เอาจริงๆ ฉันไปเที่ยวเมืองกาญจน์บ่อยมาก แต่สังขละบุรี จะเป็นที่ที่ฉันจะขอติดไว้ก่อน ไว้วันหลัง ไว้ทริปหน้า เพราะความที่มันเป็นกาญจนบุรีที่ดูไกล ดูไปลำบาก และก็ไม่รู้ว่านอกจากการตักบาตรนอกสถานที่ สังขละบุรีมีอะไรให้แอ๊วอีกบ้าง! แต่วันหลัง ทริปหน้า เอาไว้ก่อน ก็มีอันสิ้นสุด เพราะคณะท่านสมาชิกในบ้านต่างยกมือโหวตว่าจะไปสังขละให้ได้ ไปแบบสัปดาห์นี้แหละ...ว่าง...ไร้การวางแผน...โนแพลน และ ห้าม say no! จากกรุงเทพไปสังขละนี่แค่ประมาณ 360 กิโลเมตร แต่ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางนะคะ เพราะมีการขับขึ้นเขาบางช่วง มีหูดับเล็กๆ เวียนหัวน้อยๆพอเป็นกระสัย กว่าจะถึงที่หมายก็เกือบเย็น พวกเราจัดการหาที่พักง่ายๆ แถวนั้น พักผ่อนยืดเส้นยืดสาย เพื่อเตรียมตัวไปถนนคนเดินในตอนค่ำ แน่นอนว่า ของกินที่ต้องมาลองก็คือ หมูจุ่มพม่า รสชาติคล้ายหมูพะโล้ หั่นเสียบไม้พอดีคำ มีให้เลือกทั้งส่วนเนื้อ หู เครื่องใน เรียกว่ากินเพลินจนลืมนับไม้กันเลยทีเดียว จากนั้นก็เดินตลาด ชมของสวยๆ งามๆ โดยเฉพาะพวกชุดพื้นเมือง และผ้าถุง สวยแปลกตาดีค่ะ อีกส่วนที่ทำให้ตลาดแห่งนี้ดูเสน่ห์ก็คือการที่สาวชาวมอญมาโชว์การแสดงต่างๆ บางคนก็โชว์ความสามารถโดยการทูลหม้อหลายๆใบไว้บนหัว ยืนคอตั้งหลังตรงแบบที่โรงเรียนพัฒนาบุคลลิคภาพในกรุงต้องชิดซ้ายไปเลยจ้า รุ่งเช้าอากาศดีมาก เรามารอตักบาตรกับชาวบ้าน เด็กๆ ออกมาช่วยพ่อแม่ขายแป้งพิมพ์ลายบนหน้านักท่องเที่ยว คุณป้าที่ยังกระฉับกระเฉงออกมาขายดอกไม้ วิถีชิวิตของคนทีนี่เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งสำหรับผู้มาเยือนอย่างพวกเรา สะพานมอญยังทอดตัวอยู่ตรงนั้น เชื่อมชาวบ้านสองฝั่งไทยมอญ การยืนมองน้ำนิ่งๆ หมอกจาง ให้ความรู้สึกละเมียดละไมในอารมณ์มาก จากตอนแรกไม่อยากมา กลายเป็นว่าไม่อยากกลับซะงั้น ก่อนกลับบ้าน เราขับเลยไปต่อที่เจดีย์สามองค์ แวะซื้อของเล็กๆ น้อย ใครมีเวลาอยากข้ามไปเที่ยวพม่า บริเวณด่านนี้ก็มีรถบริการนะคะ แต่วันนี้เราแวะมานมัสการก่อนกลับ จบทริปแบบชิวๆ ค่ะ