จาก Facebook.com/usembassybkk ภาพปกคือภาพของเราเองค่ะ7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์