รีเซต

เที่ยวเหนือ ! แบกเป้เที่ยว เชียงราย น่าน พะเยา 4 วัน 3 คืน ช่วงปลายฝนต้นหนาว นอนเล่น เที่ยวธรรมชาติ

เที่ยวเหนือ ! แบกเป้เที่ยว เชียงราย น่าน พะเยา 4 วัน 3 คืน ช่วงปลายฝนต้นหนาว นอนเล่น เที่ยวธรรมชาติ
Filmthii
9 สิงหาคม 2561 ( 07:50 )
93.4K
10

        เข้าสู่ช่วง ปลายฝนต้นหนาว กันแล้วสำหรับปีนี้ ใครที่กำลังมองหา ที่เที่ยวธรรมชาติ ใน ภาคเหนือ อยู่ล่ะก็ เตรียมตัวกันให้พร้อมเลยครับ เพราะเราจะพาทุกคนไปเที่ยว ทริป เชียงราย น่าน พะเยา ในช่วงปลายฝนต้นหนาว 4 วัน 3 คืน กันครับ บอกลเยว่าทริปนี้ ไม่มีเหงาอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ก็ตามเราไปเที่ยววันเลยครับ

 

 

DAY 1


         ครั้งนี้เราได้เดินทางไปด้วยสายการบิน Thai Lion Air เครื่องบินลำใหม่เอี่ยม โดยเราเลือกเวลาเดินทางไฟล์ทเช้า เวลา 08.20 น. โดยใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที แต่ครั้งนี้เรารู้สึกโชคดี เราถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ก่อนกำหนดเกือบๆ 30 นาที ซึ่งก่อนที่เครื่องบินกำลังจะแลนดิ้งลงสู่ท่าอากาศยาน เราจะเห็นพื้นดินข้างล่างเป็นทุ่งนาสีเขียว สลับกับทิวเขา เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับคนเมืองอย่างเราที่ชื่นชอบธรรมชาติ

 

 

        เมื่อเราลงสู่ จ.เชียงรายกันแล้ว ไม่รอช้าเรามุ่งหน้าไปสู่ จ.พะเยา กันก่อนเลยครับ โดยทริปภาคเหนือตอนบนในครั้งนี้ เราได้แพลนกันไว้ว่า จะตามเก็บสถานที่ท่องเที่ยวใน จ.พะเยา และ จ.น่าน กันก่อน แล้วค่อยกลับมาเที่ยวต่อใน จ.เชียงราย นั่นเองครับ

        เรานั่งรถตู้ส่วนตัวเพื่อเดินทางไป จ.พะเยา โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เวลาใกล้จะเที่ยงแล้ว ไม่รอช้าเราขอพาทุกคนไปลิ้มลองเมนูก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อยสูตรเด็ด จาก ร้านก๋วยเตี๋ยวอันเจริญ กันก่อนเลย

        เมนูที่เราสั่งกันในครั้งนี้ จะมีก๋วยเตี๋ยวเนื้อรวมมิตร, ลูกชิ้นหมูปิ้ง, ขนมจีบหมูชิ้นโต และ น้ำตะไคร้หวานหอม 1แก้ว ครับ ขอบอกก่อนเลยว่า รสชาติของน้ำซุปในก๋วยเตี๋ยวหวานและหอมมาก เนื้อวัวที่ถูกหั่นสไลด์เป็นชิ้นๆถูกต้มจนเปื่อย เมื่อชิ้นเนื้อเข้าปากแล้วจะรู้สึกว่ามันละลายในปาก ถือว่าเมนูนี้ผ่านครับ มาถึงในส่วนของลูกชิ้นหมูปิ้งและขนมจีบหมู รสชาติกำลังดี แต่ไม่ถึงกับว่ามันอร่อยจนร้อง ว้าว ! สุดท้ายเครื่องดื่มตะไคร้ ถือว่ารสชาติหวาน รู้สึกทานง่ายกว่าที่อื่นๆที่เคยทานมา

 

 

        อิ่มท้องกันไปแล้ว ต่อไปเราขอพาทุกคนจุดท่องเที่ยวสำคัญทางวัฒนธรรมของ จ.พะเยา กันดีกว่า หลายคนคงรู้จักสถานที่แห่งนี้กันดี นั่นก็คือ กว๊านพะเยา หรือ ทะเลสาบน้ำจืดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในภาคเหนือ มีลักษณะเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่รูปพระจันทร์เสี้ยวเกือบครึ่งวงกลมเว้าแหว่งทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งคำว่า กว๊าน นั้นหมายถึง หนองน้ำ หรือบึงน้ำขนาดใหญ่ และคำนี้มีใช้ในท้องถิ่นล้านนาเฉพาะที่จังหวัดพะเยาแห่งเดียวเท่านั้น

 

 

        เราได้เหมาเรือลุงท่านหนึ่งซึ่งเป็นชาวบ้านแถวริมทะเลสาบ เพื่อพาเราไปนั่งเรือชมวิวและแวะไหว้พระที่วัดกลางน้ำกัน โดยคุณลุงขอคิดค่าบริการคนละ 30 บาท (สำหรับ 8 คนขึ้นไปนะครับ) ถ้าหากมากน้อยกว่านี้ หรือมากกว่านี้ ก็อาจต่อรองเรื่องราคากับลุงได้เช่นกัน
        คุณลุงเล่าว่า ชาวพะเยามักออกมาเดินเล่นในยามเย็น หรือไม่ก็ชมพระอาทิตย์ตกดิน นอกจากนี้ไฮไลท์ของกว๊านพะเยายังอยู่ที่การเวียนเทียนทางน้ำหนึ่งเดียวในโลกในวันสำคัญทางพุทธศาสนา คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา ณ วัดติโลกอารามกลางกว๊านพะเยาที่มีอายุกว่า 500 ปี
        สำหรับเราแล้ว คิดว่า กว๊านพะเยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อาจต้องเดินทางมาในช่วงเวลาเย็น เพราะ หากมาในช่วงเวลาเที่ยง อาจจะเจอแดดที่จ้า ทำให้รู้สึกร้อนเวลานั่งเรือครับ แต่เรารู้สึกชอบและหลงใหลกับเกาะกลางน้ำ วัดติโลกอาราม เพราะด้านบนเกาะจะมีจุดที่ตั้งพระพุทธรูปและศาลศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังได้เห็นชาวช่วยกันสร้างเรือไม้ขึ้นมาเองด้วยเช่นกัน

 

ทริปเชียงราย น่าน พะเยา เที่ยวเหนือ ปลายฝนต้นหนาว

 

        หลังจากกลับขึ้นฝั่งกันมาแล้ว ไม่รอช้า เราได้นั่งรถตู้เดินทางต่อ สู่ จ.น่าน กันเลยดีกว่าครับ โดยคืนแรกนี้ เราจะนอนกันที่ อ.เมือง จ.น่าน กัน เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ก่อนจะเข้าสู่ อ.เมือง เราได้มีโอกาสแวะไปกินกาแฟไทลื้อ อ.ปัว กันก่อนครับ
        ร้านกาแฟไทลื้อ มีไฮไลท์เด็ดคือวิวด้านหลังของร้าน ซึ่งเป็นวิวภูเขาล้อมรอบและทุ่งนากว้าง ถือว่าเป็นการกินกาแฟหลักสิบแต่ได้วิวหลักล้าน นั่นเองครับ เราคิดว่าการมานั่งกินกาแฟที่ร้านนี้ มันไม่ใช่แค่เป็นการกินกาแฟและชมวิวทิวทัศน์เพียงอย่างเดียว แต่มันยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวไทลื้ออีกด้วย เพราะทางร้านได้นำอุปกรณ์เครื่องมือและของใช้ของชาวไทลื้อมาตั้งโชว์อยู่ด้วย

 

 

        หลังจากแวะกินกาแฟไทลื้อเสร็จแล้ว เราก็นั่งรถตู้เข้าเมืองกันเลยครับ โดยเราแวะเข้าไปของไปเก็บที่โรงแรมกันก่อนที่จะออกมาเดินหาอะไรกินมื้อเย็นกัน เราพักกันที่ โรงแรม De Nan ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองน่าน
        มื้อเย็นวันนี้ เราเลือกร้านอาหารเหนือ อย่าง ร้านเฮือนฮอม เราได้สั่งเมนูแกงอ่อมเหนือ, ไส้อั่ว, ปีกไก่ทอดเกลือสมุนไพร, น้ำพริกหนุ่มพร้อมแคปหมู, ลาบหมูเหนือ และ ผัดแหนมกับไข่
เมนูที่เราชอบที่สุดสำหรับร้านนี้ คือ ลาบหมูเหนือ และปีกไก่ทอดเกลือสมุนไพร เพราะเรารู้สึกว่ารสชาติมันทานง่ายและกลิ่นอายความเป็นภาคเหนืออยู่

 

 

        ของคาวจบไป ของหวานต้องมา คืนนี้เราขอปิดท้ายไปด้วยร้านขนมหวานอันโด่งดังในเมืองน่าน คงหนีไม่พ้น ร้านขนมหวานป้านิ่ม เพราะ ร้านป้านิ่มเปิดขายมาอย่างยาวนานนับสิบปี เมนูยอดฮิตของทางร้าน จะเป็นเมนูไอศกรีมมะม่วงกับข้าวเหนียวดำเปียก และ บัวลอยไข่หวาน นั่นเองครับ ร้านป้าจะเปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันพุธ หากใครสนใจก็สามารถไปลองทานกันได้ ร้านป้านิ่มจะอยู่ตรงกันข้ามกับวัดศรีพันต้น นั่นเองครับ

 

 

 

DAY 2


        ตื่นเช้าสูดอากาศ จ.น่าน กันให้เต็มปอด และ ทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ กันที่โรงแรมก่อนเที่ยวต่อ วันนี้เราจะมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติแม่จริม เพื่อเปิดประสบการณ์ทำกิจกรรม ล่องแก่งน้ำว้า กันครับ โดยใช้เวลาเดินทางกันประมาณ 1ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงตัวอุทยานฯ
        เมื่อลงรถปุ๊ป ก็จะเจอเหล่าพี่ๆ ที่อุทยานฯ มาคอยต้อนรับและสอนวิธีการล่องแก่ง พายเรือกันอย่างง่ายๆและใช้เวลาไม่มาก หลังจากสอนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาของการล่องแก่งกันครับ เราขอออกตัวก่อนเลยว่า การล่องแก่งในครั้งนี้คือครั้งแรกในชีวิต ฉะนั้นจึงเกิดความกลัวเล็กน้อยเมื่อถึงเวลาลงเรือ

 

 

        โดยจะมีแก่งให้ล่องทั้งหมด 5 แก่ง ใช้เวลาล่องกันประมาณ 2 ชั่วโมง รวมนั่งรถกลับมาถึงอุทยาน ส่วนตัวรู้สึกประทับใจกับการล่องแก่งที่นี่มาก โดยเฉพาะแก่งที่ 4 และที่ 5 ก่อนจะจบลง เพราะกระแสน้ำที่เชี่ยวแรงและหินเยอะกว่าแก่งอื่น ทำให้รู้สึกสนุกและท้าทาย เมื่อล่องครบ 5 แก่ง จะมีรถของอุทยานมารอรับตรงปลายน้ำ ซึ่งจุดนั้นถือว่าวิวรอบๆ สวยมาก ทิวเขาสูงชันกับต้นไม้ใหญ่เขียวขจี
        พี่ๆ ของอุทยานฯ เล่าว่า เดือนกันยายนปีนี้ถือว่าเป็นช่วงเริ่มต้นเทศกาลล่องแก่งของแก่งน้ำว้า เพราะระดับน้ำจะไม่สูงและไม่น้อยจนเกินไป และมีนักท่องเที่ยวแห่กันมาจนถึงเดือนมีนาคมกันเลยทีเดียวครับ ก่อนจะเดินทางออกจากอุทยานแห่งชาติแม่จริม เราได้เดินไปถ่ายรูป ณ จุดสะพานแขวนกันก่อน จุดนี้ถือว่าสวยและเหมาะแก่การถ่ายรูปเมื่อมาที่นี่เลยครับ

 

 

        หลังจากเสร็จจากกิจกรรมล่องแก่งกันที่ จ.น่าน คราวนี้ถึงเวลามุ่งหน้าสู่ จ.เชียงราย กันเลยดีกว่า เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที โดยประมาณ เพราะเนื่องจากสภาพอากาศฝนตกตลอดทาง
        เมื่อถึง จ.เชียงราย เราก็แวะทานมื้อเย็นกันที่ ร้านลาบสนามกีฬา เมนูที่เราสั่ง คือ เมนูแก่งอ่อมเหนือกระดูกอ่อนหมู, แหนมหมูห่อผัก, แกงฮังเล และ ลาบหมูเหนือ ส่วนตัวร้านนี้เราชอบเมนูแหนมหมูห่อผัดที่สุด เพราะตัวแหนมรสชาติกำลังดี ไม่เปรี้ยวจนเกินไป กับอีกเมนูคือ แกงฮังเล เพราะน้ำแกงเข้มข้นและเนื้อหมูเปื่อยกำลังดี

 

 

         หลังจากอิ่มท้องแล้ว เราได้แวะเดินเล่น ย่อยอาหาร ย่าน เชียงรายไนท์บาร์ซ่า กันก่อนเข้าโรงแรม ซึ่งสถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการแวะซื้อเสื้อฝ้ายประจำเมืองเชียงราย ราคาจะอยู่ประมาณตัวละ 100 บาทขึ้นไปครับ แล้วแต่การดีไซน์

 

 

        คืนนี้เรานอนกันที่ โรงแรม M Residence ตั้งอยู่ใกล้กับเซนทรัลพลาซ่าเชียงราย ครับ โดยรวมถือว่าดี ห้องพักสะอาด และ ไม่แคบจนเกินไป

 

 

DAY3


        วันนี้เราจะอยู่เที่ยวในจังหวัดเชียงรายกันทั้งวันครับ เริ่มต้นจากไป สวนแม่ฟ้าหลวง ดอยตุง แม้อากาศไม่เป็นใจสำหรับวันนี้ แต่เราได้เตรียมร่มมาด้วย เพราะไม่อยากพลาดที่จะเข้าชมสวนดอกไม้ ตามรอยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
        ภายในสวนแม่ฟ้าหลวงในช่วงนี้จะมีนักท่องเที่ยวน้อย เพราะเนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกตลอดเกือบทุกวันนั่นเองครับ

 

 

        เราใช้เวลาเดินชมสวนประมาณแค่ 1 ชั่วโมง ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก เราจึงเดินไปต่อที่ ไร่ชาฉุยฟง ไร่ชายอดฮิตที่หากใครมา จ.เชียงราย จะต้องมาที่นี่ วันนี้เรารู้สึกโชคดีมากที่ภายในไร่ชามีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่มากนัก เลยทำให้เราได้เดินถ่ายรูปในมุมต่างๆ ได้โดยไม่มีวิวด้านหลังเป็นคน ฮ่าๆๆ
        แน่นอนว่า หากมาไร่ชาฉุยฟง จะต้องมาลองชาเขียวปั่น มาพร้อมกันชีสเค้กชาเขียว สำหรับใครที่ชื่อชอบชาเขียวอยู่แล้ว จะต้องชอบแน่นอน โดยเฉพาะเมนูชีสเค้กชาเขียว รู้สึกว่าที่นี่อร่อยกว่าร้านอื่นที่เคยไปกินมา

 

 

        แม้วันนี้ฝนจะตกลงตลอดสาย เราก็ไม่หวั่น เราขอไปนั่งหลบฝนกันที่ก่อนที่ร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น อย่าง Ryokan Cafe เราชอบร้านนี้มาก เพราะร้านจะตกแต่งไปในสไตล์ของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเจ้าของร้านชื่นชอบวัฒนธรรม และตัวการ์ตูนอนิเมะชั่นจากสตูดิโอจิบลิ อย่าง เจ้าตัวโทโทโร่ นั่นเอง อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ จิบชาถ่ายรูป ณ Ryokan Cafe คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น สุดชิค

 

 

        เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ช่วงเย็นวันนี้เราได้ไปสถานที่สุดท้ายที่ไม่ควรพลาด อย่าง ไร่สิงห์ปาร์ค แต่เนื่องจากอยู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างหนักอีกครั้ง เราจึงได้แค่แวะทานข้าวที่ ร้านอาหารภูภิรมย์ ก่อนกลับเข้าสู่โรงแรม

 

 

DAY 4


        ตื่นขึ้นมาตอนเช้า รับประทานอาหารอาหารเช้าที่โรงแรมก่อนที่จะเดินทางไปสนามบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ตลอด 4วัน 3 คืนที่ตะลุยลัดเลาะภาคเหนือตอนบน บอกเลยว่าทั้งสนุกและตื่นเต้นกับกิจกรรมต่างๆมาก รวมไปถึงรู้สึกชิลล์ในการท่องเทีย่วท่ามกลางบรรยากาศปลายฝนต้นหนาว ข้อดีของการท่องเที่ยวฤดูนี้คือ จำนวนนักท่องเที่ยวน้อยกว่าเทศกาลอื่นๆ ทำให้เราสามารถถ่ายรูปโดยเห็นวิวทิวทัศน์เต็มๆ ได้ หากใครสนใจตามรอยทริปนี้ของเรา เราก็ไม่หวงนะครับ

 

 

ขอขอบคุณทริปดีๆ จาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย

 

 

ที่เที่ยวภาคเหนือ ที่น่าสนใจอื่นๆ

ชิลล์รับลมหนาว Glamorous Camping นอนเต็นท์ แคมป์ปิ้ง ที่ สิงห์ปาร์ค เชียงราย

 

เดินเล่นเหนือยอดไม้ ที่ DoiTung Tree Top Walk เชียงราย

 

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่

Facebook Twitter

และ แอปพลิเคชั่น

TrueID Application Add friend ที่ ID : @TrueID