ความคิดก่อเกิดตำนานเล่าขาน หนึ่งเดียวก้าวตามตำนานโบราณสอน พยายามคิดพยายามทำตามขั้นตอน จนแน่นอนในความจริงประจักษ์ตา ความสามัคคีความขยันปันความรัก ล้มแล้วลุกเพราะรักจึงก่อตั้ง บุญบั้งไฟประเพณีสืบสานต่อกัน แห่จุดบั้งไฟประชันเพื่อบูชาพญาแถนเทศกาลหลายเทศกาลที่ชาวอีสานต้องกลับบ้าน แต่สำหรับบ้านของของผู้เขียน คงไม่มีใครที่ต้องพลาดเทศกาลนี้ถ้าหากพอที่จะลางานกลับบ้านได้ ตั้งแต่เด็กแล้ว การรอคอยวันพ่อกลับบ้านนั้นดูยิ่งใหญ่สำหรับเด็กน้อยคนหนึ่ง วันนี้คือความสุขและความสดใสตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่เห็นในทุกปีคือประเพณีของหมู่บ้านที่ทำสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน จนจำได้อาจจะมีหลายอย่างหลายพิธีกรรมที่ทำจนจำได้ จริงที่ว่าไม่มีอะไรที่จะดีเท่าการทำให้ดู ให้ประจักษ์ทุกขั้นตอน จนซึมซับเข้าไปในความคิดและเกิดความรัก เมื่อรักแล้วรู้ความหมายว่าทำไปเพื่ออะไร สิ่งเหล่านี้จะกลายมาเป็นความสุข ความสุขในสิ่งที่ได้ทำ ยอมทิ้งเวลาพักผ่อนของตนเอง หรือวันว่างที่ใช้ในการพักผ่อนมาทำ ซึ่งตอนเด็กๆนั้นบุญประเพณีบุญบั้งไฟจะเป็นของหมู่บ้าน เพราะฉะนั้นคนในหมู่บ้านแต่ละครอบครัวจึงจำเป็นต้องมีหนึ่งคนเข้าร่วมขบวน หรือจะมีหลายคนได้ เมื่อถึงวันงาน คนต่างที่ต่างถิ่นจะเป็นท่านผู้ชมไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งได้ว่าคนนี้ไม่ทำเพราะนู่นนี่นั่นทุกคนต้องเห็นในกลุ่มส่วนใหญ่ ทำช่วยกันเพื่อที่จะประกวดได้รางวัลที่ดี แต่ละหมู่กำหนดไว้เลยว่าจะมีขบวนอะไร แต่ละขบวนจะไม่มีการลอกเลียนแบบกัน แต่ละขบวนในแต่ละหมู่จะมีทีเด็ดไว้ให้เห็นในวันงาน ตอนนั้นเรามีความตื่นเต้นมาก อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นยังเด็กอยู่ ไม่มีอะไรที่จะยิ่งใหญ่ได้หากขาดการร่วมมือซึ่งกันและกันจะไม่มีทางสำเร็จได้อย่างแน่นอน คนเรามีพื้นฐานความสุขต่างกันนอกจากนั้นแล้วยังมีความคิดต่างกันอีกด้วย บางคนอาจจะบอกเราทำดีแล้วทำมันต่อไป แต่อีกกลุ่มหนึ่งคิดแตกต่าง เลิกเสียเถิดมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่มีค่าทำไปไร้ประโยชน์ แท้ที่สุดไม่มีสิ่งไหนที่จะดีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และคนเขาจะเห็นด้วยทั้งหมดอย่างแน่นอนในหนึ่งชีวิต เราต้องต่อสู้กับการจัดการความคิดอยู่หลายครั้ง และในสุดท้ายแล้วคนที่ตัดสินทุกอย่างคือตัวของเราเองทั้งนั้นอาจจะไม่เนิ่นนานสำหรับโลกใบนี้ แต่เชื่อว่านานสำหรับเด็กคนหนึ่งที่เห็นประเพณีนี้มาตั้งแต่จำความได้ และไม่เคยมีใครมีน้ำตาเสียใจกับการจัดกการเรื่องเหล่านี้ แต่กลับกันคือเห็นแต่ความสุขและรอยยิ้มของทุกคน ทุกครั้งที่มีบุญบั้งไฟคืนก่อนวันขบวนแห่ แทบจะไม่ได้นอนเพราะต้องลุกไปแต่งตัวตอนสามทุ่ม เพราะจำนวนนางงามเยอะ ช่างต้องนัดไปทำผมก่อน และนอนวิธีตั้งหน้าอยู่บนหมอน ซึ่งจะมีเพื่อนและผู้นำหมู่บ้านเป็นคนดูแลเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม จนแล้วเสร็จ พระเอกของงานจะอยู่ที่บั้งไฟตะไลล้าน ซึ่งในปีนี้เป็นบั้งไฟยี่สิบล้าน (ไม่ใช่ราคาบั้งไฟนะคะ) ยี่สิบล้านคือชื่อของบั้งไฟซึ่งจะตั้งชื่อตามขนาดของบั้งไฟ เริ่มมาตั้งแต่บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน บั้งไฟสองล้าน บั้งไฟสิบล้าน จนถึงบั้งไฟยี่สิบล้าน ซึ่งในการจุดจะมีคิวในการจุด จุดตามเวลาที่ทางผู้ดำเนินงานได้ตั้งไว้ มีกติกาวางไว้ชัดเจน ก่อนที่บั้งไฟยี่สิบล้านจะจุดนั้นจะมีการบวงสรวงให้สัญญาณโดยการจุดพุ๊เพื่อใหัท่านผู้ชมได้รู้ และระวังถอยออกมาจากเขตอันตราย เพื่อความปลอดภัย น้ำหนักของบั้งไฟล้าน สองล้านจนถึงสิบล้านนั้นไม่สามารถใช้แรงคนในการแบกได้ ต้องใช้รถในการยก และรถจะเครนจะนำไปจนถึงลานจุด ค่อยถอยออกมาด้วยความใหญ่และความหนักจะต้องมีความระมัดระวังอย่างมาก การทำบั้งไฟแต่ละบั้งนั้นใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือน ซึ่งข้อห้ามในการทำบั้งไฟ คือห้ามผู้หญิงจับ เพราะอาจจะทำให้บั้งไฟแตกได้ (ความเชื่อส่วนบุคคล) ลานจุดบั้งไฟในบุญบั้งไฟวันที่สอง จะเริ่มจุดตั้งแต่เวลา แปดนาฬิกาโดยประมาณ เป็นวันที่ผู้คนเดินทางมาจากทั่วทั้งประเทศ และต่างประเทศ ต่างเดินทางมาดูการจุดบั้งไฟของชาวตำบลกุดหว้า ลานจุดนั้นได้มีการบวงสรวงบอกกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ในเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน และได้มีการวัดระยะของการดูบั้งไฟอย่างปลอดภัย เพราะไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าหากบั้งไฟแตกแล้วเราไม่เข้าไปอยู่ในเขตรัศมีของการแตก จะไม่ได้รับอันตรายอย่างแน่นอน ในงานมีการถ่ายทอดสดจากลานจุด ซึ่งนั่งดูอยู่ที่ส่วนไหนของโลกได้หมดถ้ามีอินเทอร์เน็ตความหลากหลายทางวัฒนธรรมการดูเกิดขึ้นที่นี่ จะมีการดูบั้งไฟที่ไหน ที่ตอนขึ้นขึ้นสวย ตอนลงบางบั้งอาจจะดิ่งพสุธาเพียงไม่นาน และลงอย่างสวยงามอ่อนช้อยตามร่มที่กางจนถึงพื้นดินอย่างปลอดภัย สิ่งที่บั้งไฟทุกบั้งต้องปฏิบัติก่อนที่จะนำบั้งไฟเข้าไปในลานจุด ถ้าหากเราไปดูการจุดบั้งไฟเราอาจจะส่งสัยว่า การที่ร่มกางตอนที่บั้งไฟตกลงมานั้นมีวิธรการอย่างไร สามารถที่จะเดินมาดูตรงจุดที่บั้งไฟติดร่มได้ ว่ามีวิธีการอย่างไร ซึ่งในตอนแรกก็จะเป็นการทำรูบั้งไฟ เปิดสำหรับให้สะดวกในการจุด ต่อจากนั้นจะผูกร่มใส่ เมื่อผูกร่มเสร็จจะนำกาบมะพร้าวแห้ง มาคลุม บางบั้งหาไม่ได้ก็นำกาบกล้วย มีการมัดเชือกฟางไว้ กะประมาณว่า ตอนที่ขึ้นนั้นเชือกฟางที่ได้รับความร้อนจะขาดแล้วกาบที่ห่อไว้ก็จะไหม้ไป ทำให้ร่มที่ผูกอยู่นั้นกางออกมาอย่างสวยงามถ้าเรามองลึกเข้าไป เป็นการวางแผงทางวิทยาศาสตร์อย่างยอดเยี่ยมตั้งสมมุติฐานว่าร่มจะกางเมื่อเชือกฟางที่มัดอยู่ขาดและกางอย่างสวยงามตอนที่บั้งไฟดิ่งลงมากลางอากาศ สุดท้ายแล้วร่มกางถือเป็นผลสำเร็จ ตามสิ่งที่ตั้งไว้ เรียกได้ว่าทั้งตื่นเต้นและท้าทายคนที่จุดบั้งไฟนั้นจะต้องคัดเลือกคนที่มีประสบการณ์และวิ่งได้รวดเร็วที่สุด นอกจากนั้นเมื่อจุดไฟจะต้องรู้ด้วยว่าไฟนั้นวิ่งเชื่อมไปทั้งหมดแล้ว จึงวิ่งออกมา เพราะถ้าหากไม่มีประสบการณ์อาจจะจุดได้ไม่ทุกรู จนทำให้บั้งไฟไม่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ประสบการณ์สำคัญเสมอเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งข่าวให้ทั่วโลกและทั่วประเทศไทยได้เห็นและบางคนเมื่อเห็นได้เดินทางมาที่สถานที่จุดจริงเพื่อได้ชมของจริง แต่ถ้าหากเรานั่งมองอยู่หน้าจอ จะได้อรรถรสที่ไม่เหมือนการไปดูสถานที่จริง แม้ว่าเราจะได้เห็นใกล้และชัดเจนจนถึงคนที่นำไฟจุด วิ่งหลบในกำบัง จนถึงบั้งไฟทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่นี่เป็นวิธีที่ทำให้ชาวบ้านกุดหว้าที่ไม่ได้กลับบ้าน สามารถที่จะนั่งมองหน้าจอแล้วมีความสุขขึ้นได้ การจุดบั้งไฟที่หลายคนต่างพูดถึงว่าจะทำให้เกิดภาวะโลกร้อนไหม เพราะมีควันจำนวนมากพุ่งเมื่อมีการจุดบั้งไฟแต่ละบั้ง ตามวิทยาศาสตร์ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีแต่ในการจุดบั้งไฟนี้ถือเป็นประเพณีที่หนึ่งปีมีครั้งเดียว และมีการจุดเพียงหนึ่งวัน ซึ่งถ้าเปรียบกับการ ขับรถบนท้องถนนใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ควันจากท่อไอเสียในหนึ่งปีที่เราขับเช้าถึงเย็น หรือวันละหลายชั่วโมงยิ่งทวีคูณมากกว่า ซึ่งในการจุดบั้งไฟไม่ใช่เพียงการใช้ดินปืนในสูตรบั้งไฟบางบั้งนั้นมีการใช้ขี้วัวขี้ควายผสม ใช้ปุ๋ยผสมด้วยแล้วแต่สูตรของแต่ละบั้งเวลาที่จุดบั้งไฟในวันนั้นหนึ่งปีมีประมาณ สี่สิบกว่าบั้จุดขึ้นไปในตอนเย็นวันนั้นฝนจะตกลงมาอย่างหนัก เหมือนเป็นการชำระล้างสิ่งที่มันสกปรก เย็นวันนั้นชาวบ้านจะนอนฟังเสียงฝนอย่างมีความสุข ถามว่าทางผู้จัดงานคิดถึงเรื่องเหล่านั้นไหม ต้องตอบว่าคิดถึงเพราะหลังจากนั้นจะมีการปลูกป่าทดแทน ทำความสะอาดบ้านให้กลับมาสดใสเหมือนเดิม และสถานที่คนเข้าไปชมบั้งไฟนั้นก็จะปลูกข้าว ให้เขียวชอุ่มสวยดังเดิม ควันที่ขึ้นจำนวนมากที่เราเห็นในภาพจากนั้นก็จะลอยหายไปอย่างรวดเร็ว บางทีบั้งไฟยังไม่ลงกลุ่มควันเหล่านี้ก็สลายหายไป การขึ้นของบั้งไฟที่สวยงาม แม้ว่าจะน้ำหนักมากกว่าหนึ่งพันกิโล เมื่อทะยานขึ้นฟ้าแล้วจะดูไม่หนักอะไรเลย ทั้งที่ความจริงใหญ่มาก เทียบได้กับสนามมวย ขนาดประมาณนั้น หลังจากที่บั้งไฟตกลงถึงพื้นช่างบั้งไฟสามารถที่จะเก็บบั้งไฟของตนเอง เพื่อนำเหล็กไปขาย หรือนำไปตั้งโชว์ได้ว่าปีนี้ทำบั้งไฟล้านขึ้นบนท้องฟ้า พร้อมสถิติ จะว่าไปแล้วเวลาที่ดูบั้งไฟนั้นเรามีความสุข และอิสระในแบบเราเพราะเรานั้นจะเดินไปไหนมาไหนได้ทั้งหมด เดินเลือกซื้อของเดินชมบริเวณที่เราพอใจ แต่ต้องห่วงอย่างเดียวคือความปลอดภัยของตนเอง สิ่งที่สวยงามนั้นมีความน่ากลัวเสมอ อย่าไว้ใจในสิ่งที่เรานั้นไม่สามารถบังคับได้ ความสุขต่างมุมมอง เมื่อเราไปงานบุญจุดบั้งไฟในแทบจะทุกบริเวณที่เรามองไปยังจุดลานจุดบั้งไฟเราจะเห็นมนุษย์โคลนตมที่เดินไปเดินมา เหมือนมนุษย์อวกาศเพราะทุกบริเวณตัวทั้งหมดรวมถึงผม คิ้ว หรือบางคนนั้นจมูกยังเสริมด้วยดินมองแล้วดูเย็นสบายน่าดู แต่อย่าได้เข้าไปใกล้สิ่งเหล่านี้เพราะถ้าหากเราเป็นเพื่อนหรือคนรู้จัก เราอาจจะอยู่ในสภาพเดียวกันได้ คุณจะโดนหามและนำไปอาบโคลน เป็นพวกเดียวกันอย่างแน่นอนอากาศในการจุดบั้งไฟนั้นเป็นฤดูร้อน บางครั้งอาจจะเป็นวิธีคลายร้อนที่ดี นำโคลนมาทาตัวทำให้เย็นขึ้นและผิวจะไม้กรอบไหม้ลอกเพราะแดดเลีย บางทีการไปดูบั้งไฟช่วงที่บั้งไพกำลังเตรียมความพร้อมเราก็สามารถหันมาดูมนุษย์โคลนตมได้ พวกเขาจะเล่นโคลนอย่างมีความสุข นำมาทาตัวทาแขนทาขา รวมถึงนำไปจัดทรงผมให้กับเพื่อน และแต่งตัวให้กับตนเอง ดูแล้วต้องมีรอยยิ้มให้อย่างแน่นอน เราเองเป็นคนในหมู่บ้านที่โตมากับบุญบั้งไฟ อายุของการจัดงาน ยาวนานกว่าอายุของเรา ซึ่งจะลงไปดูประมาณสิบนาฬิกาหรือลงรอชมบั้งไฟบั้งใหญ่ ก่อนที่จะนำลงไปจุดนั้นมีการแห่รอบบ้าน รอบหมู่บ้านยิ่งถ้าบั้งใหญ่ จะแห่ไปบ้านของเฒ่าจั้มเพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะแห่นำไปยังลานจุดเพื่อทำการจุด ช่างทำบั้งไฟทุกคนต่างรอคอยวันนี้ด้วยกันทั้งหมด ไม่ได้เสียดายสิ่งที่ได้เสียไป แต่รอชมความสำเร็จของตนเองค่ายบั้งไฟบางค่ายนั้นมีการบนบานว่ากล่าวเพื่อให้ตนเองประสบความสำเร็จ แล้วจะกลับมาบ้านทำบั้งไฟถวายพญาแถน เมื่อได้ชัยชนะกลับมา ก็ได้ทำตามคำของตนเอง ความสุขไม่มีประมาณไม่มีความเสียดาย ถ้าหากเราทำอะไรแล้วกลัวแต่จะขาดทุน เสียทรัพย์มันคงไม่มีความสุขอย่างแน่นอนหนึ่งเดียวในโลกที่ได้รับการยอมรับว่าคือที่สุดแล้ว ที่นาซ่าต้องหันหน้ามามอง การที่จะเป็นอย่างนี้ได้ไม่ใช่เพียงการทำแค่สองสามปี แต่มันมากกว่าช่วงอายุคน ที่ยิ่งทำยิ่งมีการต่อยอดและค้นหาวิธีการที่ดีที่สุด เช่นจากที่จุดบั้งไฟขึ้นไปแล้วบางบั้งนั้น วิ่งเข้าบ้านไปตกใส่หลังคาบ้าง ตกใส่รถเข้าบ้านชาวบ้าน จนได้เปลี่ยนมาเป็นบั้งไฟติดร่มซึ่งบางครั้งนั้นติดเสร็จร่มไม่กาง ก็ทดลองใหม่ จนสำเร็จ ทุกอย่างไม่ใช่เกิดขึ้นเพียงวันสองวัน มากกว่าสามสิบปีแม้ว่าสถานการณ์โรคระบาดจะมาเยือนให้สะดุด แต่พอถึงเวลาได้จัดก็จัดอย่างสุดความสามารถทำให้ชาวบ้านมีความสุขถ้วนหน้า พร้อมที่จะทำนาในฤดูกาลต่อไป ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นของผู้เขียน (อุ้งเท้าแมว)อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !