ญี่ปุ่น นับว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ครั้งหนึ่งต้องได้ลองไปเที่ยวสักครั้ง หรือใครที่เคยไปแล้วต้องไปซ้ำ ซึ่งหลาย ๆ คนมักจะเลือกไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาว เพราะจะได้สัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นและหิมะขาว ๆ แบบที่ไม่สามารถสัมผัสจากในประเทศ แต่แน่นอนว่าช่วงนั้นค่าตั๋วเครื่องบินก็แพงแสนแพง แถมยังนับว่าเป็นช่วง High Season ซึ่งนักท่องเที่ยวเยอะ แถมยังหาโรงแรมที่พักได้ค่อนข้างยาก วันนี้เราจึงอยากมา แนะนำที่เที่ยวญี่ปุ่นช่วง Summer ที่น่าเที่ยวไม่แพ้ช่วงฤดูอื่น ๆ อย่างแน่นอนDivercity Tokyo Plaza ห้างสรรพสินค้าที่รวมเอาของฝากชื่อดังจากหลาย ๆ เมืองของญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ รวมไปถึงร้านขายของลิขสิทธิ์การ์ตูนชื่อดังจากหลายค่าย อีกทั้ง Divercity ยังมีศูนย์อาหารที่รวมเอาร้านเด็ดมาไว้ที่นี่เป็นจำนวนมาก และร้านที่ไม่ควรพลาดเลยคือร้าน Tendon ที่ชาวญี่ปุ่นบอกว่าเป็นเมนูที่หาร้านอร่อยได้ค่อนข้างยาก แต่ที่นี่อร่อยจนต้องยกนิ้วโป้งให้ และสำหรับใครที่เป็นสายถ่ายภาพ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ 1 ใน 2 ของกันดั้มตัวใหญ่เท่าขนาดจริงที่ใครแวะไปที่นี่ต้องไปแชะภาพคู่ด้วย พิกัด: 1 Chome-1-10 Aomi, Koto City, Tokyo 135-0064 ญี่ปุ่น ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) ศาลเจ้าชื่อดังของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับย่านการค้าอย่างฮาราจุกุ และสวนโยโยงิ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ เหมาะกับการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ และทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นอย่างยิ่ง เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า และที่สำคัญใครที่ไปทำบุญใน ศาลเจ้า หรือเข้าไปเยี่ยมชมแล้วหากโชคดีก็จะได้เห็นพิธีแต่งงานของชาวญี่ปุ่นที่สวนงามและน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง และหากใครที่ได้เข้าไปทำพิธีต่าง ๆ ในศาลเจ้า (พิธีที่ต้องมีพระทำพิธีให้ ของเขาไปทำบุญวันเกิดหลาน ซึ่งส่วนตัวศาลาที่ทำพิธีจะห้ามถ่ายภาพ) หลังจากเสร็จพิธีทางศาลเจ้าจะเสิร์ฟสาเก ซึ่งถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์ให้ผู้เข้าร่วมพิธีทุกคน โดยเราจะดื่มจริง ๆ หรือทำท่าจิบก็ได้เช่นกันพิกัด: 1-1 Yoyogikamizonocho, Shibuya City, Tokyo 151-8557 ญี่ปุ่นKamakura (คะมะคุระ) หนึ่งในเมืองชายทะเลที่เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเมืองนี้นอกจากจะมีมุมถ่ายรูปเพียบแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองยังเรียงกันมาแบบจุก ๆ ดังนั้น คะมะคุระ วันเดียวไม่พอจริง ๆ และสำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ไปเมืองนี้มุมถ่ายภาพที่ไม่ควรพลาดคือ 3 แยกในตำนานที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมาจากอนิเมะเรื่อง Slam Dunk หนึ่งอนิเมะชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งแยกดังกล่าวจะอยู่ใกล้กับสถานี Kamakurakokomae Station นอกจากนี้อาหารที่พลาดไม่ได้ของเมืองนี้คือปลาข้าวสารญี่ปุ่น หรือ ชิราสุ เมนูขึ้นชื่อที่ใครไปก็ต้องได้ลองพิกัด: Kamakurakōkō-Mae Station (1-chōme-1 Koshigoe, Kamakura, Kanagawa 248-0033 ญี่ปุ่น)The Great Buddha Kamakura (วัดโคโตกูอิง) วัดชื่อดังของเมืองคะมะคุระที่มี พระใหญ่ไดบุตสุ ที่มีประวัติยาวนาน อีกทั้งยังว่ากันว่าองค์พระยังรอดจากเหตุการแผ่นดินไหวมาหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้องค์พระกลายเป็นที่พูดถึงและเป็นที่รู้จักจนถึงทุกวันนี้ โดยผู้ที่จะเข้าไปเยี่ยมชมหรือสักการะองค์พระจะมีค่าเข้าชมอยู่ที่คนละ 300¥ (ผู้ใหญ่) และ 150¥ (เด็ก) และสำหรับใครที่สักการะองค์พระเรียลร้อยแล้ว และอยากไปถ้ายรูปกับวิวสวย ๆ ตามรอบอนิเมะเรื่อง Slam Dunk ก็สามารถเดินมาขึ้นรถไฟที่สถานี Hase Station ซึ่งอยู่ห่างจากวัดเพียง 550 เมตร ก็ได้เช่นเดียวกันพิกัด: 4 Chome-2-28 Hase, Kamakura, Kanagawa 248-0016 ญี่ปุ่นสวนฮายามะชิโอไซ (Hayama Shiosai Park and Hayama Shiosai Museum) สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 50 สวนที่ดีที่สุดของคานางาวะ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองฮายามะ จังหวัดคานางาวะ ห่างจากคามาคุระเพียง 10 กิโลเมตร โดยสวนแห่งนี้เป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Hayama Imperial Villa เป็นที่ประทับของราชวงศ์ญี่ปุ่น และใช้เป็นสถานที่พักผ่อนในฤดูหนาวแบบไม่เป็นทางการเป็นระยะ ๆ อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ Hayama Shiosai ที่จัดแสดงสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลังและอื่น ๆ และที่พิเศษไปกว่านั้นภายในสวนยังมีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามอีกด้วย เปิด: 8.30 น. - 17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์, วันถัดจากวันหยุดราชกาล, วันสิ้นปี, วันปีใหม่ (28 ธันวาคม - 3 มกราคม)) ราคาเข้าชม: ผู้ใหญ่ 300¥ (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 250¥) / เด็ก อายุไม่เกิน 15 ปี 150¥ (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 100¥)พิกัด: 2123-1 Isshiki, Hayama, Miura District, Kanagawa 240-0111 ญี่ปุ่นสำหรับทริปนี้เราไปทั้งหมด 15 วันเต็ม เรื่องของอินเตอร์เน็ตมือถือก็เป็นสิ่งที่สำคัญกับการเดินทางต่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง โดยเราเลือกใช้ ซิมท่องเที่ยวญี่ปุ่น จากค่าย True ซึ่งซิมดังกล่าวมีชื่อว่า "TRAVEL SIM JAPAN" เป็นซิมสำหรับเปิดใช้งานในญี่ปุ่นโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีราคาเพียง 399 บาท แถมยังให้เน็ตมาถึง 6 GB สำหรับ 10 วัน แต่ตอนที่เราเดินทางเมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายน เราได้ไปซื้อ และลงทะเบียนซิมที่ศูนย์บริการ True พนักงานแจ้งว่าช่วงนั้นมีโปรโมชั่นอัปเดตอินเตอร์เน็ตให้ฟรีอีก 4 GB ดังนั้นเราจึงได้เน็ตจุก ๆ ไป 10 GB เลยทีเดียว ใครที่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะเลือกใช้ซิมค่ายไหนดี ลองเก็บ ซิมTRAVEL SIM JAPAN ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกกันนะคะเครดิตภาพปกและภาพประกอบภาพปก จาก Canva template : Arkhytirema, Canva: Sunnyrabbit, Canva : Sketchify, ภาพที่1, 2, 3, 4 : บุญรอด (ผู้เขียน)ภาพประกอบทั้งหมดจาก บุญรอด (ผู้เขียน)อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !