วันนี้เราจะพาไปเที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์ ที่แคว้นโพรวองซ์ ที่อยู่ภาคใต้ของประเทศฝรั่งเศสกันค่ะ แถบนี้จะมีทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มาที่นี่แล้วจะนั่งเล่น นอนเล่น วิ่งเล่น ก็ฟิน เราให้คะแนนความฟิน 10 เต็ม 10 ซึ่งไม่ใช่แค่มีเอเชียอย่างเราที่วิ่งกันอยู่ แม้แต่ยุโรปด้วยกันก็ไปถ่ายรูปอยู่ในทุ่งค่ะ เมื่อเราเข้าไปในบริเวณทุ่งลาเวนเดอร์ สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้คือกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ที่หอมติดจมูกมาก ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มีหลายเมืองที่ปลูกลาเวนเดอร์ เช่น Valensole, Sault, Gordes, Luberon, Apt, Manosque เป็นต้น แต่ทุ่งลาเวนเดอร์ ที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุด เราว่าน่าจะอยู่ที่ Valensole เพราะที่นี่จะมีหลายแปลงที่เป็นแปลงใหญ่ ๆ อยู่ติดถนนเลยค่ะ โดยเฉพาะตอนเพราะอาทิตย์ใกล้จะตกดินถ่ายรูปออกมาสวยมาก เพราะแสงจะไม่แข็งเกินไปเหมือนตอนกลางวัน ช่วงหน้าร้อนที่ยุโรปกลางวันจะยาวกว่ากลางคืน ดังนั้นแล้วช่วงที่ถ่ายรูปสวย ๆ จะเป็นเวลาประมาณหลังหนึ่งทุ่มไปแล้ว ถ้าเราถ้าเที่ยวแถบนี้กลางวันเราก็ไปเดินเล่นในเมืองใกล้ ๆ มีหลายเมืองที่น่ารัก ๆ แล้วค่อยมาถ่ายรูปที่ทุ่งลาเวนเดอร์ตอนเย็น ๆ ค่ะ การเดินในแถบนี้ที่สะดวกที่สุดคือการเช่ารถยนต์ค่ะ เพราะแต่ละเมืองอยู่ห่างกัน และตามทุ่งต่าง ๆ ก็ไม่มีป้ายรถเมล์นะคะ เราตระเวนขับไปเรื่อย ๆ เจอที่ไหนสวย ๆ ก็แวะจอดข้างทาง แต่ต้องหาจุดที่สามารถจอดรถได้เพราะถนนนอกเมืองมักจะไม่มีไหล่ทาง การปลูกลาเวนเดอร์ในแถบโพรวองซ์นี้ก็เหมือนกับทุ่งนาบ้านเรา ที่จะปลูกอยู่ข้างถนนในชนบทชาวบ้านส่วนใหญ่จะไม่กั้นรั้วทางเข้าออก เพราะแต่ละแปลงมีขนาดใหญ่มาก แต่ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปกันเยอะมากทำให้เกิดความเสียหายกับลาเวนเดอร์ที่ปลูกไว้ หลาย ๆ แปลงจึงเริ่มมีการกั้นรั้วและติดป้ายห้ามเข้า ดังนั้นเราต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าของแปลงนั้น ๆ ค่ะ หากเขากั้นรั้วไว้เราก็ไม่ควรที่จะปีนข้ามไป สิ่งต่อมาคือหากเข้าไปแล้ว ไม่ควรตัดหรือเด็ดลาเวนเดอร์ที่เขาปลูกไว้ เพราะถือเป็นการทำลายทรัพย์สินและเป็นการขโมยค่ะ หากอยากได้ลาเวนเดอร์เพื่อเป็นพร้อพประกอบการถ่ายรูปสามารถไปซื้อได้จากในหมู่บ้านใกล้ ๆ มีขายแทบทุกหมู่บ้านเลยค่ะ นอกจากทุ่งลาเวนเดอร์แล้ว ใน Valensole ยังมีทุ่งทานตะวันที่อยู่ใกล้ ๆ กัน มาที่นี่ได้ถึงสองบรรยากาศเลยทีเดียว สีของลาเวนเดอร์ในแต่ละพันธุ์ก็จะไม่เหมือนกัน ทุ่งต่าง ๆ ที่เราได้เห็นมีทั้งม่วงอ่อน ม่วงเข้ม บางทุ่งก็ออกน้ำเงิน ๆ สูงบ้างเตี้ยบ้าง ส่วนมากจะปลูกเป็นพุ่มติดกัน บางแปลงอาจจะแน่นมาก การตัดลาเวนเดอร์จะใช้รถตัดค่ะ เขาจะขับไปตามแปลงแต่ละแปลงเลย เวลาตัดบางครั้งก็ไม่ได้ตัดทั้งแปลงพร้อมกันทีเดียวเลย เขาจะเลือกตัดในแถวที่บานเต็มที่แล้วก่อนแล้วไล่ไปเรื่อย ๆ ฉากหลังที่เห็นกันบ่อย ๆ ในทุ่งลาเวนเดอร์ คือบ้านหินซึ่งก็จะเห็นได้ทั่วไปในหลาย ๆ เมือง หรือไม่ก็ฉากหลังเป็นเมืองเก่า หรือต้นไม้เด่น ๆ กลางแปลงลาเวนเดอร์ แต่ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดเราว่าน่าจะเป็น Notre-Dame of Sénanque Abbey ที่ในเมือง Gordes เป็นโบสถ์และคอนแวนซ์ที่สร้างมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 12 แต่ที่นี่เปิดให้เข้าชมเป็นช่วงเวลาเท่านั้นและต้องจองล่วงหน้าค่ะ ถ้าไม่ได้จองก็ถ่ายรูปข้ามกำแพงเข้าไปค่ะ ลาเวนเดอร์จะบานเต็มที่พร้อมตัดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายน ไปจนถึงต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศของในละปี บางปีถ้าอากาศร้อนบานเร็วก็จะตัดเร็วหน่อย ดังนั้นแล้วเราว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะมาชมลาเวนเดอร์คือสองอาทิตย์แรกของเดือนกรกฎาคม เพราะถ้ามาเร็วไปก็อาจจะยังไม่ม่วงเต็มที่ หรือช้าไปเขาก็ตัดไปหมดแล้ว ถ้าขับรถเที่ยวเองโอกาสที่จะได้เจอแปลงสวย ๆ มีเยอะค่ะ เพราะถ้าแปลงนี้เมืองนี้ตัดแล้ว เราก็ไปเมืองอื่นใกล้ ๆ กันได้ เรามีโอกาสได้ไปชมความงามของทุ่งลาเวนเดอร์ในโพรวองซ์ในหลายเมือง สองปีติดกัน แต่ก็ยังอยากกลับไปอีกเพราะคิดว่ายังอาจมีที่อื่นที่สวยกว่าที่เคยไป เราอยากไปเห็นตอนพระอาทิตย์ขึ้นบ้าง รวมทั้งตอนที่ทางช้างเผือกพาดผ่านทุงลาเวนเดอร์ เราก็ได้แต่หวังว่าปีหน้าอะไร ๆ คงดีขึ้นและเราจะได้ออกเดินทางท่องเที่ยวอีก @ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน #เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวยุโรป #เที่ยวฝรั่งเศส