ชัยปุระ นครสีชมพูแห่งราชาสถาน แต่จริงๆ แล้วเมืองๆ นี้มันชื่อจัยปูร์นะคะ และถ้าฟังคนอินเดียออกเสียงจริงๆ มันออกจะเป็นแจปูร์ด้วยซ้ำ ไม่รู้ทำไมคนไทยถึงเรียกชื่อเมืองในอินเดียเพี้ยนเกือบทุกเมืองเลย สำหรับนครสีชมพูแห่งนี้ ตัวผู้เขียนในเมื่อก่อนรู้สึกเฉยๆ นะ ตอนไปเยือนครั้งแรกก็ไม่ได้ว้าวอะไรมาก แต่พอกับไปเยือนอีกครั้ง และรอบนี้ใช้เวลาในอินเดียเป็นเดือนๆ ด้วยจึงทำให้รู้สึกถึงความแตกต่างและข้อดีหลายๆ ด้านของเมืองๆ นี้ และแน่นอนว่าทำให้เราได้เข้าใจว่าทำไมเมืองๆ นี้ถึงได้รับความนิยมมาขนาดนี้ จะเพราะอะไรบ้างไปอ่านพร้อมๆ กันเลยค่ะ 1. มีบินตรงจากไทยข้อแรกเห็นได้ชัดสุดคือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีบินตรงจากกรุงเทพเลย เมื่อเทียบกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น เลห์ ลาดักห์ มนาลี หิมาจัลที่ไม่มีบินตรงนั้น ทำให้ความง่ายในการมาจัยปูร์เป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าปอกเปลือกไข่ต้มไม่ให้เล็บจิกไปที่ไข่ต้มตอนปอกอีกค่ะ นอกจากนี้รอบเวลาเที่ยวบินยังดีมากสำหรับคนที่อาจจะมีวันลาจำกัด อย่างเช่น แอร์เอเชีย ที่มีบินวันศุกร์รอบกลางคืนถึงเช้า มันทำให้คนที่มีปัญหาในด้านการลางานหลายๆ วันไม่ต้องลาเยอะ เลิกงานวันศุกร์ก็คว้ากระเป๋าออกเดินทางได้ลาเพิ่มสองสามวันเพื่อไปเที่ยวเมืองรอบๆ ข้างต่อ เส้นทางที่ฮิตในหมู่คนไทยก็คงหนีไม่พ้น จัยปูร์ อากรา แต่จริงๆ ในราชาสถานยังมีเมืองสวยๆ อีกเพียบเลยนะ เช่น จอร์ดปูร์ เมืองสีฟ้า บิคาเนอร์ เมืองสีแดง หรือไจไชแมร์ เมืองสีทอง เป็นต้น 2. เที่ยวง่าย เดินทางในเมืองสะดวกปัจจุบันในจัยปูร์มีเมโทร หรือก็คือรถไฟฟ้า ดังนั้นการเดินทางในเมืองนี้จึงง่ายมากๆ และไม่วุ่นวายเท่ารถไฟฟ้าในนิวเดลี จากใจคนไปอยู่เดลีมาบ่อยมากแล้ว เทียบกับจัยปูร์ความวุ่นวายต่างกันมากจริงๆ หนึ่งสิ่งที่น่าสนใจในรถไฟฟ้าของจัยปูร์คือเขามีป้ายไฟ LED บอกด้วยค่ะว่าสถานีต่อไปนี้คือสถานีที่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นนี้นะ ถ้าคุณจะไปซิตี้พาเลซต้องลงสถานีนี้นะ แต่ถ้าจะไปฮวามาฮาลก็ยังไม่ต้องลง สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาครั้งแรกสิ่งนี้ถือว่าช่วยให้อุ่นใจในเดินทางมากจริงๆ แต่ป้ายมันจะอยู่ตู้ท้ายๆ ขบวนนะคะ ไม่ได้มีทุกตู้โดยสาร ถึงแม้จะมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านสถานที่สำคัญๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันยังมีไม่ทั่วเมือง ดังนั้นในบางจุดเราอาจจะต้องโบกรถตุ๊กๆ เช่นเดิม ถึงแม้บางตุ๊กๆ จะดูหิวนักท่องเที่ยวไปนิดแต่ถ้าเราต่อรองราคาดีๆ เขาก็ลดให้อยู่นะ และถ้าใครอยากได้ไกด์ท้องที่นิสัยดี ดูแลดีไม่ลุ่มล่าม ช่วยถ่ายรูปได้เพราะเขาถ่ายรูปสวย ก็สามารถทักมาสอบถามผู้เขียนที่เพจได้*เนื่องจากไม่อยากใส่ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาลงในนี้ดังนั้นถ้าใครอยากหาไกด์จริงๆ รบกวนทักอินบล็อกเพจผู้เขียนแทนนะคะ ( ลิงก์เพจอยู่ท้ายบทความ ) 3. อาหารอร่อย หาร้านอาหารง่ายเรามาจัยปูร์ก็ประมาณสองถึงสามครั้ง และครั้งนี้เพิ่งสังเกตว่าตรงสี่แยกที่ฮวามาฮาลมันแบ่งเป็นโซนๆ ค่ะ อาหาร เครื่องประดับ เสื้อผ้า และอื่นๆ ดังนั้นการหาของกินไม่ว่าจะสไตล์ร้านอาหารหรือสตรีทฟู๊ดก็ค่อนข้างง่ายในที่นี่ และที่สำคัญทุกอย่างอร่อยมากๆ เลยค่ะ ผู้เขียนกินได้ทุกอย่างเลย ไม่รู้ทำไมแต่ทุกอย่างอร่อยไปหมดเลย ฮ่าๆ ที่ชอบที่สุดก็คือ Tikiya chhole มันเป็นไก่ทอดที่ราดซอสที่ความคล้ายน้ำแกงข้นๆ มีความเผ็ดและหวานรวมอยู่ด้วยกัน มันกลมกล่อมมากๆ เนื้อไก่ก็แน่นมาก ที่สำคัญมันเป็นสตรีทฟู๊ดที่มีความร้อนอยู่สูงมาก ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าเชื้อโรคมันจะมีไหม ถ้ามีก็น่าจะตายเพราะความร้อนน่ะค่ะ แต่เรื่องความอร่อยการันตีเลยค่ะ 4. จ่ายเงินผ่านบัตรได้ค่อนข้างง่ายกว่าเมืองอื่นๆ ในราชาสถาน สายเที่ยวเป็นเดือนแบบเราค่อนข้างถูกใจ ไปหลายๆ เมืองมาเงินสดเริ่มร่อยหรอ หาตู้เอทีเอ็มบางทีก็ยาก การใช้บัตรทราเวลมันต้องเป็นตู้จำเพราะที่มีสัญลักษณ์วีซ่าหรือคำว่า International Card และในบางเมืองที่เป็นเมืองยอดนิยมบางตู้มันกดไม่ได้เพราะเงินหมด อย่างเช่นตรง ฮวามาฮาล จัยปูร์ ตอนแรกเห็นแล้วแฮปปี้มากนะชื่นชมในใจเลยที่เขาเอาตู้เอทีเอ็มมาตั้งใกล้จุดท่องเที่ยว แต่!!! มันไม่มีเงินค่ะ แม้แต่บัตรคนอินเดียก็กดไม่ได้ ดังนั้นหารูดจ่ายจึงเป็นตัวเลือกถัดไปที่ผุดขึ้นมาในหัวของผู้เขียน ซึ่งร้านอาหารที่ไม่ใช้พวกสตรีทฟู๊ดมักจะรับบัตรได้ อย่างเช่นคาเฟ่ตรงข้ามฮวามาฮาล รูดจ่ายมันส์มากเพราะบัตรกรุงไทยทราเวลเขาไม่มีชาร์จเพิ่มค่ะ ชอบมากๆ เลยอ่านต่อได้ที่ รีวิวบัตร Travel Card 2556 ที่นักเดินทางควรมี พร้อมบอกวิธีใช้ในต่างประเทศ5. สถานที่เที่ยวสวย และไม่ไกลกันมาก จัยปูร์เป็นเมืองที่เหมาะกับคนชอบถ่ายรูปมากๆ ดังนั้นใครชอบการถ่ายรูปควรมา แต่สำหรับคนที่ชอบเสพฟิวบรรยากาศสวยสงบอาจไม่โดนใจเท่าไร เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะคลั่งถ่ายรูปในเมืองนี้มากๆ นี่ยังไม่นับกรุ๊ปถ่ายพรีเวดดิ้งอีกนะคะ ดังนั้นคนที่ชอบถ่ายรูปมากๆ จะดูปกติกลมกลืนในเมืองนี้ ต้องบอกว่าบางเมืองเขาไม่ชิน พอเจอนักท่องเที่ยวแต่งตัวจัดเต็มยืนเก๊กนานจะเกิดการมุงดูค่ะ อาจทำให้เกิดอาการประหม่าหรือเขินได้ แต่ที่นี่ทุกคนมาเพื่อถ่ายรูปมันจึงเป็นเรื่องปกติ และสถานที่ต่างๆ อยู่ไม่ไกลกันมากนะ ทำให้เราสามารถตระเวนเที่ยว ถ่ายรูป กิน ได้แบบไม่เหนื่อยนั่นเอง 6. ผู้คนค่อนข้างไนซ์มาก เพราะนักท่องเที่ยวเยอะตลอดเวลา ดังนั้นผู้คนจึงคุ้นชินกับนักท่องเที่ยว โดยรวมเลยค่อนข้างยินดีต้อนรับเรามากๆ และพูดคุยแบบเฟรนลี่สุดๆ แต่ก็ยังมีการแฝงมาขายทัวร์เยอะไม่แพ้เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ แต่ถ้าเรายืนยันปฏิเสธเขาก็ไม่ได้ตามตื้นจนน่าเกลียดน่ากลัวนะ เทียบกับไจไชแมร์ เมืองสีทองเราโดนพนักงานต้อนรับของที่พักพยามยามขายทัวร์ทะเลทรายถึงในห้องนอนเลย เขามาเคาะห้องและเข้ามานั่งคุยเลย ตอนนั้นในใจคือ "เห้ย ทำแบบนี้ได้หรอ " เราเป็นนักเดินทางผู้หญิงแถมมาคนเดียว มันได้หรอ และปฏิเสธแบบนานมาก นานมากกว่าเขาจะเลิกขายทัวร์ จนบอกว่าแฟนไม่ให้ไปทะเลทรายคนเดียว พอเขาผิดหวังกันการขายทัวร์เขาก็บอกว่าแฟนคุณเขาไม่เชื่อใจคุณ ไม่ใช่เป็นห่วงแค่ไม่เชื่อใจ เอ้า!!! เป็นงั้นไป แต่เราจะไม่เจอการตามตื้อแบบนี้ที่จัยปูร์นะ ถ้าไม่เอาจริงๆ เขาก็ไม่ตาม ส่วนตัวคิดว่าเพราะนักท่องเที่ยวเยอะ คนนี้ไม่เอาฉันไปขายคนอื่นก็ได้มั้ง เลยไม่ตามตื้อจนพาให้อารมณ์เสีย 7. ตัวเลือกที่พักมีมาก และค่อนข้างมีดีๆ เยอะ มันอาจจะเพราะว่าที่พักโซนที่คนนิยม หรือแม้แต่โฮสเทลที่คนนิยมนั้นอยู่ในโซนที่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านมันเลยทำให้ง่ายต่อการท่องเที่ยว ราคาที่พักก็ไม่ได้สูงมากจนต้องปาดเหงื่อ และถ้าเราเลือกย่านได้ดีๆ มันก็จะมีความปลอดภัยมาด้วย ส่วนตัวรู้สึกว่าโซนสถานีรถไฟชินดีแกม ( Sindhi camp ) ออกจะวุ่นวายไปนิด ตรงนั้นเป็นพวกสถานีรถบัสเลยยุ่งเหยิง และบางที่พักแถวนั้นไม่รับพาสปอร์ตต่างชาติ แต่ถ้าจะพักย่านนั้นเราแนะนำที่พักเป็น Gypsy Monkey แม้จะเป็นโฮสเทลแต่เขามีห้องดี่ยวแบบส่วนตัวรองรับนะ หรือไม่ก็พักแถวๆ ฮวามาฮาลไปเลย ย่านนี้ไนซ์สุดแล้ว 8. เป็นเมืองที่สามารถจัดเต็มในการแต่งตัวได้ก็อย่างที่บอกไปว่ามันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ ดังนั้นทุกคนไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายเลยค่อนข้างแต่งตัวแบบจัดเต็มกันทุกคน สายแฟชันมาเมืองนี้ก็จะไม่รู้สึกเคอะเขิน เพราะทุกคนจัดเต็มกันหมดนั่นเอง เราเห็นสาวอินเดียบางคนใส่ส้นสูงแบบสูงมากเดินขึ้นรูฟทอฟคาเฟ่ตรงข้ามฮวามาฮาล รวมถึงขึ้นไปบนฮวามาฮาลเพื่อถ่ายรูป เรานี่นับถือเลย แค่ใส่รองเท้าผ้าใบเดินขึ้นไปก็เหนื่อยแล้วแต่ส้นสูงบ้าง ส้นเข็มกับเดรสยาวลากพื้นบ้าง ยอมใจเลยจริงๆ 9. ไกด์และบริษัททัวร์เยอะไม่อยากจองทัวร์แบบจัดเต็ม บางคนอาจจะอยากไปหาแบบวันเดย์ทริปข้างหน้าเอง บอกเลยว่าเมืองนี้หาง่ายมาก ถามตุ๊กๆ หรือร้านค้าในย่านท่องเที่ยวเดี๋ยวเขาจะแนะนำเองว่าคุณต้องไปหาที่ไหนต่อ แต่ถ้าให้เราแนะนำ "แหล่ง" ก็คือตรงแถวๆ ฮวามาฮาลนะดีสุด ราคากันเองสุดแล้ว ซึ่งตรงนั้นก็มีไกด์ของเราอยู่ นอกจากเขาก็มีคนอื่นอีก ดังนั้นจะไปหาเองได้ตามสะดวก แต่ตามความเห็นของผู้เขียน ส่วนตัวคิดว่าการติดต่อไกด์โดยมีสื่อกลางแบบผู้เขียนซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันเองน่าจะปลอดภัยกว่า เพราะกรองมาให้แล้วว่าดีและสามารถแจ้งคอมเพลนไกด์ผ่านตัวเราได้ทุกเมื่อหากไกด์ทำอะไรไม่โอเคต่อจิตใจของคุณ 10. มีรถไฟไปต่อยังเมืองอื่นหลากหลายเส้นทางตัวผู้เขียนถึงแม้จะมีคนรู้ใจเป็นคนอินเดียแต่เอาจริงๆ ก็ยังไม่ได้หมดความสนใจในการเดินทางคนเดียวนะ ก็ยังมีโฉบไปเมืองอื่นๆ คนเดียว ซึ่งจากจัยปูร์นั้นมีรถไฟไปเมืองอื่นๆ ค่อนข้างเยอะแถมราคาไม่แรงเหมือนรถไฟที่ออกมาจากนิวเดลีด้วย อย่างเส้นทางยอดฮิต อากรา พาราณสี มุมไบ ก็มีรถไฟวิ่งตรงจากเมืองนี้ นับว่าสะดวกสบายมากจริงๆ ค่ะ อ่านต่อ 20 เรื่องต้องรู้ก่อนไปอินเดีย พร้อมอัปเดตการเข้าประเทศล่าสุด 2023 และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้จัยปูร์ นครสีชมพูนี้เป็นเมืองยอดนิยมในหมู่นักเดินทาง สุดท้ายนี้ใครชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์กันออกไปได้แบบเต็มที่ได้เลยค่ะ และถ้าอยากได้ไกด์ท้องที่ดูแลดีสามารถทักมาสอบถามได้ที่ twitter ที่ Artinime หรือ Facebook เพจ แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย ได้เลยค่ะhttps://www.facebook.com/solely.travel.Lifestylehttps://twitter.com/supamas_kpr/status/1598342694824468480?s=61&t=sN4qRG1Wc5HvzswZENhBjw เรียบเรียงเนื้อหาและถ่ายภาพโดย หญิงเถื่อน / ภาพบุคคลคือภาพจากไกด์ของหญิงเถื่อนเองอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !