เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาเป็นลักษณะเส้นเทรลสั้น ๆ อยู่บริเวณเดียวกับจุดสูงสุดบนยอดดอยอินทนนท์ เริ่มแรกตอนเราไปถึงก็คิดว่าเส้นเทรลนี้คงใช้เวลานาน แต่เมื่อไปเดินจริง ๆ แล้วใช้เวลาสั้น ๆ เองค่ะ ประมาณ 20-30 นาทีก็จะครบรอบ เพราะระยะทางมีความยาวเพียงแค่ประมาณ 340 เมตร ลักษณะทางก็จะค่อนข้างราบ เดินง่าย ๆ สบาย ๆ ต้องขอบอกว่าถึงจะเป็นแค่เส้นเทรลสั้น ๆ แต่ธรรมชาติข้างในนี่น่าประทับใจมากค่ะ แวะถ่ายรูปได้ตลอดทางเลย ภาพถ่ายโดยผู้เขียน แค่ทางเข้ายังเขียวชอุ่มขนาดนี้ ข้างในจะขนาดไหนกันนะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ก่อนเข้าจะมีป้ายอธิบายเส้นทางการเดิน และลักษณะของพืชพรรณข้างในพื้นที่ค่ะ ส่วนการเดินจะเป็นวงกลม ทางออกจะวนมาจบที่ทางเข้านั่นองค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ป่าในบริเวณนี้จะมีชื่อเรียกพิเศษ คือ "ป่าเมฆ" หรือ "Cloud Forest" ด้วยลักษณะพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก อากาศหนาวจัด ฝนชุกตลอดปี ชนิดของต้นไม้ที่พบจะคล้ายกับต้นไม้ในประเทศเมืองหนาว ขึ้นเบียดเสียดกัน หากมองที่เรือนยอดต้นไม้ในป่าแบบนี้ เรือนยอดจะชิดติดกันมาก แถมตามลำต้น หรือตามกิ่งก้านก็จะมีมอส เฟิน กล้วยไม้เกาะอย่างหนาแน่น เป็นเอกลักษณ์ของป่าแบบนี้ค่ะ ส่วนบรรยากาศไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเย็นหรือเปล่า ถึงแม้ข้างนอกเทรลจะมีแดดจัด แต่ข้างในกลับเย็นสบายจนเข้าขั้นหนาว เดินได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ ไม่ร้อน แถมไม่เบื่ออีกด้วยค่ะ ป้ายสื่อความหมายทางธรรมชาติก็มีทุกระยะของเทรล ทำให้เราได้รับความรู้เกี่ยวกับพื้นที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ข้อควรระวังอีกข้อคือ อย่าเดินเหยียบพูพอนของรากไม้ เพราะจะทำให้รากไม้เสียหาย ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของต้นไม้ค่ะ ปรกติแล้วเขาจะทำสะพานคร่อมรากไม้เอาไว้ แต่ก็มีบางช่วงที่ไม่มี เราจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินสักหน่อยนึงค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ข้าวตอกฤาษี : ผืนพรมที่มีชีวิต ข้าวตอกฤาษีคือกลุ่มของมอสที่เราจะพบเห็นตามกิ่งต้นไม้ ตามพื้นทางเดินในเส้นทางเทรล เมื่อถึงหน้าแล้งจะมีลักษณะเป็นกลุ่มสีขาวซึ่งเป็นลักษณะการปรับตัวเพื่อดำรงชีวิตในช่วงความชื้นน้อย เมื่อถึงฤดูฝนความชื้นเพิ่มมากขึ้น มอสพวกนี้ก็จะกลับมาเขียวขจีอีกครั้งค่ะ เดิน ๆ ไปก็อย่าลืม “มองบน” นะคะ ไม่ใช่ให้ไปมองบนใส่ใครที่ไหน แต่ลองเงยหน้ามองเรือนยอดไม้เขียว ๆ ที่ตัดกับท้องฟ้าใส ๆ ข้างบนนี่แหล่ะค่า เพลินตาสุด ๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสวรรค์ของนักดูนกอีกด้วยค่ะ หลังจากออกมาจากเส้นทางเทรลแล้ว สิ่งแรกที่รู้สึกเลยคืออยากขอบคุณคุณไมเคิล วอยซ์ (นักสัตววิทยาและอาสาสมัครชาวแคนาดาประจำอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์)ที่ได้ทำการสำรวจเส้นทางนี้ จนเกิดเส้นเทรลอ่างกาขึ้นมา นอกจากความรู้แบบแน่น ๆ ที่เราหาได้จากป้ายสื่อความหมายแล้ว การเดินเทรลแบบนี้ถือเป็นการผ่อนคลายที่ดีมาก อยากแนะนำให้ทุกคนที่มาเที่ยวใช้เวลาเดินช้า ๆ ค่อย ๆ ซึมซับกับธรรมชาติ เก็บความรู้สึกประทับใจกลับบ้านไปแบบเรา หากมีโอกาสอยากให้ลองแวะไปเดินเล่นสนุก ๆ ในเส้นเทรลน่ารัก ๆ เส้นนี้กันค่ะ *ภาพหน้าปกโดยผู้เขียน เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง เชียงใหม่ ประเทศไทย ที่ตั้ง : อยู่เยื้อง ๆ กับป้ายจุดสูงสุดของดอยอินทนนท์ เป็นสถานที่เปิด เข้าชมได้ทุกช่วงเวลา และไม่เสียค่าใช้จ่าย