สวัสดีค่าา วันนี้โบก็ได้หยิบประสบการณ์ปั่นจักรยานรอบทะเลสาบคาวากุชิโกะมาเล่าให้เพื่อน ๆ ทุกคนฟังนะคะ เราไปวันที่ 22 มีนาคม ถึงต้นใบจะยังโล้น ๆ อยู่ แต่อากาศกำลังดีเลยค่ะ เราใส่เสื้อยืดตัวเดียวกับกางเกงขายาวธรรมดาก็เอาอยู่แล้ว (อันนี้แล้วแต่คนนะคะ เพื่อนที่ไปกับเราก็ต้องใส่แขนยาวทับอีกทีค่ะ) โดยทะเลสาบ Kawaguchigo นี้เนี่ยเป็นทะเลสาบที่จะเดินทางง่ายที่สุดเลย เพราะว่าติดกับสถานี Kawaguchigo สามารถเดินทางโดยรถบัสและรถไฟได้เลยค่ะ และใกล้ ๆ ตัวสถานีก็มีที่ให้เช่าจักรยานด้วย เราไม่ได้ถ่ายหน้าร้านที่เช่ามา แต่เราเช่าเป็นของ Fuji Kanto เลยค่ะ ราคารถจักรยานไฟฟ้าตกชั่วโมงละ 600 เยน หรือประมาณ 140 บาท เราเช่าไป 3 ชั่วโมงกำลังนั่งกินลมชมวิวดีเลยค่ะ (แต่ขากลับเราลงทางเลยเอาจักรยานกลับมาคืนเลทไปประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่ก็ใจดี ไม่ปรับเพิ่มเลยค่ะTT) (แล้วก็ เราเป็นคนปั่นจักรยานเร็วค่ะ แต่ว่าแวะถ่ายรูปตลอด ถ้ามีเวลาเช่าสัก 4 ชั่วโมงก็โอเคนะคะ) แถมทะเลสาบนี้ยังมีระยะทางรอบ ๆ เพียง 20 กิโลด้วยค่ะ ไม่มากไม่น้อยเกินไปสำหรับมือใหม่หัดขี่เลย โดยความที่โบไม่เคยปั่นจักรยานแบบไฟฟ้ามาก่อนเลย ตอนแรกคือหวาดเสียวสุด ๆ เพราะเป็นทางถนนและเครื่องมันแรงมาก (มีให้กดแบบ High กับ Low แต่แบบ Low ก็แรงอยู่ดีค่ะ) แต่ก็โชคดีที่ญี่ปุ่นเค้าจะมีเลนสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ และรถที่ขับมาก็จะระวังเราด้วยส่วนหนึ่งค่ะ ระหว่างนั้นก็จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ ๆ จากนั้นเราก็จะขับไปเจอลานจอดรถใหญ่ ๆ เราก็ไปตามทางต่อได้เลยค่ะ อันต่อไปนี้ล่ะ คือตอนแรกเราสับสนมากว่ามาถูกมั้ย เพราะมันเป็นถนนใหญ่และป้ายมันก็บอกว่าจะไปอีกทะเลสาบหนึ่ง แต่เช็คใน google maps แล้วว่าถูกก็เลยกลั้นใจไปต่อ สรุปว่าปั่นต่อไปประมาณ 10 นาทีจะเจอพิพิธภัณฑ์ดนตรีก็เป็นอันว่ามาถูกทางแล้วค่ะ หลังจากนี้ก็ไม่ยากแล้วค่ะ เราแค่ต้องพยายามอยู่เลนในตามทางไปเรื่อย ๆ ซึ่งช่วงแรก ๆ ก็จะยังพอมีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านอยู่ และพอเราปั่นจักรยานไปได้สัก 1 ใน 3 ของเส้นทางทั้งหมดก็จะเป็นจุดจอดของรถทัวร์ รวมถึงจะมีพวกห้องน้ำและอาหารให้ได้พักกันค่ะ ส่วนตัวโบแวบซื้อสตอเบอรี่มา บอกเลยว่าคุ้มราคา 400 เยนสุด ๆ เลยค่ะ แล้วหลังจากผ่านจุดนั้นไปทางที่เหลือก็จะคนน้อยลงแบบเห็นได้ชัดแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ขี่เพลิน ๆ ได้เลย แถมเราจะสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อีกสักพักใหญ่ ๆ ไปเลยค่ะ (อย่าลืมเช็คพยากรณ์ว่าวันที่ไปจะสามารถเห็นภูเขาได้มั้ยด้วยนะคะ) เราก็มีแอบแวะถ่ายรูปกับกินสตอเบอรี่ที่เพิ่งซื้อมาบ้าง จำได้ว่าบรรยากาศตอนนั้นที่ตราตรึงมากเลยค่ะ พอขับต่อมาอีกสัก 4 ใน 5 ของเส้นทางก็จะเป็นจุดพักรถค่ะ เพียงแต่อันนี้จะไม่ได้มีนักท่องเที่ยวเยอะเท่าจุดที่แล้วแล้ว ครั้งนี้โบเลยจอดจักรยานแล้วลงไปเข้าห้องน้ำ พอเดินออกมาเห็นฝั่งตรงข้ามเป็นสนามหญ้าให้ไปนั่งได้เลยตัดสินใจซื้อไอศกรีมมาทานด้วยค่ะ โดยพื้นที่จะแบ่งเป็นสองส่วน ที่ให้สัตว์เลี้ยงเข้าได้และไม่ได้ ส่วนเราก็ไปนั่งลงกับพื้นดูครอบครัวปิกนิกกับฟังเสียงน้ำจากทะเลสาบ แล้วก็มีวิวภูเขาโอบล้อมด้วยค่ะ ฟินที่สุดTT จากนั้นต่อสักพักก็จะวนมาตรงที่นักท่องเที่ยวอยู่แล้วค่ะ ขี่ประมาณ 15 นาทีได้ก็จะวนกลับมาที่เก่า แล้วเราเห็นว่าเหลือเวลาที่เช่าจักรยานมาเลยเข้าไปทานขนมที่ร้าน Apple Pie Lab ซึ่งก็จะมีหลากหลายสูตรแอปเปิ้ลพายให้เลือก ของเราสั่งมาเป็นแอปเปิ้ลของคาวากุชิโกะในราคา 600 เยน บอกเลยว่าทาสรักแอปเปิ้ลต้องรักร้านนี้แน่ ๆ ค่ะ เพราะเค้าให้ชิ้นแอปเปิ้ลมาเยอะมากก แถมเนื้อแป้งก็ดีรับกับแอปเปิ้ลสุด ๆ ค่ะ ต่อจากนั้นเราก็เอารถจักรยานไปคืน และเดินทางไป Fuji Q Highland ต่อค่ะ สามารถอ่านเกี่ยวกับสวนสนุกนี้ได้ ที่นี่ เลยนะคะ แต่ว่าขอแยกเป็นอีกบทความหนึ่งจะดีกว่าเพื่อไม่ให้เนื้อหามันยาวจนเกินไป อย่าลืมตามไปอ่านกันได้นะคะ ส่วนวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน หวังว่าทุกคนจะชอบ และเก็บเนื้อหาประสบการณ์ของเราไปปรกอบการตัดสินใจในการเที่ยวนะคะ ต้องขอขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้เลยค่า เครดิตภาพ • ภาพปก • ภาพที่ 1 : ภาพถ่ายโดยครีเอเตอร์ • ภาพที่ 2 : ภาพถ่ายโดยครีเอเตอร์ • ภาพที่ 3 : ภาพถ่ายโดยครีเอเตอร์ • ภาพที่ 4 : ภาพถ่ายโดยครีเอเตอร์ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !