พูดถึงเกาะฮอกไกโดของประเทศญี่ปุ่น หลายคนคงนึกถึงเทศกาลหิมะซับโปโรอันโด่งดัง และด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งของเกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ทางทิศเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้สถานที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยความขาวโพลนของหิมะ ที่ปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ และฤดูกาล อันหนาวเหน็บที่แสนยาวนาน หลายคนที่เดินทางมาที่เกาะฮอกไกโดในฤดูหนาวจึงมักไม่ค่อยเห็นสิ่งใดนอกจากความขาวโพลนของหิมะที่เต็มอาณาบริเวณ แต่ในช่วงฤดูกาลอื่น ๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิย่างเข้าสู่ฤดูร้อนของเกาะฮอกไกโดนั้น เรียกได้ว่ามีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ทั้งต้นไม้ใบหญ้าอันเขียวขจี และดอกไม้นานาพันธุ์ที่เบ่งบานหลากสีสันละลานตา ซึ่งในฤดูกาลดังกล่าว มีเมืองแห่งหนึ่งบนเกาะฮอกไกโดที่เหมาะแก่การไปท่องเที่ยว โดยเฉพาะการปั่นจักรยานชมเมือง ซึ่งถือเป็นเสน่ห์สำคัญของเมืองนี้ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาท่องเที่ยว นั่นก็คือเมือง "บิเอะ" (Biei) เมืองบิเอะแห่งนี้ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ระหว่างเมืองอาซาฮิกาว่า (Asahikawa) และฟูราโน่ (Furano) ซึ่งล้วนเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของฮอกไกโด ในขณะที่เมืองบิเอะ ไม่ใช่เมืองที่เน้นการท่องเที่ยว หรือเมืองที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายเหมือนเช่น 2 เมืองดังกล่าว ด้วยความเป็นเมืองเล็ก ๆ ของบิเอะที่มักเป็นสถานที่ถ่ายทำโฆษณาหรือซีรีส์ของญี่ปุ่น ทำให้เริ่มเป็นที่สนใจของผู้คนและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ที่เริ่มเข้ามาสัมผัสบรรยากาศของเมืองอันเต็มไปด้วยทุ่งนา ทุ่งหญ้า ทุ่งดอกไม้ และขุนเขาที่โอบล้อม รวมทั้งเป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรอยู่อาศัยไม่มากนัก จึงทำให้เต็มไปด้วยความเงียบสงบ สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นเสน่ห์สำคัญของเมืองบิเอะ การเดินทางมาเยือนในฤดูใบไม้ผลิ หรือช่วงที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อนนี้ ซึ่งถือเป็นฤดูกาลที่น่าสนใจไม่น้อยเนื่องจากอากาศที่ไม่หนาวจนเกินไป ซึ่งตัวเลือกสำคัญในการมาเดินทางท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าว ก็คือการปั่นจักรยานชมเมือง โดยเฉพาะการปั่นไปดูทุ่งหญ้า หรือการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของผู้คนในพื้นที่ ซึ่งล้วนเป็นภาพที่มีความสวยงาม ภาพของบ้านเรือนหลังเล็ก ๆ หรือต้นไม้ที่บางครั้งถูกปล่อยให้เติบโตโดดเดี่ยวอยู่กลางทุ่งนาที่เมื่อได้เห็นแล้ว เกิดความรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก ในขณะเดียวกันภาพของทิวทัศน์ตลอดสองข้างทาง หากได้มากับใครบางคน ความรู้สึกอาจถูกแปรเปลี่ยนกลายเป็นความโรแมนติกได้อย่างง่ายดายเช่นกัน การเป็นเมืองแห่งต้นไม้ดอกไม้ใบหญ้าและขุนเขานี้จึงทำให้เมืองบิเอะแห่งนี้มีการสร้างอัตลักษณ์หรือจุดเด่นของเมือง ซึ่งก็คือ ต้นไม้ที่มีรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ และมีรูปทรงที่มีความแปลกตาดูสวยงาม หลายต้นเคยปรากฏในโฆษณาหรือบนฉลากสินค้าชื่อดังของญี่ปุ่นมาแล้ว ต้นไม้เหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่สามารถเชิญชวนให้ผู้คนได้มาเยี่ยมชมและถ่ายรูปกับต้นไม้ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก กระทั่งทางเมืองได้จัดทำแผนที่การปั่นจักรยานเพื่อไปชมต้นไม้ชื่อดังหรือต้นไม้เซเลปตามจุดต่าง ๆ เช่น ต้นเคนแอนด์แมรี่ (Tree of Ken and Mary) ที่ถือว่าเป็นต้นไม้ดาวเด่นประจำเมืองบิเอะเลยก็ว่าได้ ถึงขนาดที่ว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เข้าคิวถ่ายรูปคู่กับเจ้าต้นไม้นี้ เนื่องจากเมื่อดูดี ๆ แล้วรูปทรงของต้นนี้มีความสมมาตร ลักษณะสูงใหญ่ ซึ่งดูรวม ๆ แล้ว ก็ชวนให้น่าดูชมไม่น้อย หรืออย่างต้นคริสต์มาสชื่อดังที่ผู้เขียนปั่นจักรยานตามหาอยู่นานกว่าจะเจอ ความพิเศษของต้นคริสต์มาสต้นนี้ คือความที่เป็นต้นที่โดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางความเวิ้งว้างอยู่กลางทุ่งหน้าซึ่งอาณาบริเวณโดยรอบไม่ปรากฏต้นไม้อื่นใดเจริญเติบโตอยู่เคียงข้าง มันผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปี ผ่านอุณหภูมิติดลบ ผ่านหิมะ ผ่านแสงแดด ผ่านสายฝนมาแล้วหลายครั้ง แต่มันก็ยังคงยืนต้นเจริญเติบโตได้อย่างสง่างามมาจนถึงทุกวันนี้ การที่ได้มาเจอต้นคริสต์มาสที่ยืนเด่นต้นนี้ จึงทำให้รู้สึกว่า บางครั้งความแข็งแกร่งที่อยู่ภายใน หากเรามีอยู่อย่างเปี่ยมล้น และลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวของเราเอง ก็สามารถช่วยให้เรามีการเจริญเติบโตที่งอกงามได้เช่นกัน การเดินทางมาเที่ยวที่เมืองบิเอะในครั้งนี้ นอกเหนือจากการได้ปั่นจักรยานท่องเที่ยวชมบริเวณต่าง ๆ ของพื้นที่เกษตรกรรมขุนเขาที่รายล้อมรอบ และต้นไม้ชื่อดังของเมืองแล้ว ยังชวนให้ขบคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจและความเพลิดเพลินถือเป็นการท่องเที่ยวที่ผ่อนคลายโดยแท้ สำหรับใครที่สนใจอยากมาปั่นจักรยานหรือเที่ยวที่บิเอะก็สามารถนั่งรถไฟ หรือรถบัสมาจากเมืองซับโปโร หรือเมืองฮาซาฮิกาว่า เมื่อมาถึงสถานีรถไฟเมืองบิเอะแล้ว สามารถเดินออกมายังบริเวณย่านชุมชนเพื่อเช่าจักรยาน และสอบถามเส้นทาง หรือขอแผนที่การปั่นจักรยานจากร้านเช่าจักรยานเพื่อเยี่ยมชมจุดต่าง ๆ ที่เป็นไฮไลท์ของเมืองได้ โดยมีร้านเช่าจักรยานมากมายหลายราคาให้เลือกบริเวณสถานีรถไฟดังกล่าว ภาพถ่ายโดยผู้เขียน