คำว่ายั่งยืน (Sustainable) เข้าไปมีความสำคัญในทุกวงการ เช่น การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) แฟชั่นแบบยั่งยืน (Sustainable Fashion) การดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน (Sustainable Living) และในวงการท่องเที่ยวก็ไม่พ้น คำว่าท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (Sustainable Tourism) เกิดขึ้นโดยต้องประกอบไปด้วย 3 ลักษณะอยู่ด้วยกัน คือ มีความต่อเนื่อง มีคุณภาพ และมีความสมดุล ทั้งนี้ เพื่อให้สถานที่ท่องเที่ยวนั้น ๆ สามารถดำเนินการได้อย่างยืนยาว ผ่านการบริหารจัดการที่ดี ไม่ทำลายและทำร้ายทรัพยากรต้นน้ำ รวมทั้งชุมชนเองก็มีส่วนในการรับผิดชอบแหล่งทรัพยากรอันเป็นต้นทุนของการท่องเที่ยว ที่มา : http://www.sara-dd.com/index.php?option=com_content&view=article&id=219:sustainable-tourism&catid=25:the-project&Itemid=72 ที่กล่าวมาทั้งหมดคือหลักการที่เข้าใจเอาไว้คร่าว ๆ ก็พอ แต่สำหรับใครที่รักการท่องเที่ยวและอยากจะทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เรามีวิธีปฏิบัติตัวที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องอาศัยทฤษฎีอะไรให้ปวดสมอง 1. ระยะทาง : ทริปไกล ๆ ใช่ว่าจะดี Photo by Nuno Antunes on Unsplash ลองสำรวจหรือศึกษาดูว่าละแวก หรือใกล้กับที่ที่คุณอยู่นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง การเที่ยวใกล้ ๆ เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนในขณะเดินทาง เพราะการออกไปท่องเที่ยวไม่ได้อยู่ที่ระยะทางไกล ๆ ความสนุก การเรียนรู้ รวมทั้งมิตรภาพต่างหากที่ควรต้องหาให้ได้จากการท่องเที่ยว 2. ยานพาหนะ : ไม่เร็วแต่ได้บรรยากาศ Photo by Jannis Lucas on Unsplash เมื่อท่องเที่ยวคนส่วนใหญ่เลือกออกเดินทางด้วยเครื่องบิน แต่การท่องเที่ยวไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องเดินทางให้เร็ว หรือด้วยเครื่องบินเพียงเท่านั้น หากมีเวลา ลองเผื่อเวลาในการเดินทางออกไปอีกเล็กน้อย และลองเดินทางด้วยรถไฟ นอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศยามเดินทางแล้ว การเดินทางด้วยรถไฟยังทำร้ายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า ในขณะที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย หรือเลือกการปั่นจักรยานหากต้องการไปเที่ยวโดยรอบ 3. ที่พัก : กางเต้นท์ จุดตะเกียง เช่นกันกับการเลือกยานพาหนะ การเลือกที่พักไม่ได้มีตัวเลือกเป็นแค่โรงแรม และโฮมสเตย์เท่านั้น เลือกที่พักที่จัดหาสถานที่ในการกางเต้นท์และจุดตะเกียงอย่างปลอดภัยนี่จะเป็นอีกบรรยากาศที่หลายคนติดใจ แน่นอนที่สุดว่าหากลดการเข้าพักในโรงแรมได้ ก็เป็นการประหยัดน้ำ ไฟ และประหยัดพลังงานไปได้โข อีกอย่างคือนอนโรงแรมคุณจะไม่ได้เห็นดวงดาว และความเย็นตามธรรมชาติ ที่เครื่องปรับอากาศก็ให้ไม่ได้ Photo by Patrick Hendry on Unsplash แต่การเข้าพักในโรงแรมหรือรีสอร์ทก็ไม่ผิดหรอก เพียงแค่ควรมีจิตสำนึกรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการปิดไฟ ปิดโทรทัศน์ ปิดแอร์เมื่อออกไปเที่ยวข้างนอก หรือตักอาหารเช้าแต่พอดี หรือเลือกอาบน้ำด้วยฝักบัว และตากผ้าเช็ดตัวให้แห้งและใช้ซ้ำ รวมไปจนกระทั่งเลือกที่พักที่เป็นมิตรกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ปลูกต้นไม้เพื่อกรองฝุ่นควัน มีระบบกรองน้ำเพื่อใช้ซ้ำที่สะอาดปลอดภัย เป็นต้น 4. อาหาร : เลี่ยงอาหารป่า อาหารแปลก แม้ว่าการได้ลิ้มรสอาหารแปลก ๆ ที่ไม่ได้หาทานได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันยามเดินทางท่องเที่ยวจะเป็นการเปิดโลกใหม่ แต่อาหารแปลก หรือ exotic food จำพวกหูฉลาม เต่าทะเล ฯ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ แม้ว่าพอได้ออกไปเยือนที่ต่างถิ่น และมีอาการแปลกมาล่อตาล่อใจในราคาถูกก็ตาม เพราะนั่นหมายถึงการคุมคามชีวิตสัตว์ และโดยเฉพาะสัตว์ที่หายาก การทานอาหารประเภทนี้อาจส่งผลให้สัตว์เหล่านั้นสูญพันธุ์ได้ 5. ลดกระดาษ : คืนเมื่อไม่ใช้ แผนที่ โบรชัวร์ หรือเอกสารแนะนำต่าง ๆ ที่ใช้เสร็จแล้ว หากไม่ต้องการ ให้นำไปคืนที่ที่หยิบมา เพื่อให้ผู้อื่นได้ใช้ต่อเป็นไอเดียสำหรับการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนที่น้อยคนจะคิดถึง หรือไม่ก็เลือกใช้การดาวน์โหลดเอกสารจากอินเทอร์เน็ตจะประหยัดทรัพยากรได้มากกว่า Photo by Taylor Simpson on Unsplash อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหลากหลายวิธีที่เป็นการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เช่น หากพบเจอขยะเก็บได้ก็ควรเก็บทิ้งและทำความสะอาดมือหลังเก็บ หรือหากจะเลือกท่องเที่ยวกับบริษัททัวร์ควรเลือกบริษัทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการมองหาคำว่า Eco-friendly Service หรือการท่องเที่ยวเพื่อสิ่งแวดล้อม (Eco Tourism) เพราะจะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นการรับผิดชอบต่อทรัพยากรร่วมกัน เพราะการท่องเที่ยวไม่ได้เป็นเรื่องของคนเพียงคนเดียวอีกต่อไป การท่องเที่ยวเป็นการใช้ทรัพยากรที่ก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม และส่งต่อสภาพแวดล้อมที่ดั้งเดิมและยังดีให้กับนักท่องเที่ยว และคนรุ่นต่อไปได้ใช้จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน ท่องเที่ยวครั้งต่อ ๆ ไป ลองเที่ยวแบบยั่งยืนดูบ้าง แล้วคุณอาจจะพบว่าสิ่งที่มากกว่าความสนุกคือความสุขใจ ภาพปกจาก Photo by madeleine ragsdale on Unsplash