สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคน! วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยววัดที่ไม่เหมือนใคร ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ "วัดภูเขาทอง" บอกเลยว่าวัดนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานบอกต่อเล่าขานต่อๆกันมาทั้งในทางด้านความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ ความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และยังมีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงาม จึงทำให้การเที่ยวชมวัดภูเขาทองของคุณจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป วัดสระเกศราชวรมหาวิหารหรือคนทั่วไปจะเรียกว่าวัดภูเขาทอง เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เมื่อก่อนมีชื่อว่า วัดสะแก ต่อมาในรัชกาลที่1 ได้มีการปฏิสังขรณ์และได้พระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ โดยวัดได้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย เหมาะกับการมาเที่ยวแบบ One Day Trip ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม โดดเด่นด้วย"พระบรมบรรพต" หรือ "ภูเขาทอง" ที่เป็นเจดีย์สีทองอร่าม ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาทำให้สามารถเห็นวิวกรุงเทพฯได้โดยรอบถึง 360 องศา การที่เดินขึ้นไปยังข้างบนภูเขาทองเราจะต้องเดินขึ้นบันไดเป็นจำนวนขั้น 344 ขั้น โดยระหว่างทางเราสามารถสัมผัสถึงความเป็นธรรมชาติที่แฝงตัวอยู่จะมีธารน้ำไหลที่อยู่ขวามือ เราสามารถแวะถ่ายรูปได้ และอีกด้านนึงจะมีระฆังแขวนตลอดทางเดินเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ตีระฆังเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งระหว่างการเดินขึ้นไปเรายังสามารถเห็นวิวของกรุงเทพฯและถ่ายรูปบรรยากาศโดยรอบได้อีกด้วย ภายในตัวอาคารพระบรมบรรพตก็จะพบกับพระประธาน คือ พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถเป็นพระพุทธรูปปางทรงเครื่องจักรพรรดิสีทองสว่างประดิษฐานอย่างสง่างามและมีพระพุทธรูปอีกหลายองค์ เพื่อให้สักการะกราบไหว้ขอพร โดยในบริเวณนี้ก็ยังมีประวัติของบรมบรรพตให้ได้ศึกษาความเป็นมา รวมถึงมีบรมบรรพตจำลองให้ได้กราบไหว้ ซึ่งโดยรอบจะมีหน้าต่างให้เห็นวิวรอบๆได้เช่นกัน เมื่อเราไหว้พระเสร็จแล้วก็สามารถเดินต่อไปเพื่อกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุองค์จริง โดยจะต้องไหว้ให้ครบทั้งสี่มุมเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ซึ่งแต่ละมุมจะมีความงดงามที่แตกต่างกันไปเปรียบเสมือนองค์พระได้ปกปักรักษาทิศทั้งสี่ และในส่วนนี้เราสามารถร่วมทำบุญเพื่อทะนุบำรุงองค์พระบรสารีริกธาตุได้ ในบริเวณใกล้เคียงกันมีองค์พระพุทธมหาจักรพรรดิ เปิดโลก และองค์หลวงปู่ทวดให้ได้สักการะกราบไหว้ขอพรเพื่อความเจริญความร่มเย็นเป็นสุขของคนที่ขึ้นมากราบไหว้ หลังจากที่เราสักการะองค์พระสารีริกธาตุเสร็จแล้ว จะมีป้ายบอกทางขึ้นสวรรค์ โดยเราสามารถรถเดินขึ้นไปยังด้านบนของภูเขาทอง เพื่อเยี่ยมชมและสักการะองค์พระบรมบรรพตที่มีเหลืองทองอร่ามที่งดงามเป็นสง่าและยังได้ชื่นชมวิวเมืองกรุงเทพฯในมุมมอง360องศาที่เป็นไฮไลท์ในการมาเที่ยวที่แห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเย็นที่พระอาทิตย์ตกดินตกดินตกดินกำลังตกดินจะมีความสวยงามเป็นพิเศษ ซึ่งด้านบนนั้นยังมีหมุดสะดือที่เล่าต่อกันมาว่ามีความศักดิ์สิทธิ์สามารถกราบไหว้ขอพรในเรื่องของการติดต่อเจรจาในเรื่องของการซื้อขายที่ดินในการทำมาหากิน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะประสบความสำเร็จในการซื้อขายจึงทำให้เป็นที่บอกเล่าในการมากราบไหว้ขอพรในเรื่องของการซื้อที่เป็นจำนวนมาก และในบริเวณด้านบนเรายังสามารถไหว้ขอพรเดินเวียนผ้ารอบองค์พระได้เพื่อเป็นบุญกุศลที่ได้มาเยี่ยมชมที่แห่งนี้ ระหว่างทางลงจะพบกับตำนานที่เกิดขึ้นจริงในเรื่องแร้งวัดสระเกศ ที่มีแร้งนับพันมารวมกันเพื่อช่วยกัดกินศพคนตายที่เกิดจากโรคห่าระบาดเมืองในรัชกาลที่2ที่มีคนตายหลายหมื่นคนในช่วงไม่กี่วันทำให้กลายเป็นเมืองที่มีแต่ซากศพโดยในอดีตวัดสระเกศเป็นจุดที่นำศพมารวมทิ้งไว้เพราะเมื่อก่อนมีการห้ามเผาศพในเมืองจึงทำให้จัดการไม่ทันเลยใช้วิธีให้แร้งมาช่วยในการกำจัดศพคนตายด้วยการกัดกิน งานประจำปีวัดสระเกศ ได้ชื่อว่าเป็นงานวัดที่เก่าแก่มากที่สุดของกรุงเทพฯโดยเริ่มจัดครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่5 ตรงกับช่วงลอยกระทงโดยจะเป็นการรื่นเริง มีมหรสพ ดนตรี ร้านค้า ร้านอาหารกันอย่างคับคั่ง และยังมีไฮไลท์ของงานจะอยู่ที่ทีการให้ห่มผ้าแดงให้กับองค์พระเจดีย์และเปิดให้เข้าเยี่ยมจนถึงกลางคืนได้เห็นเมืองกรุงเทพฯในยามค่ำคืนที่สวยงามอีกแบบซึ่งในการจัดงานแต่ละครั้งจะมีการประชาสัมพันธ์ในช่องทางของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดสระเกศเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00-18:00 น. ช่วงมีเทศกาลสำคัญจะขยายเวลาเปิดจนถึงกลางคืน และในส่วนของการเข้าชมนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเข้าได้ฟรี ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะมีค่าใช้จ่ายการเข้าชมท่านละ 50 บาท การเดินทางไปวัดสระเกศ สามารถทาได้หลายวิธี เช่น ขึ้นรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีราชเทวีหรือสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วต่อแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์ไปที่วัด หรือ ขึ้นรถเมล์สาย 53, 60, 503 หรือ 510 ที่ผ่านใกล้วัด นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดย แท็กซี่หรือรถส่วนตัวให้ไปยัง "วัดภูเขาทอง หรือ "วัดสระเกศ' ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ถนนสามยอด ซอยวัดภูเขาทองได้เช่นกัน หากได้แวะเวียนไปเที่ยวยังวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อกราบไหว้เป็นสิริมงคลแก่ตนเองและยังสามารถเห็นวิวโดยรอบของกรุงเทพแถมได้เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆในการมาเที่ยวยังวัดแห่งนี้ ที่มีความเงียบสงบความร่มรื่นความสวยงาม เป็นสถานที่ที่ช่วยเพิ่มพลังใจที่มีความสุขสงบและความล้ำค่าทางจิตใจที่ได้มาเยือน ณ สถานที่แห่งนี้ ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดย ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !