รีเซต

ตำนานโอโรจิ จากอนิเมะดันดาดัน Dandadan SS2 งูยักษ์ หนอนมรณะแห่งญี่ปุ่น

ตำนานโอโรจิ จากอนิเมะดันดาดัน Dandadan SS2 งูยักษ์ หนอนมรณะแห่งญี่ปุ่น
Muzika
30 กรกฎาคม 2568 ( 14:44 )
55

     หนึ่งในตำนานที่โด่งดัง น่าสะพรึงกลัว และถูกเล่าขานมาอย่างยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น ก็คือเรื่องราวของ "ยามาตะ โนะ โอโรจิ" (Yamata no Orochi) งูยักษ์ 8 หัว ที่ครั้งนี้เราจะพาทุกคนดำดิ่งสู่เรื่องราวของอสรพิษร้ายในตำนานตัวนี้ ที่ตอนนี้ปรกฏตัวในเรื่อง Dandadan SS2 ด้วย พร้อมชี้เป้าว่าถ้าอยากสัมผัสกลิ่นอายของโอโรจิ ต้องไปที่ไหนในญี่ปุ่น! *คำเตือน มีสปอยอนิเมะ Dandadan SS2*

 

 

ตำนานโอโรจิ จากอนิเมะดันดาดัน Dandadan
งูยักษ์ หนอนมรณะแห่งญี่ปุ่น

 

©Yukinobu Tatsu/SHUEISHA, DANDADAN Production Committee

 

ตระกูลคิโตกับโอโรจิ (หนอนมรณะมองโกเลีย)

     อ้างอิงจาก Dandadan เนื้อเรื่องที่ทางตระกูลคิโตนั้นอ้างว่าพวกเขาคือผู้ปกป้องหมู่บ้านแห่งนี้จากภูเขาไฟ เพราะการมีอยู่ของงูยักษ์ หรือท่านโอโรจิ เลยทำให้มันไม่ระเบิด และยังก่อให้เกิดบ่อน้ำพุร้อนขึ้นมาอีกด้วย แต่ในความจริงสิ่งที่พวกนี้ใช้ในการหล่อเลี้ยงโอโรจิก็คือมนุษย์เป็นๆ นั่นเอง และไปๆ มาๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตระกูลคิโตนับถือมาตลอดนั้น ที่จริงเป็น UMA ประเภทหนึ่ง ที่เรียกว่า Mongolian Death Worm (หนอนมรณะมองโกเลีย) นั่นเอง

     ทีนี้ เรื่องราวของโอโรจิเองในประเทศญี่ปุ่นนั้นถือว่าเป็นตำนานที่ดังมากๆ เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นตัวละคร หรือเรื่องราวที่อ้างอิงถึงโอโรจิในมังงะชื่อดังหลายเรื่อง เช่น Naruto, One Piece, Shaman King เราลองมาดูกันดีกว่าว่าตามเรื่องเล่ามันเป็นอย่างไร

 

โอโรจิ อสรพิษร้ายผู้เขย่าขวัญแผ่นดินอิซุโมะ

©Yukinobu Tatsu/SHUEISHA, DANDADAN Production Committee

 

     ยามาตะ โนะ โอโรจิ ไม่ใช่แค่งูธรรมดาๆ แต่มันคืออสูรร้ายที่มี 8 หัว 8 หาง ลำตัวของมันใหญ่โตมหึมาจนทอดตัวข้ามหุบเขา 8 ลูก และพาดผ่านเนินเขา 8 แห่ง! ดวงตาของมันแดงฉานราวกับโคมไฟสีเพลิง มีต้นมอส และต้นสนไซเปรสขึ้นปกคลุมอยู่บนหลัง บ่งบอกถึงอายุขัยอันยาวนาน และที่น่าขนลุกที่สุดคือท้องของมันที่เต็มไปด้วยเลือด และหนองที่ไหลเยิ้มอยู่ตลอดเวลา

     ความน่าสะพรึงกลัวของโอโรจิไม่ได้อยู่แค่รูปลักษณ์ แต่เป็นเพราะมันจะปรากฏตัวขึ้นทุกปี เพื่อกลืนกินหญิงสาวบริสุทธิ์จากแคว้นอิซุโมะ (ปัจจุบันคือจังหวัดชิมาเนะ) เป็นเครื่องสังเวย ทำให้ผู้คนในแคว้นต่างหวาดกลัว และสิ้นหวัง

 

เทพซูซาโนโอะ วีรบุรุษผู้ปราบอสูร

 

Public Domain

 

     เรื่องราวความหวังเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เทพซูซาโนโอะ โนะ มิโคโตะ (Susanoo-no-Mikoto) เทพแห่งพายุ และมหาสมุทร ซึ่งถูกขับไล่จากสวรรค์ ได้เดินทางมายังแคว้นอิซุโมะ และได้พบกับสองตายายที่กำลังร่ำไห้ พวกเขาเล่าเรื่องราวของโอโรจิที่กำลังจะมาเอาชีวิตลูกสาวคนสุดท้องนามว่า คูชินาดะฮิเมะ (Kushinadahime) เทพซูซาโนโอะผู้กล้าหาญจึงเสนอตัวเข้าช่วยเหลือ โดยมีข้อแม้ว่าหากปราบโอโรจิได้ คูชินาดะฮิเมะจะต้องอภิเษกสมรสกับพระองค์

     จากนั้นเทพซูซาโนโอะจึงเริ่มวางแผน สั่งให้สองตายายเตรียม เหล้าสาเกหมักอย่างดี 8 ถังใหญ่ และนำไปวางไว้หน้าบ้าน เมื่อโอโรจิปรากฏตัวขึ้น มันก็ถูกดึงดูดด้วยกลิ่นหอมของสาเก และดื่มจนหมดทั้ง 8 ถัง ทำให้มันเมามาย และหลับใหลไปในที่สุด

     นี่คือโอกาสทองของเทพซูซาโนโอะ พระองค์ไม่รอช้า ใช้ดาบคู่กายฟันร่างของโอโรจิออกเป็นชิ้นๆ และระหว่างที่ฟันหางของมัน ก็ได้พบกับ ดาบวิเศษนามว่า "คุซานางิ โนะ สึรุกิ" (Kusanagi-no-Tsurugi) ซ่อนอยู่ภายใน ดาบเล่มนี้กลายเป็น 1ใน 3 สมบัติศักดิ์สิทธิ์แห่งญี่ปุ่น และถูกส่งมอบให้กับเทพีอามาเทราสุ เทพีแห่งดวงอาทิตย์ ผู้เป็นพี่สาวของเทพซูซาโนโอะในเวลาต่อมา

 

ตามรอยตำนานโอโรจิ ที่เที่ยวสุดขลังในญี่ปุ่น

     แม้จะเป็นตำนานโบราณ แต่เรื่องราวของโอโรจิยังคงะสอดแทรกอยู่ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน ใครที่อยากสัมผัสกลิ่นอายของตำนานนี้ ไปตามรอยได้เลยที่

 

©Yukinobu Tatsu/SHUEISHA, DANDADAN Production Committee

 

จังหวัดชิมาเนะ (Shimane Prefecture) และเมืองอิซุโมะ (Izumo)

     ที่นี่เปรียบเสมือนหัวใจหลักของตำนานโอโรจิเลยก็ว่าได้ เราสามารถเยี่ยมชม ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ (Izumo Taisha Shrine) ซึ่งเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ และสำคัญที่สุดของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่เชื่อว่าเทพเจ้าทั้งหลายจะมารวมตัวกัน นอกจากนี้ ยังมีแม่น้ำฮิอิคาวะ (Hiikawa River) ที่เชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่โอโรจิเคยอาละวาดอยู่

  • ที่ตั้ง: จังหวัดชิมาเนะ (Shimane Prefecture)
  • การเดินทาง: สามารถเดินทางโดยรถไฟจากสถานี Izumoshi

 

ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู (Atsuta Jingu) ในนาโกย่า

     ดาบคุซานางิ โนะ สึรุกิ หนึ่งในสามสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่พบในตัวโอโรจิ ปัจจุบันถูกเก็บรักษา และบูชาอยู่ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ในเมืองนาโกย่า แม้จะไม่มีการจัดแสดงดาบให้เห็นโดยตรง แต่การได้มาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ก็ถือเป็นการสัมผัสกับส่วนหนึ่งของตำนานอันยิ่งใหญ่

  • ที่ตั้ง: เมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ (Aichi Prefecture)
  • การเดินทาง: สามารถเดินทางโดยรถไฟใต้ดินไปยังสถานี Jingu Nishi หรือสถานี Atsuta Jingu Nishi

 

     เรียกได้ว่า เรื่องราวของโอโรจิสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของผู้คนในอดีตเกี่ยวกับพลังของธรรมชาติ และความกล้าหาญของวีรบุรุษผู้พิทักษ์ ใครที่หลงใหลในตำนาน และอยากสัมผัสกลิ่นอายความลึกลับของญี่ปุ่น การได้ไปตามรอยเรื่องราวของงูยักษ์ 8 หัวตัวนี้ ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน

====================