ความสนอย่างหนึ่งของดิฉัน คือ การได้ไปเล่นหิมะในต่างแดน แต่ด้วยงบประมาณที่มีนั้นน้อยนิด และติดกับการลางานยาวหลายวันไม่ได้ ประเทศจีนคือ ตัวเลือกที่น่าสนใจ ตอบโจทย์ ครั้งนี้ของเราได้อย่างดี แน่นอนการเดินทางไปจีนครั้งนี้ เราก็มีผู้ร่วมอุดมการ เดินทางพิชิตหิมะกัน 6 ราย จากการศึกษาพบว่า การเดินทางไป ยูนนานนั้น ต้องระวังเรื่อง โรคแพ้พื้นที่สูง คือ อาการของร่างกายที่ขาดออกซิเจนจากการอยู่บนที่สูง ซึ่งมีอากาศเบาบาง (ยิ่งสูง ออกซิเจนก็ยิ่งน้อยลง) ถึงขนาดเว็บไซต์ของ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ออกแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์มายังประชาชนชาวไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือพำนักในมณฑลยูนนาน โดยเฉพาะเมืองลี่เจียงและเมืองแชงกรีล่าซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่มีระดับความสูงเหนือน้ำทะเลประมาณ 3,000 – 4,000 เมตร ซึ่งมีคนไทยหลายรายประสบปัญหาด้านสุขภาพเป็นโรคแพ้พื้นที่สูง หรือ High altitude sickness เมื่อเดินทางมายังพื้นที่เหล่านี้ เอาไงล่ะ อาการร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตเลยนะ เราทำการหาข้อมูล และปรึกษาแพทย์ทันที โดยเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนที่ โรงพยาบาลตรัง และร้องขอยาไดอะม็อก โดยจักษุแพทย์เป็นผู้จ่ายยา และแนะนำการใช้ยาให้กับเรา โดยได้ทำการตรวจสุขภาพ วัดความดันลูกตา เพราะยานี้มีผลต่อความดันของตา อุ่นใจขึ้นหน่อย คุณหมอยังแนะนำให้เราเตรียมร่างกายให้พร้อม ทานอาหารให้คบ 5 หมู่ ครบ 3 มื้อ ออกกำลังสร้างภูมิคุ้มกัน เพราะนอกจากโรคแพ้พื้นที่สูง แล้ว อากาศแห้งและหนาวอาจทำให้เราเป็นหวัดได้ไง ดังนั้นเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการเดินทางด้วยนะคะ จากนั้นเราก็เตรียมจองที่พัก ตรวจรถไฟ ตรวจเครื่อง รถทัวร์ ไกด์ท้องถิ่น ไว้ให้พร้อมตั้งแต่ที่ไทย เพื่อลดปัญหาการสื่อสารลง แล้วก็รอวันเดินทางอย่างใจจดใจจ่อ ร่างกายพร้อม ทริปพร้อม เสื้อผ้า หน้าผมพร้อม ลุย จ้าาาาาา วันแรก เราไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเดือนที่หนาวมากของยูนนานค่ะ เราลงเครื่องที่คุนหมิง จากสนามบินคุนหมิง นั่งรถเมล์สาย 52 จากสนามบินไปสถานีรถไฟหลัก 1 หยวน หรือสาย 2 ค่ารถไฟคุนหมิงไปลี่เจียง 155 หยวน เราเลือกใช้รถไฟโดยนอนไป 1 คืนบนรถ เพราะเราต้องค่อยๆ ปรับความสูงเหนือระดับน้ำทะเลไปเรื่อยๆ เพื่อให้ร่างกายเราปรับตัวนะคะ ดังนั้นถ้าเราบินตรงไปลงลี่เจียง ก็อาจเกิดปัญหาโรคแพ้พื้นที่สูงได้ค่ะ รถไฟใหม่นะคะ สะอาดดีค่ะ เราห้องเลย เราเลือกตู้นอน 6 เตียง ตามจำนวนสมาชิกในทริปเลยค่ะ วันที่สอง เราถึงลี่เจียง ประมาณ ตี 5 เวลาประเทศจีนค่ะ อากาศหนาวสุดๆ เรานัดไกด์ท้องถิ่นให้มารับ พร้อมรถที่เหมาไว้ และให้พาไปซื้อตั๋วรถบัส Lijiang – shangrila และ shangrila – Lijiang ที่สถานีรถบัสก่อน ค่าเหมารถคนละ 30 หยวน เข้าเมืองเก่า Lijiang ค่าเมืองเก่า 80 หยวน โดยเราต้องติดต่อเขา ผ่าน we chat นะคะ ประเทศจีนบล็อก Social อื่นๆ เกลี้ยงค่ะ แต่เราแอพโหลดแอพแปลงไอพีได้นะคะ จะได้ติดต่อไลน์กับทางไทยได้ค่ะ จากนั้น check in เข้าที่พักในเมืองเก่า ค่าที่พักประมาณ คนละ 50 หยวน เหมารถไป ภูเขาหิมะมังกรหยก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายดังนี้ นะคะ 1. ค่าเข้าอุทยาน 105 หยวน/คน 2. ค่าขึ้นกระเช้าใหญ่ 170 หยวน/คน แบ่งเป็นค่าตั๋วจริง 150 หยวน + ค่าอะไรไม่รู้อีก 20 หยวน แล้วเราก็ให้พี่คนขับรถพาเราไปหาไรทานพร้อมทั้งช่วยหาซื้อออกซิเจนกระป๋องราคาถูกสำหรับพกพาให้เราด้วย กระป๋องใหญ่มาก เราเลยซื้อ 1 กระป๋อง ต่อ 2 คนค่ะ รอคิวพักใหญ่ก็ได้ขึ้นกระเช้า ถึงแล้ว ภูเขาหิมะมังกรหยก คนขับรถแนะนำว่าเราต้องทำอะไรให้ช้าที่สุด เพราะถ้าเราเคลื่อนไหวไว ก็ทำให้ร่างกายต้องการออกซิเจนมาก แต่เราอยู่ในพื้นที่ที่ออกซิเจนเบาบาง จะทำให้เราช็อคได้ ดังนั้นเราต้องคอยเตือนกันทั้งทริปค่ะ หนาวสุดๆ หนาวมากค่ะ หูเหมือนจะหลุด หายใจก็ลำบาก แต่ในอาคารมีฮิทเตอร์ ออกไปได้แปปนึง ก็ต้องย่องช้าๆ มาเอาไออุ่นจากฮีทเตอร์ค่ะ เมื่อถ่ายภาพกันหน่ำใจ ก็ลงมาด้านล่างพี่คนขับรถคนเดิมรออยู่ค่ะ เพราะเราประมาณเวลากันแล้ว จากนั้นเข้าที่พัก แล้วออกมาเดินเที่ยวยามราตรีของลี่เจียงค่ะ เมืองเก่าสวยจริงๆ อนุรักษ์ไว้ดีมาก ทะเลสาบ Blue Moon Valley ทะเลสาบที่มีน้ำสีเทอร์ควอยซ์ ด้านหลังที่เป็นภูเขาหิมะสวยๆ น้ำในทะเลสาบนี้มาจากภูเขาหิมะมังกรหยก ทำให้น้ำใสไหลเย็นตลอดทั้งปี บรรยากาศก็ดีมากๆ ด้วย แต่ช่วงที่เราไปฟ้าปืดหิมะตกบนเขา ทำให้มองไม่เห็นภูเขาหิมะ ค่ะ จริงๆ สวยมากๆ เมืองเก่าลี่เจียง มุมมหานิยม ต้องถ่ายกับหลังคาบ้านโบราณที่เรียงกันหนาแน่นในเขตเมืองเก่านี้ค่ะ เราถ่ายบนชั้นดาดฟ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง และแล้ว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ปรากฎว่าน้องในทริปมีอาการ 1 คนค่ะ เราเลยให้นอนพัก ให้ทานอาหารยาที่เตรียมมา และให้ออกซิเจนไปนอนก่อน ตอนนั้นในมือเตรียมโทรหาท่านทูต แล้วค่ะ ดีว่าน้องงีบไปประมาณ 2 ชั่วโมงอาการดีขึ้นค่ะ โอเค นอนๆๆ เช้าวันต่อมาเรานั่งรถบัส โดยพี่คนขับรถอาสามาส่งที่สถานีรถบัส น่ารักจริงๆ รถที่จองไว้เที่ยว 07.30 ถึง Shangrila 13.00 ค่ารถ 60 หยวน จากสถานีขนส่งไป โรงแรม รถเมล์สาย 1 ราคา 1 หยวน หรือรถแท็กซี่ คันละ 6 หยวน เราเลือกแท๊กซี่ค่ะ ขี้เกียจรอเค้ามีแท๊กซี่คันใหญ่ค่ะ ประมาณรถตู้ 6 คนหมดพอดี Check in เข้าที่พักในเมืองเก่า ค่าที่พักประมาณ คนละ 50 หยวน นั่งรถเมล์เที่ยว วัดซงจ้านหลินซื่อ นั่งรถเมล์จากเมืองเก่าไปเลยค่ะ สาย 3 คนละ 1 หยวน ค่าชมวัด 30 หยวน ภาพวัดมาฆบูชา มีพิธีกรรมที่วัดคนแน่นมากเลย ช่วงที่เราไปเป็นวันมาฆบูชา คนแน่นเต็ม วัดซงจ้านหลินซื่อ ไม่มีคิวเบียดกันจนเรากระเด็น สกิลการแย่งพี่ไทยแพ้พี่จีนหลายขุม ใช้ความอ้วนของเรากระแทกแล้วไม่เป็นผล จนตำรวจเห็น เอารถตำรวจมารับ พี่จีนก็มาแย่งอีก จนคุณตำรวจต้องฟาดด้วยกระบอง สงสาร เลยแต่เรานักท่องเที่ยง จ่ายในราคาแพงมาก เค้าก็ขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เราก็ culture shock พักใหญ่ แล้วก็ชินจ้าาาา มุมมหาชน หิมะตกโปรยๆ ตลอดเปียกปอนด์เลยค่ะ จริงๆ การเดินทางมาจีนครั้งนี้เรา ก็ตกใจในหลายเรื่อง เราเคยไปแต่จีนปักกิ้ง เซี่ยงไฮ กวางโจว ฮ่องกง มาเก๊า ที่เจริญสุดๆ มาครั้งนี้เรามาเที่ยวย่านชนบท เน้นธรรมชาติ ก็ตกใจกับห้องน้ำเล็กน้อย แต่พอพี่ๆ เค้าทราบว่าเรามาจากไทย พี่ๆ ก็รีบเคลียร์ห้องน้ำให้ 1 ครั้ง แต่ก็ยังตกใจกับสิ่งที่ยังอยู่ในห้องส้วมอยู่ดี ประสบการณ์ค่ะ กลับมาเล่าที่บ้านทุกคนบอกพี่ไทยสมัยก่อนส้วมหลุม ดูทุกคนที่บ้านไม่ตื่นเต้นไปกับเรา เลย จ๋อย นี่คือสะอาดแล้วนะ เห็นของห้องอื่นลอยมาด้วย ไม่มีประตูนั่งเม้ากันเพลินๆ แต่ผลไม้ที่นี่ไม่แพงนะคะ โดยเฉพาะสตรอเบอรี่ ยื่นเงินมั่วๆ ไปประมาณ 10 หยวน ได้กลับมาประมาณ 1 กิโลกรัม ช่วยกัน 6 คน นี่ไก่ดำก็ถูก เพราะคนชอบกินจามรี เราไม่กล้ากินค่ะ กินแต่ไก่ดำทั้งทริป หม้อไฟยูนยานหร่อยดีค่ะ ขึ้นชื่อ แต่เราแอบโหลดน้ำจิ้มสุกี้บ้านเราไป ให้เค้าชิมเค้าว่ามันเสียป่าว เราก็งง นี่มันสูตรกวางตุ้ง ประเทศยูนะ มีภาษาจีนข้างขวดว่าสูตรกวางตุ้ง เค้าทำหน้าประหลาดใจกันเลย วันต่อมา ตื่นเช้ามีหิมะตกด้วยนะคะ เดินเที่ยว เมืองเก่า วัดวงล้อ วัดต้าฝอ นั่งรถกลับลี่เจียง เที่ยว 13.30 ถึง 18.00 ค่ารถ 60 หยวน นั่งรถไปสถานีรถไฟเหมารถตกคนละ 5 หยวน นั่งรถไฟเที่ยว 22.50 น. ถึง คุนหมิง 8.45 ราคาคนละ 152 บาท ค่ะ เช่นเดิมเรานอนบนรถไฟ แล้วมาเช้าที่คุนหมิงค่ะ วัดวงล้อ วันสุดท้ายของทริป ถึงคุนหมิง 8.45 หาที่พักใกล้สถานีรถไฟ Check in เข้าที่พัก พักผ่อน แล้วออกไปช้อปปิ้ง ถนนจินปี้ลู่ (ถนนคนเดิน) คุนหมิงเจริญมากนะคะ คุนหมิงขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองดอกไม้สวยค่ะ วันเดินทางกลับค่ะ วันนี้ขอตื่นสายๆ ทานอาหารของที่พัก และเคลียร์อาหารจากไทยเช่น มาม่า น้ำพริกต่างๆ มีน้ำพริกเนี่ยดีมาก โดยเฉพาะน้ำพริกนรก เพราะอาหารจีนจืด มัน ค่ะ ที่สำคัญ เราไม่ชอบหมาล่ากัน ปู่เย่าหมาล่า ตลอดทาง ได้เวลา 13.00 น. นั่งรถเมล์ไปสนามบิน เครื่องออก 17.40 ช้อปปิ้งดิวตี้ฟรีในสนามบินค่ะ แล้วเราก็กลับมาฟาดส้มตำที่ไทยต่อโดยสวัสดิภาพค่ะ จีนสนุกมากค่ะ ประเทศใหญ่โตจริงๆ ครั้งหน้าแแพลนว่าจะไป ฉงชิ่ง เพราะมีเพื่อนเรียนอยู่ ที่สำคัญที่เที่ยวตรึม อย่างไรติดตามกันต่อนะคะ