จุดหมายของพวกเราในครั้งนี้คือ “สามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย” และจะนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงไปเที่ยวที่ฝั่งลาวอีกที ออกตัวก่อนว่าเราคนหนึ่งที่ว่ายน้ำไม่เป็น จึงไม่ค่อยชอบท่องเที่ยวทางน้ำสักเท่าไร แต่เพื่อนบอกว่า ไหน ๆ ก็มาแล้ว จะได้ไม่เสียเที่ยว ฝั่งไทยยังไงก็ได้เที่ยวอยู่แล้ว แต่อีกฝั่งถ้าไม่มีเวลาเหลือเฝือ คงไม่ได้ไปกันง่าย ๆ นะ ... ก็ตามนั้น ... ลุย!! เราขอตั้งต้นที่ “ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย” เพราะคืนก่อนหน้านี้ พวกเราพักกันที่นั่น ประมาณ 8 โมงเช้าเราและเพื่อน ๆ ก็ออกเดินทางกันทันทีในถนนหมายเลข 1098 เป็นหลัก และไม่พลาดที่จะต้องเปิด GPS กันเอาไว้อีกทาง ด้วยความที่ลงมาจากภูเขา ถนนหนทางก็จะไม่ใช่เส้นทางหลักในตัวเมือง แต่จะได้วิวแนวทุ่งนาป่าเขามาแทน ในขณะเดียวกัน วิวข้างทางที่สวยงาม ก็ต้องแลกมากับถนนชนบท ที่ไม่ราบเรียบสักเท่าไร แต่ก็ไม่ได้แย่จนเกินไป ประมาณ 2.30 ชั่วโมง เราก็เข้าสู่เขตเส้นทางหลักของจังหวัดเชียงรายโดยสวัสดิภาพ ประมาณ 11 โมง พวกเราก็ถึง “สามเหลี่ยมทองคำ” ด้วยความเมื่อยล้าเล็กน้อย เพราะแทบไม่ได้จอดแวะข้างทางที่ไหนเลยรวมถึงหิวมากด้วย จึงพุ่งตรงไปหาข้าวกินกันก่อน จากนั้นก็มาเดินย่อยอาหาร และไม่พลาดที่จะเก็บภาพในจุดที่เป็นหลักฐานคนละ 1 แชะ!! คำว่าไม่ชอบเที่ยวทางน้ำของเราก็คือ “ไม่ลงน้ำลึกใด ๆ ทั้งสิ้น!!” เพราะว่ายน้ำไม่เป็น แต่มายืนกินลมชมวิวในจุดที่ปลอดภัยได้ ระหว่างที่รอคิวลงเรือ เราก็เก็บบรรยากาศผ่านภาพถ่ายไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางเรือโดยสารที่แล่นไปมาในสายน้ำโขงตลอดเวลา จะว่าไปแล้วก็เป็นภาพที่สวยแปลกตาดีเหมือนกัน... ได้เวลาลงเรือกันแล้ว พวกเราเลือกแบบลำเล็ก นั่งกัน 3คน เฉพาะผู้โดยสาร มีค่าใช้จ่ายแบบไป-กลับคนละ 80 บาท และค่าเหยียบแผ่นดินลาวอีก 50 บาท พี่คนขับเรือบอกว่า มีเวลาเดินเที่ยวประมาณ 45 นาที (ถ้าจำไม่ผิด) จำได้ว่าพี่เค้าขับเร็วมาก จนเราต้องหันไปถามว่า “เบา ๆ ช้า ๆ หน่อยได้ป่าวพี่” เพื่อนเราหัวเราะทันที แล้วบอกว่า “ช้าไม่ได้หรอก น้ำเชี่ยวมาก เดี๋ยวเรือต้านไม่ไหว” จากนั้นเราก็ไม่บ่นอีกเลย... เก็บภาพไปเรื่อย ๆ ดีกว่า การขับเรือมิใช่หน้าที่ของข้าพเจ้าแต่อย่างใด... ไม่เกิน10-15 นาที พวกเราก็ได้มาเที่ยวต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย โดยพี่ที่ขับเรือมาส่งบอกว่า อีกประมาณ 30-45 นาทีให้มารอที่ท่าน้ำ สักพักจะกลับมารับ (มาเร็วกว่าพี่มากขา... แน่นอน ^^) บรรยากาศ เหมือนตลาดชุมชนของประเทศไทยเราในหลาย ๆ ที่ สินค้าจะมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ กระเป๋าถือในรูปแบบของประเทศลาว ของที่ระลึกท้องถิ่นและประจำชาติ รวมถึงของแปลกที่ดองอยู่ในขวดโหลด้วย ก็คืองูชนิดต่าง ๆ นั่นเอง จากการสังเกต แม้ว่านักท่องเที่ยวจะไม่มากจนถึงกับหนาตา แต่ก็จะมีมาเรื่อย ๆ แทบจะตลอด แบบไม่ขาดสาย ทั้งนักท่องเที่ยวคนไทย นักท่องเที่ยวชาวยุโรป รวมถึงประเทศจีนด้วย พวกเราเดินกันจนเกือบทั่วตลาดเหมือนกัน ได้สินค้าติดมือพอเป็นที่ระลึกมาบ้างเล็กน้อย จากนั้นก็ไปรอเรือที่ท่าน้ำตามเวลานัด การนั่งเรือขากลับ ไม่ทำให้เรารู้สึกกลัวเหมือนกับขามา เพราะรับรู้ได้แล้วว่า ยังไงข้าพเจ้าก็ปลอดภัยอย่างแน่นอน พี่คนขับเรือบอกว่า จะขับไม่เร็วมากนะ แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอันตราย จะได้มีเวลาดูวิวสวย ๆ กันอีกนิดหนึ่ง เพราะเห็นว่าพวกเรามาจากต่างจังหวัด นาน ๆ จะได้มาล่องลำน้ำโขงแบบนี้ ... ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ 2-3 ปี เราจะมีโอกาสมาเที่ยวที่ “สามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย” หนึ่งครั้ง แต่ละครั้งก็ไม่เคยจะได้ล่องน้ำโขงเลย เพราะมากับผู้ใหญ่ตลอด ท่านไม่ค่อยนิยมการล่องเรือเท่าไหร่ ดังนั้นการได้ถ่ายภาพพระพุทธนวล้านตื้อ พระเชียงแสนสี่แผ่นดินในมุมนี้ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเรา ช่วงเวลาไม่นาน สำหรับการล่องลำน้ำโขงเพื่อเยือนประเทศลาว บอกได้อย่างเต็มภาคภูมิว่าประทับใจมาก หากเพื่อน ๆ มีโอกาส และมีเวลามากพอ เราคิดว่าจะเป็นทริปสั้น ๆ เล็ก ๆ ที่จะทำให้คิดถึงไปอีกนานได้ไม่ยากกันเลย มาเที่ยวกันนะ @สามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย