ที่มาภาพปก Skitterphoto ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ จำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำนวนนักท่องเที่ยวที่ออกเดินทางสู่โลกกว้างด้วยตนเอง ต่างจากพฤติกรรมการท่องเที่ยวในอดีตที่มักจะใช้บริการของทัวร์เป็นหลัก ข้อดีของการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง คือการได้กำหนดสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้อย่างใจนึก ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปเที่ยวในสถานที่ที่ไม่ต้องการไปตามโปรแกรม ได้เที่ยวแบบส่วนตัว ไม่ต้องรู้สึกไม่สบายใจกับการเที่ยวเป็นหมู่คณะ นอกจากนี้การท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ยังเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในพื้นที่ต่าง ๆ มากขึ้น เพราะเราจะต้องแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ต้อง active ตลอดเวลา และที่สำคัญต้องระมัดระวังความปลอดภัยของตัวเองมากกว่าการไปกับทัวร์ การท่องเที่ยว คือการที่เรานำร่างกายของเรา ไปสู่อีกจุดหมายบนโลกในที่ที่เราไม่คุ้นเคยมาก่อน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย และความสนุกที่ไม่มีอะไรมาปิดกั้น สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวและศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนออกเดินทาง ในบทความนี้ จู้จี้จะมาแชร์วิธีการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ซึ่งจะมาทำเป็น Do and Don't เพื่อความเข้าใจง่ายและรวดเร็วค่ะ ข้อมูลที่จะมานำเสนอเป็นข้อมูลที่จู้จี้ประสบพบเจอจากสถานที่ต่าง ๆ จากเหตุการณ์ที่เจอในแต่ละทริปรวมถึงวิธีแก้ปัญหาค่ะ หมวดการเลือกสถานที่ท่องเที่ยว ที่มา DariuszSankowski Do อ่านข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ว่าในพื้นที่นั้น ๆ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง? ให้ศึกษาข้อมูลทุกสถานที่ เพราะบางครั้ง เราจะได้เจอสถานที่ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจและน้อยคนที่จะรู้จักและเคยไป ซึ่งถ้าค้นหาจากเว็บไซต์ของต่างประเทศ จะทำให้เราเจอข้อมูลที่เยอะแยะมากมายที่คนไทยไม่เคยรีวิว เช่น Tripadvisor เป็นเว็บแรกสำหรับมือใหม่ เพราะเว็บใช้งานง่าย ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว รูปถ่าย ได้มาจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกช่วยกันเขียนรีวิว โดยที่ไม่ได้ผ่านการโฆษณา ซึ่งมันจะทำให้เราทราบจุดที่น่าสนใจ ข้อดี และข้อเสียของสถานที่นั้น ๆ จริง ๆ ห้ามละเลยเวลาเปิดปิด ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การเที่ยว ฤดูที่เหมาะสม อุณหภูมิ และที่สำคัญคือค้นหาเพิ่มเติมว่าสถานที่นั้นอยู่ในช่วงปิดปรับปรุงไหม? หลังจากศึกษาข้อมูลแล้ว ก็นำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มาลิสต์ว่าอยากไปที่ไหนบ้าง? โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย และเรียงลำดับจากสถานที่ที่อยู่ใกล้กันและไกลกันค่ะ Don't ห้ามไปเที่ยวโดยลิสต์จากที่ได้ยินมาแล้วศึกษาข้อมูลแค่คร่าว ๆ เพราะการไปเก็บ Landmark ตามนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ โดยปราศจากการค้นคว้าข้อมูล อาจจะทำให้เจอเหตุการณ์บางอย่างไม่คาดฝัน เช่น สถานที่ปิดปรับปรุงในช่วงเดือนนั้นพอดี, พื้นที่นั้นห้ามคนต่างชาติเข้า (แปลก แต่มีจริง ๆ ในสถานที่บางสถานที่ของบางประเทศ เข้าได้เฉพาะกรณีพิเศษ), ต้องซื้อตั๋วเข้าชมล่วงหน้าเท่านั้นซึ่งตั๋วอาจจำหน่ายหมดไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถเข้าชมได้, ช่องทางการชำระเงิน ชำระเงินผ่านแอพเฉพาะของประเทศนั้น หรือชำระด้วยเงินสดเท่านั้น, วันและเวลาเปิดปิดในแต่ละวัน หรือแต่ละฤดูกาลไม่เหมือนกัน เป็นต้น หมวดการเดินทาง ที่มา 46173 Do ศึกษาการเดินทางโดยละเอียด หาข้อมูลว่าต้องเดินทางโดยอะไร สามารถไปได้ถึงที่หมายหรือไม่ ต้องเดินทางต่อด้วยอะไร? โดยใช้วิธีการเปิด Google map ค้นหาระยะห่างของสถานที่ จากนั้นค้นหาวิธีการเดินทาง จดให้ละเอียด ว่าต้องเดินทางโดยอะไร? สายอะไร? ออกจากสถานีไหน ถึงสถานีไหน? ต้องเปลี่ยนสายระหว่างทางหรือไม่? เพราะบางคัน ต้องลงไปเปลี่ยนรถหรือเปลี่ยนขบวนระหว่างทาง ดูให้แน่ชัดว่าต้องขึ้นที่ platfporm เลขอะไร ลง platform เลขอะไร ทางออกที่เท่าไหร่ หากสถานที่ที่เราจะไปมีแอพลิเคชั่นสำหรับการเดินทาง ควรโหลดแอพลิเคชั่นสำหรับการเดินทางโดยเฉพาะในพื้นที่นั้น ๆ ไปด้วย และควรเผื่อเงินฉุกเฉินสำหรับการหลงทางในการใช้บริการแท็กซี่ ที่อาจจะมีราคาสูงหลายพันบาทเลยทีเดียว ควรเผื่อเวลาในการเดินทางเสมอ เพราะเราไม่สามารถเดินทางไปตรงเวลาเป๊ะ ๆ ตามที่ได้จดมา อันเนื่องมาจากเมื่อถึงสถานการณ์จริง เราอาจจะหา platform ไม่เจอ, ขึ้นผิดขบวนหรือผิดฝั่ง, ใช้เวลานานในการเดินไปเปลี่ยนขบวนเพื่อต่อไปยังขบวนอื่น Don't เวลาจัดเรียงสถานที่ ให้พึงระลึกเสมอว่า การเดินทางคือสิ่งที่เสียเวลาที่สุด ดังนั้นควรจัดสถานที่ท่องเที่ยวเรียงเป็นเส้นตรง ไม่ไปสถานที่ใดสถานที่หนึ่งแล้ววกไปอีกสถานที่หนึ่ง แล้วจึงค่อยกลับมาเที่ยวสถานที่ที่ใกล้กับสถานที่แรก เวลาเดินทาง ให้ระวังโรคจิตมาลวนลาม เพราะสามารถเจอได้ในบางพื้นที่แม้ว่าเราจะแต่งตัวเรียบร้อยก็ตาม ระวังการเดินแจกของบนรถไฟ แล้วเราเผลอไปหยิบ เค้าจะเรียกเงินจากเรา ในบางประเทศมีขอทานเดินถือไมค์ร้องเพลงในรถไฟเพื่อขอเงิน หากเราไม่ต้องการให้ ให้เราทำเมินไปเลย เค้าจะตื๊อแค่ไหนก็อย่าสนใจ หมวดการเลือกที่พัก ที่มา SofieZborilova Do ข้อแรกของการเลือกที่พักต้องคำนึงจากสิ่งนี้เป็นหลัก ให้ดูตำแหน่งจาก Google map เพื่อให้ทราบว่าโรงแรมโซนไหนที่มีการตั้งสถานที่นั้นเดินทางสะดวก อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว และปลอดภัยในการเดินเข้าที่พัก หลังจากนั้นให้ดูโรงแรมโซนนั้นว่ามีที่ไหนบ้าง ดูคะแนนรีวิวจากลูกค้าจริง ดูรูปภาพของโรงแรมจากหลากหลายแหล่ง ไม่เชื่อถือเพียงแค่รูปจากเว็บไซต์ที่จองห้องเท่านั้น เพราะบางแห่งถ่ายได้นานแล้วและเมื่อไปถึงจริงอาจจะไม่ตรงปก หลังจากนั้นจึงจะได้รายชื่อโรงแรมมาส่วนนึง แล้วจึงค่อยมาดูงบประมาณที่เหมาะสม หากเลือกนอน Hostel ต้องทำใจว่าเราต้องนอนรวมกับคนอื่น ซึ่งต้องดูแลของมีค่าเป็นพิเศษเพราะถึงมีล็อคเกอร์ แต่เราก็ต้องเก็บกุญแจล็อคเกอร์ไว้ที่ตัวเราอยู่ดี นอกจากนี้อาจจะต้องทำใจในเรื่องของเสียงดัง บางคนนอนดึก บางคนมาเป็นกลุ่ม แต่ถ้าพูดถึงในแง่ของการได้เพื่อนใหม่ Hostel ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม Don't สาเหตุที่นำเรื่องงบประมาณไว้ท้ายที่สุด เพราะโรงแรมควรคำนึงถึงความปลอดภัยมาอันดับแรก หากคำนึงเรื่องราคาถูก อาจจะเจอโรงแรมที่มีเชื้อราตามฝ้า พื้นหลุดออกมา ห้องน้ำพัง ตั้งอยู่ในซอกหลืบที่ส่อว่าอันตรายต่อการเดินเข้าไปพัก หรือตัวโรงแรมไม่ปลอดภัย ล็อคไม่แน่หนาพอ ไม่ควรนำของมีค่าไว้ในโรงแรม หรือหากต้องการนำไว้ควรใส่ตู้ safe box ของโรงแรม ตั้งรหัสผ่านที่ยากต่อการเดา ถ้าไม่ต้องการให้พนักงานเข้ามาเลย ควรตั้ง Do not distrub ไว้ตั้งแต่ต้น หมวดอาหาร ที่มา eKokki ศึกษาข้อมูลก่อนว่าสถานที่จะไปมีอาหารที่เราทานได้ไหม? เช่น บางพื้นที่ไม่มีหมูขาย มีแต่เนื้อวัว เนื้อแกะ และเนื้อแพะ อาจจะต้องหาวิธีรับมือก่อนไป เตรียมรับมือกับการท้องเสีย ถ้าไปทานของที่ไม่เคยทานมาก่อน Don't เวลาเห็นรูปอย่าสั่งเลย ถ้าเจอภาษาที่อ่านไม่ออก ให้กด translate ก่อน เพราะอาจจะเกิดการเข้าใจผิดว่าเนื้อแกะคือเนื้อหมู หรือราคาที่เห็นอาจจะเป็นราคาที่จำหน่ายแค่ 1 ตัว ไม่ใช่ตามจำนวนในจานอย่างในภาพ หมวดการเตรียมสิ่งของที่จำเป็น ที่มา Edeltravel_ Do เตรียมเอกสารสำคัญ ในกรณีไปต่างประเทศ ต้องเช็ควันหมดอายุของ passport ให้เหลือมากกว่า 6 เดือน เอกสารวีซ่าสำหรับบางประเทศ ตั๋วเครื่องบิน ใบจองห้องพัก ใบจองรถไฟหรือรถอื่น ๆ ตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ห้ามลืม หากใครไม่ชอบความยุ่งยากให้พกแบบเป็น e-ticket แทนค่ะ เตรียมเสื้อผ้าใส่ไปให้พอดี เตรียมไปให้ถูกกับสภาพอากาศ และถ้าไปหลายวันต้องเช็คดูดี ๆ ว่าที่พักมีบริการซักรีดไหม หรือมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญหรือเปล่า เตรียมอุปกรณ์ส่วนตัว เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ที่โกนหนวด หวี โฟมล้างหน้า สบู่เหลว ยาสระผม ครีมนวดผม เพราะตามกฎหมายบางที่ ไม่อนุญาตให้โรงแรมแจกสิ่งของใช้ครั้งเดียวตามลิสต์ดังกล่าวกับผู้เข้าพัก เตรียมยาส่วนตัวสำหรับคนมีโรคประจำตัว และเตรียมยาสามัญ เช่น ยาแก้ปวดหัว แผ่นแปะกล้ามเนื้อ ยาแก้น้ำมูก ยาแก้ไอ ยาแก้ท้องเสีย สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ในกรณีที่ไปต่างประเทศ และคุณทานยาที่เป็นยาต้องห้ามเข้าประเทศนั้น ๆ ต้องให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ให้ ห้ามนำยาออกจากซองมาใส่ตลับยาส่วนตัว แพ็คยาต้องมีชื่อเราและชื่อยาชัดเจน เช็คว่าปลั๊กไฟของที่เราจะไป ใช่รูเดียวกับที่เราใช้ไหม? หรือทางที่ดีคือเตรียมปลั๊กไฟนานาชาติเผื่อไปเลย ในกรณีคนที่เดินทางโดยเครื่องบิน แนะนำว่าเตรียมหมอนรองคอไป เพื่อป้องกันการนอนเอียงแล้วจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บหูจากน้ำในหูไม่เท่ากันระหว่างที่เราหลับ Don't อย่าเตรียมสิ่งของเกินความจำเป็น เพราะมันหนัก ทำให้เราเปลืองพื้นที่ในการโหลดกระเป๋า และส่งผลให้เราเดินทางลำบากเพราะต้องมาแบกกระเป๋าที่หนัก สถานีรถไฟบางแห่งไม่มีลิฟต์ในฝั่งของเรา ทำให้ต้องแบกกระเป๋าเดินทางขึ้นลงบันไดอย่างทุลักทุเล การระมัดระวังเรื่องอื่น ๆ ที่มา stevepb กฏเบสิคคืออย่าใจดีกับใคร แม้แต่คนไทยด้วยกันเอง ไม่ใช่ว่าคนที่เข้ามาคุยกับเราทุกคน จะเป็นพวกมิจฉาชีพ แต่ก็มีมิจฉาชีพหลาย ๆ คนที่เข้ามาคุยดีกับเรา ท่าทางน่าไว้ใจ แต่ลงเอยด้วยการถามว่าพักที่ไหน มากับใคร สุดท้ายเป็นคนที่ไม่ผ่านตม.แล้วอ้างว่ามากับเรา หรือกรณีขอแชร์กระเป๋าด้วยได้ไหม ขอฝากสิ่งของไว้ให้เราถือได้หรือเปล่า ให้เราเฝ้าของให้แปปนึงเพราะจะไปทำธุระตรงนั้นตรงนี้ แต่ข้างในนั้นอาจจะเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งมันจะทำให้เราซวยไปด้วย ระมัดระวังเรื่องโดนล้วง เพราะโจรมือเบามากจริง ๆ เราคิดว่าใส่กระเป๋าเสื้อโค้ท หรือกระเป๋าอื่น ๆ จะไม่เป็นอะไร แต่โจรจะอาศัยจังหวะต่าง ๆ เช่น เพิ่งออกมาจากรถไฟ ล้วงเอาโทรศัพท์ไป ดังนั้นถ้าไม่ถือไว้ในมือตลอดเวลา ก็ใส่ไว้ในช่องลับของกระเป๋าอีกทีนึง ให้โจรไม่สามารถล้วงไปแล้วเจอเลย ถ้าโดนล้วงไปแล้ว สิ่งที่ต้องทำให้เร็วที่สุดคือรีบหาตำรวจที่ใกล้ที่สุดแล้วขอความช่วยเหลือ อย่าหมดหวัง อย่าสติแตกเอาแต่ร้องไห้ เพราะตำรวจต่างประเทศทำงานไวมาก สามารถตามคืนได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง และถึงแม้ดูเหมือนเค้าจะไม่ตามให้ เพราะแค่ให้เราแจ้งความแล้วได้แต่ใบแจ้งความมาก็อย่าเพิ่งโวยวาย เพราะเค้ามีตำรวจอีกชุดที่ออกไปตามหาของให้เราเลยหลังจากเราแจ้งความเสร็จ สืบเนื่องจากข้อก่อนหน้า สำหรับใครที่ใช้ไอโฟน ให้ตั้งค่าว่าต้องปลดล็อคก่อนถึงจะสามารถปิดเน็ต ปิดไวไฟได้ และให้ตั้งรหัสให้ยากต่อการเดา รวมทั้ง device find my ไว้ที่ apple watch และ macbook ก่อนเลย เพื่อเวลาที่โจรได้ไป จะปิดเน็ต ปิดโลเคชั่นไม่ได้ ทำให้เรามีเวลาตามเครื่องคืนและทราบตำแหน่งว่ามือถือเราอยู่ไหน นอกจากนี้ find my ยังมีฟังก์ชันส่งเสียงออกมาจากมือถือเราได้อีกด้วย การใช้จ่ายผ่านแอพ หรือใช้บัตร จะเป็นอะไรที่เสี่ยงน้อยกว่าเงินสด เพราะเราสามารถดูแลแค่อย่างเดียว ไม่ต้องพะวงการดูแลกระเป๋าสตางค์ไปด้วย สามาถใส่การ์ดใน card holder แล้วใส่ช่องลับไว้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการโดนแบงค์ปลอม หรือร้านค้าสลับแบงค์แล้วบอกว่าเราจ่ายไม่ครบ แต่ทั้งนี้ก็ควรแลกเงินสดติดตัวไปนิดหน่อย เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น สถานที่เที่ยวบางแห่งรับแค่เงินสด ตู้ซื้อบัตรรถไฟฟ้าบางแห่งรับแค่เงินสด(ถึงแม้ว่าในอีกสถานีจะรับเงินผ่านแอพก็ตาม) เรื่องตั๋วเครื่องบิน ถ้าซื้อช่วงโปรได้ก็จะดี เพราะมันถูกกันเยอะมาก บางทีคือ save cost ไปได้ 50% เลยทีเดียว ให้กดติดตามเพจตั๋วเครื่องบินต่าง ๆ เช่น เพื่อนบอกโปร, Changtrixget เป็นต้น ระวังมาก ๆ คืองบบานปลาย เพราะเราคิดว่าอันนี้ราคาไม่แพง ต่างแค่ไม่กี่พัน แต่พอมารวม ๆ ทั้งทริปแล้ว กลายเป็นบานปลายมาหลายหมื่นเลย ดังนั้นต้องวางแผนเรื่องเงินดี ๆ ข้อสุดท้ายแนะนำเพิ่มเติมว่า ถ้าเราไปแล้วก็เที่ยวให้สุด ๆ เพราะเราจะเสียใจทีหลัง แล้วเราจะได้กลับไปอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ สำหรับข้อมูลต่าง ๆ เป็นการแชร์ประสบการณ์ที่เคยเจอ ซึ่งจู้จี้ว่าหลาย ๆ คนเวลาไปเที่ยวก็อาจจะไม่ได้เจอแบบจู้จี้ หรืออาจจะอะไรที่หนักกว่านี้ แต่อย่างน้อยก็อยากให้เตรียมใจและเตรียมตัวกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดไว้เสมอ ไม่มีการเดินทางครั้งไหนที่สามารถเป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้ 100% ซึ่งนี่แหละ คือประสบการณ์ มันคือความสนุกของการเดินทาง และเมื่อเราถึงเป้าหมาย มันจะเป็นอะไรที่มีค่าต่อใจมากจริง ๆ แต่การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง ยังไงก็ยังสามารถช่วยไกด์ไลน์และวางแผนให้เราได้ในระดับหนึ่ง ใครมีแผนแล้ว ก็อย่าลืมเตรียมแผนสำรองไว้ด้วยนะคะ สุดท้ายออกไปเจอโลกกว้าง แล้วสนุกกับการเดินทางไปด้วยกันนะคะ Joojee