ตอนนี้เชื่อว่าหลายคนคงตั้งตารอนับวันที่จะได้ออกไปใช้ชีวิตปกติ ได้ไปเที่ยวในที่ต่าง ๆ ดังใจฝัน ไม่ต้องนั่งจับเจ่าอยู่แต่ในบ้านต่อไป แต่จากสถานการณ์แล้วถ้ายังไม่มีวัคซีน การจะเดินทางอย่างสะดวกสบายเหมือนกับตอนก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุใหม่นั้น คงจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะอีกนานแค่ไหนอาจจะสามเดือน หกเดือน หรือหนึ่งปี อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งหมดความหวัง ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คงดูรูปสถานที่เที่ยวเก่า ๆ ที่เคยไปมา หรืออ่านข้อมูลท่องเที่ยวที่คนอื่น ๆ ได้ไปเที่ยวมาเก็บตุนความรู้ไว้ก่อน ถึงเวลาก็จะได้เอามาใช้ทันที บทความนี้จะพาทุกท่านไปเที่ยว Diamond Beach ที่ประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งผู้เขียนได้เดินทางไปเที่ยวกับพี่สาวเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นทริปที่ประทับใจทริปหนึ่งเลยทีเดียว สาเหตุที่ประทับใจน่าจะเป็นเพราะอากาศที่หนาวเย็น และภูมิประเทศที่ต่างจากประเทศอื่น ๆ ที่เคยไปมา บางคนเรียกประเทศไอซ์แลนด์ว่า Mars on Earth สำหรับผู้เขียนเห็นว่าจริงมากเพราะบรรยากาศหลาย ๆ ส่วนนั้นให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนดาวอังคาร มีหลายฉากที่เหมือนกับในหนังเรื่อง The Martian ที่ Matt Damon แสดงไว้ในปี ค.ศ. 2015 นั่นเอง สถานที่เที่ยว Diamond Beach เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในประเทศ Iceland ตั้งอยู่ในแนวชายหาดทรายสีดำ (หาดสีดำ เพราะหินที่ชายหาดเป็นหินจากภูเขาไฟจึงมีสีดำ) ซึ่งอยู่ในที่ราบธารน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ Breiðamerkursandur ซึ่งอยู่ในทะเลสาบธารน้ำแข็ง Jökulsárlón ซึ่งอยู่ทางชายฝั่งตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ชื่อ Diamond Beach นั้นมีที่มาจากก้อนน้ำแข็งทั้งเล็กและใหญ่ที่ละลายจากธารน้ำแข็ง Jökulsárlón มาที่ชายฝั่งแล้วกองอยู่ที่ชายหาดสีดำนี้ก่อนที่จะไหลลงไปใน Atlantic Ocean ในตอนที่น้ำขึ้น โดยก้อนน้ำแข็งเล็กใหญ่เหล่านี้เมื่อกระทบแสงอาทิตย์จะสะท้อนแสงอาทิตย์ตัดกับพื้นที่เป็นชายหาดสีดำทำให้มองเห็นเหมือนกับก้อนเพชรต้องประกายแสงแดดระยิบยับสวยงามจึงได้รับการตั้งชื่อว่า Diamond Beach นั่นเอง หากแต่ว่าการวางแผนมาชมภาพความงามของ Diamond Beach นั้นจำเป็นต้องดูสภาพอากาศและช่วงเวลาด้วย เนื่องจากในหน้าหนาวนั้นช่วงกลางวันสั้นและกลางคืนยาว ยกตัวอย่างช่วงเดือนธันวาคมที่ผู้เขียนไปนั้นเริ่มสว่างตอนเวลาเก้าโมงหรือสิบโมงเช้าและจะมืดประมาณบ่ายสี่โมง หากต้องเดินทางไปเที่ยวหลายที่ต้องวางแผนอย่างดีเพื่อที่จะได้มาถ่ายภาพที่ไดมอนด์บีชได้ทันพระอาทิตย์ตกดิน ช่วงที่ผู้เขียนไปนั้นก็พอจะถ่ายภาพได้บ้างแต่ได้ใช้เวลาที่ไดมอนบีชสั้นมาก ประมาณ 30 นาทีจากนั้นก็หิมะตกซึ่งลมแรงมากไม่สามารถเที่ยวต่อได้ต้องเดินทางต่อไปจุดหมายต่อไป อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจมาก งดงามดังสวรรค์บนดินจริง ๆ ซึ่งหากมีโอกาสได้ไปอีกครั้งก็อยากจะพาลูก ๆ ไปชมความงามของประเทศไอซ์แลนด์ดินแดนภูเขาไฟ ธารน้ำแข็ง และแสงเหนือนี้อีกสักครั้ง ภาพปกและภาพประกอบทั้งหมด โดยผู้เขียน