วัดภูริทัตตถิราวาส ชื่อเดิม วัดป่าบ้านหนองผือ บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เดิมชื่อวัดสันติวนาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า วัดป่าบ้านหนองผือ ตามชื่อหมู่บ้านที่ตั้งวัด ระยะทางจากตัวจังหวัดสกลนครมาประมาณ 50 กิโลเมตรถนนลาดยางแอสฟัลต์ ตามประวัติวัดป่าบ้านหนองผือแห่งนี้เป็นวัดที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มาจำพรรษา อยู่ทีวัดนี้ 5 พรรษา เป็นช่วงสุดท้ายแห่งการถ่ายทอดวัตรปฏิบัติ ธรรมต่าง ๆ ให้แก่ลูกศิษย์ ก่อนจะมรณภาพ เมื่อหลวงปู่มั่นมรณภาพแล้วจึงตั้งชื่อว่าใหม่ว่า "วัดป่าภูริทัตตถิราวาส" เพื่อเป็นสิริมงคลและระลึกถึงหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่น ภูริทัตโด ถือเป็น "อาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนา" เป็นผู้มีคุณูปการอย่างยิ่งของพระวัดป่าทั่วประเทศไทย หรือแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว พม่า มีศิษยานุศิษย์จำนวนมาก ที่ได้มาปฏิบัติธรรมกับท่านสืบต่อธรรมะของพระพุทธเจ้าและวัตรปฏิบัติของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาทิเช่น หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดอุดรธานี หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จังหวัดสกลนคร เป็นต้น หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มีแนวทางการปฏิบัติธรรมโดยยึดถือ ธุดงควัตร อย่างเคร่งครัด โดยธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพียงลำพัง ซึ่งมักจะเป็นในป่า ภูเขา ถ้ำ โดยได้ธุดงค์ไปทั่วทุกภาคของประเทศไทยแต่ส่วนมากจะอยู่บริเวณภาคอีสาน และภาคเหนือ ในบางครั้งการธุดงค์ก็จะไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือ ลาว และ พม่า แม้ว่า หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มรณภาพมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วแต่ชื่อเสียงในวัตรปฏิบัติ หลักธรรมต่าง ๆ ที่ได้ถ่ายทอด เผยแพร่ ส่งผลให้ความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ยังคงมีอยู่อย่างมิเสื่อมคลายจนกระทั่งกาลปัจจุบัน เมื่อเดินทางมายัง วัดป่าบ้านหนองผือ ถึงวัดเวลาประมาณบ่ายโมงเศษ ๆ วันนั้นแสงแดดเข้มมากอากาศร้อน เป็นการมาครั้งแรก เลยค่อนข้างสับสนกับประตูทางเข้า เนื่องจากถนนที่ตรงมาไม่ใช่ทางเข้าวัด ต้องขับรถอ้อมไปอีกประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร บางช่วงถนนขุระขระ มีหลุมมีบ่อพอควร แต่ไม่ใช่อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่อะไร ที่จะทำให้ถอยกลับ ความรู้สึกแรกเมื่อเข้ามาถึงภายในบริเวณวัด คือ ความสงบ สะอาด ต้้นไม้ใหญ่เรียงราย ทางเดินเกลี้ยงเกลา เดินมาถึงศาลาที่มีรูปปั้นหลวงปู่มั่น ประดิษฐานอยู่ ได้เข้าไปกราบขอพร ให้มีพลังได้ต่อสู้กับสิ่งต่าง ๆ ต่อไป เดินมาได้สักครู่เห็นพระสงฆ์ที่จำวัดอยู่ที่วัดนี้ 3 - 4 รูป กำลังทำกิจของตนเอง บางรูปกำลังกวาดใบไม้ออกจากทางเดินหรือที่เรียกว่า "กวาดตาด" โดยใช้ไม้กวาดที่ทำจากก้านมะพร้าว ด้ามจับเป็นไม้ไผ่ขนาดเหมาะมือ ความยาวประมาณ 2 เมตรเห็นจะได้ กวาดจนทางเดินสะอาดเป็นรอยของก้านมะพร้าว ข้างทางเดินเป็นเนินของใบไม้ และต้นไม้เป็นแนวขอบทางเดินทั้งสองข้างไป บางรูปซักจีวรตากแดด กิริยาอาการเต็มด้วยความสงบสำรวมตามแบบฉบับของพระวัดป่า เมื่อเดินไปอีกเล็กน้อยจะมีกุฏิเก่าที่หลวงปู่มั่น ที่เคยจำพรรษาอยู่ เก่าแต่สะอาด สงบ ขรึมขลังเหมือนมีพลังงานที่กดข่มให้รู้สึกรับรู้ได้ ผู้เขียนได้ถ่ายภาพและเดินไปตามทางเดินอ้อมกุฏิไป จะพบกับอาคารรูปสี่เหลี่ยมมีทางเดิน บริเวณทางเดินจะมีรูปปั้นศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่มั่น ในท่านั่งสมาธิเรียงรายนับร้อยรูป ตรงกลางมีเจดีย์ยอดแหลมสีทองข้างในมีพื้นที่โล่งเข้าไปชมได้ วันที่ไปมีห้างไม้ไผ่อยู่ อาจจะยังสร้างไม่เสร็จ หรือกำลังทำการปรับปรุง ใต้ฐานเจดีย์องค์กลางมีห้องโล่งกว้าง กำลังทำการก่อสร้าง มีเสาเป็นรูปต้นไม้กิ่งไม้ สวยงาม เมื่อเดินออกจากอาคารเจดีย์จะเป็นอาคารล้อมรอบมีทางเดินยาวรอบ เป็นรูปสี่เหลี่ยม ตรงมุมของแต่ละเหลี่ยมจะเป็นมุขทั้งสี่มุม ที่เรียกว่า จตุรมุข นั่นเอง. สิ่งที่รู้สึกได้ทุกครั้งเมื่อเข้ามาในวัดป่า คือ ความสงบ สะอาด ขรึมขลัง เรื่องราวของพระที่อุทิศ ปฏิบัติตนตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อให้บรรลุธรรมตลอดชีวิตไม่มีข้อบกพร่องเลย แม้จะจากไปแล้วเนิ่นนานแต่เรื่องราวยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนที่ได้พบเห็น ได้ยินได้ฟังอยู่เสมอ เมื่อจากไปผู้คนที่ยังอยู่ก็ระลึกนึกถึงคุณงามความดี สร้างอนุสรณ์ อาคารสถานให้คงอยู่ตลอดไป หากมีโอกาสได้เดินทางมาที่จังหวัดสกลนคร วัดป่าบ้านหนองผือ หรือวัดภูริทัตตถิราวาส บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ควรแวะชม ดื่มด่ำกับความสงบ งาม เป็นอย่างยิ่ง..