รีเซต

ตามรอยซีรีส์สุดปัง! Vincenzo ที่เที่ยวอิตาลี ไร่องุ่นแห่ง แคว้นทัสคานี เมืองเคียนติ

ตามรอยซีรีส์สุดปัง! Vincenzo ที่เที่ยวอิตาลี ไร่องุ่นแห่ง แคว้นทัสคานี เมืองเคียนติ
เอิงเอย
3 มีนาคม 2564 ( 18:00 )
3.5K

     สำหรับคอซีรีส์เกาหลีคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Vincenzo ซีรีส์สุดปัง นำแสดงโดย ซงจุงกิ ที่กลับมาทวงบัลลังก์สามีแห่งชาติอีกครั้งด้วยบท ทนายมาเฟียอิตาลี สุดโหด แค่เปิดตัวมาก็เผาไร่องุ่นของเจ้าพ่ออิตาลีซะมอดไหม้ แต่นอกจากความโกลาหลที่เกิดขึ้นแล้ว เราก็จะเห็นความสวยงามของทิวทัศน์ไร่องุ่น วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปชมไร่องุ่นเมือง เคียนติ (Chianti) หนึ่งในไฮไลต์ของ แคว้นทัสคานี (Tuscany) ที่เที่ยวอิตาลี ที่แฟนซีรีส์และคอไวน์ไม่ควรพลาด! แม้จะไม่ใช่โลเคชั่นในการถ่ายทำเป๊ะๆ แต่ฟีลลิ่งบอกเลยว่าโดน!

 

ตามรอย Vincenzo
ที่เมืองเคียนติ แคว้นทัสคานี


ประวัติเมือง เคียนติ

     เคียนติ (Chianti) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในแคว้นทัสคานี (Tuscany) ใกล้ๆ กับเมืองแห่งศิลปะอย่างฟรอเรนซ์ (Florence) ที่นี่มีประวัติเกี่ยวกับไรองุ่นและการผลิตไวน์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 โดย Barone Bettino Ricasoli หรือที่รู้จักกันในนาม “บารอนเหล็ก” (Iron Barone) บุคคลสำคัญที่ทำให้เกิดอุตสากรรมไวน์เคียนติที่แสนโด่งดังจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

 

 

      เหตุเกิดจากสงครามกลางเมือง กองทัพฝ่ายใต้บุกฝ่ายเหนือที่แคว้นทัสคานี ซึ่งเวลานั้นบารอนเหล็กก็ได้ปลูกต้นองุ่นมากมายล้อมปราสาทเอาไว้ องุ่นที่เขานำมาบ่มเพาะไวน์ประกอบไปด้วย องุ่นแดง ซานโจเวเซ (Sangiovese) องุ่นเขียวมาลเวเซีย (Malvesia) และผลองุ่นเกือบแห้งโกเวอร์โน (Governo) ที่ทำให้ไวน์เคียนตินี้มีรสชาติกลมกล่อม แต่! ถึงจะดีแค่ไหนก็ยังไม่ถูกใจบารอนเหล็กอยู่ดี ซึ่งกว่าจะได้สูตรสำเร็จก็กินเวลาเข้าไปถึง 30 ปีแหนะ

 

 

      สภาไวน์ที่แคว้นทัสคานีถูกก่อตั้งอยู่หลายครั้ง เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1835 โดย Barone Bettino Ricasoli หรือ บารอนเหล็กคนเดิมนี่เอง แต่ไม่นานก็ล้มเลิกลง ก่อนจะตามมาด้วย “Consorzio Vino Chianti Classico” สมาคมไวน์ที่ก่อตั้งโดยกลุ่มพ่อค้าในเมืองเคียนติในปี ค.ศ. 1924 แต่ด้วยปัญหาการจัดการ สมาคมนี้ก็ถูกล้มเลิกไปอีกครั้ง กว่าจะเริ่มเป็นที่เป็นทางได้ก็ผ่านไปเกือบ 40 ปี เมื่อรัฐบาลอิตาลีนำหลักการของ Consorzio Vino Chianti Classico ไปประยุกต์ และออกกฎหมายควบคุมคุณภาพไวน์ในปี ค.ศ.1963

      ปัจจุบันไร่องุ่นที่ ปราสาท Brolio ได้กลายเป็นไร่องุ่นที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม Chianti Classico ที่มีพื้นที่ถึง 240 เอเคอร์ และผลิตไวน์ส่งออกทั่วโลกปีละประมาณ 3 ล้านขวด! สุดยอดเลยใช่มั้ยล่ะ

 

เคียนติ เมืองที่เป็นมากกว่าอุตสาหกรรมไวน์

 

 

      นอกจากภูมิทัศน์ของไร่องุ่นที่คลุมพื้นที่เนินเขาน้อยใหญ่ทั่วเมืองแล้ว เมืองเคียนติก็มีบ้านเรือนเก่าแก่ เช่น หมู่บ้านหินโบราณ ปราสาทหิน และสวนสไตล์อิตาลีให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมกัน

     เนื่องจากเคียนติมีอากาศที่บริสุทธิ์และเย็นสบายตลอดปี นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีจึงเลือกที่จะไปพักผ่อนหย่อนใจกันที่เมืองนี้ เพราะนอกจากจะมีอาหารชั้นเลิศไวน์คุณภาพเยี่ยมแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ทุกคนได้ไปพบกับวิถีชีวิตของคนเมืองเคียนติอีกด้วย บอกเลยว่าแค่เดินเข้าในหมู่บ้านหินโบราณก็เหมือนย้อนเวลาไปกลับยังประเทศอิตาลีเมื่อหลายร้อยปีก่อน แถมยังมีร้านอาหารเล็กๆ ให้ทุกคนได้ลิ้มรสชาติอาหารอิตาเลียนสไตล์ทัสคันแท้ๆ อีกด้วย

 

 

     สำหรับคอไวน์แล้ว Madia a Coltibuono เป็นไวน์รีสอร์ทที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ทุกคนสามารถเดินชมสวนสไตล์อิตาเลียนแสนสวย ชมโรงบ่มไวน์ ชมไร่องุ่น ถ่ายรูปเก๋ๆ พร้อมไวน์ในมือ ชิลสุดๆ ไปเลย

และแน่นอน แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ของฝาก! ที่นี่มีร้านขายของที่ระลึกมากมายให้ได้เลือกสรร แถมยังมีไวน์คุณภาพเลิศที่ยังไงคนรักไวน์ก็ต้องมีติดไม้ติดมือกลับไปสักขวดสองขวดบ้างแหละ

     ทีนี้ทุกคนก็สามารถจิบไวน์พร้อมเดินชมไร่องุ่นเก๋ๆ แล้วจินตนาการว่าตัวเองนั้นอยู่ในเรื่อง Vincenzo กันได้เลย!