หน้าหนาว !! นอกจากสายหมอก ดอกไม้สวย ๆ ที่ทำให้ฤดูนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดให้อยากออกเดินทางท่องเที่ยว ยิ่งได้ “ท้องฟ้า” ใส ๆ .. ไม่ว่าจะจัดทริปไปไหนช่วงหน้าหนาวมันดีไปหมด แต่จะบอกว่าไม่เพียงฟ้าใส ๆ ฤดูหนาวช่วงกลางวัน แต่ฟ้าฤดูหนาวยามค่ำคืนยิ่งน่าค้นหา โดยเฉพาะนักเดินทางท่องเที่ยวสายดาราศาสตร์ เหล่านักล่าดาว ล่าทางช้างเผือก จะรู้ว่าฤดูหนาวเป็นช่วงที่ดูดาวได้สวยสุด ๆ แถมช่วงนี้ยังมีฝนดาวตกกลุ่มนั้น กลุ่มนี้มาให้สังเกตการณ์อย่างคับคั่งอีกต่างหาก แต่การจะดูดาวให้สวยก็ต้องเป็นช่วงท้องฟ้ามืด ๆ หน่อย และหลายคนก็น่าจะเคยผ่านหูกับคำว่า “Dark Sky Places” หรือ “เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด” กันมาบ้าง เป็นโครงการที่ "สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT" ริเริ่ม และประกาศเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด 12 แห่งแรกของไทย เพื่อช่วยสงวนความมืดของท้องฟ้า หวังอนุรักษ์ความมืด เพิ่มพื้นที่ดูดาว หลังจากทุกวันนี้มีการใช้แสงสว่างเพิ่มและเกินความจำเป็น กระทบการมองเห็นระบบนิเวศทางดาราศาสตร์ และที่สำคัญมีการผลักดันโครงการนี้สู่การท่องเที่ยวเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์นำร่อง 12 แห่ง 12 แห่งที่ว่ามีที่ไหนบ้าง ? มีทั้งพื้นที่อุทยานแห่งชาติ พื้นที่ชานเมือง พื้นที่ชุมชน และพื้นที่ส่วนบุคคล โดยมีถึง 5 อุทยานแห่งชาติที่ผู้เขียนเคยไป ก็เลยจะมาแชร์ความมืด ให้มโนตามกันว่า แต่ละจุดดูดาวได้สวยขนาดไหน !! อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่ขึ้นชื่อว่าเป็นพิกัดตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของการเดินทางท่องเที่ยวหน้าหนาวอยู่ เพราะมาจุดเดียว ได้แทบทั้งหมด ทั้งอากาศหนาวเย็นตอนเช้า ท่ามกลางทะเลหมอกสีขาวแบบอลังการ แบบที่เรียกว่า แค่โผล่หน้ามาจากเต็นท์ หรือบ้านพัก สายหมอกก็แทบจะลอยมาทักอยู่ตรงหน้า และยังมีสวนดอกไม้เมืองหนาวสีสันสดใส พอตกเย็นดูพระอาทิตย์ส่องแสงสีทองสุดท้ายฉาบฟ้า ก่อนตกหายไปทิ้งไว้เพียงความมืด กับแสงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ท่ามกลางอากาศหนาวจัดยามค่ำคืน ... บอกเลยโรแมนติกสุด ๆ บรรยากาศพลบค่ำจุดชมวิว "ห้วยน้ำดัง"บรรยากาศพลบค่ำ ลานกางเต็นท์ "ห้วยน้ำดัง" อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานีแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวแม่น้ำโขง "รับพระอาทิตย์ขึ้น ส่งพระอาทิตย์ตก" ได้ที่จุดเตียว ใครสายประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาดชมภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ส่วนใครสายธรณีวิทยาต้องได้สัมผัสความยิ่งใหญ่เสาเฉลียงผาแต้ม ... เอาจริง ๆ ไปผาแต้มกี่ครั้ง ก็อยู่ไม่ถึงกลางคืนเพื่อดูดาวสักที ... แต่ตามข้อมูลสำรวจของ NARIT พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยศักยภาพ มีสถานที่ดูดาวที่มีความเหมาะสมหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณจุดชมวิวผาแต้ม เสาเฉลียงผาแต้ม ผาชะนะได ด้วยเป็นพื้นที่ลานหินโล่งกว้าง ต้นไม้ไม่สูง ไม่บดบังทัศนียภาพ สามารถมองเห็นได้ทั่วบริเวณ ห่างไกลจากแหล่งชุมชน ไม่มีแสงสว่างรบกวน จึงมีความมืดสนิท เหมาะแก่การถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ เป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว ... หนาวนี้ใครมีแผนไปผาแต้ม ก็ลองปักมุดเป็นจุดพักค้าง นอนดูดาว พิสูจน์ความสวยอลังการด้วยตาตัวเองดูละกัน อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิจริง ๆ ขึ้นชื่อว่าเป็นพิกัดท่องเที่ยวช่วงฤดูฝน ที่ผู้คนแห่แหนไปชมความงดงามของดอกกระเจียวบานเต็มทุ่งบนพื้นที่นับพันไร่ ตะเวนชมป่าหินรูปทรงแปลกตา สัมผัสบรรยากาศเสียว ๆ สูง ๆ ที่หน้าผา "สุดแผ่นดิน" รอยต่อภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จุดรอยแยกเปลือกโลกที่ถูกยกตัวขึ้นเป็นที่ราบสูงอีสานด้วยศักยภาพความมืดมิดยามค่ำคืน ที่นี่จึงเป็นพิกัดค้นหาดวงดาว ซึ่งช่วงหน้าหนาวแบบนี้ อุทยานแห่งชาติป่าหินงามก็ทำหน้าที่ได้ดี เย็นฉ่ำไม่แพ้หน้าหนาวที่ไหน ... ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถือเป็นพิกัดมัดรวมทุกความงามก็ว่าได้ ... เช้าสัมผัสสายหมอก กลางวันชมดอกไม้และทุ่งหินสวย ตกกลางคืนนอนมองดาวเกลื่อนเต็มฟ้า แค่คิดก็บอกเลยว่า ... ฟินไม่ไหว !! อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ ถ้าใครไม่คุ้นชื่อนี้ จะบอกว่าก็ที่ "ทุ่งหินมอหินขาว" หรือ "สโตนเฮนจ์เมืองไทย” นั่นแหละ ตำนานเสาหิน 5 แท่ง ที่เขาว่า จะมีแสงสีขาวระยับสะท้อนออกมาในทุกคืนวันพระ ขึ้น 15 ค่ำ และ 8 ค่ำ ... มีพิกัดจุดกางเต็นอยู่หลายจุด ไปถึงก็สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ได้ก่อนกางเต็นท์ ตากน้ำค้างนอนดูดาวช่วงค่ำคืน ... ช่วงเย็น ๆ นั่งส่งตะวันลาลับขอบฟ้าที่จุดชมวิว “หม่องเบิ่งตะเวิ่น” สวยสุด ๆ หรือช่วงเช้าที่จุดเดียวกัน ลุกขึ้นมานั่งดูพระจันทร์ดวงโตค่อย ๆ เลื่อนหล่นจากฟ้าก็ยังได้ ส่วนอากาศไม่ต้องพูดถึง ทั้งลม ทั้งหนาว หรือจะขึ้นไปสัมผัสสายหมอกสีขาวที่จุดชมวิว "ผาหัวนาค" ที่อยู่เลยสูงขึ้นไปก็ยังได้ บรรยากาศช่วงค่ำ-เช้ามืด จุดชมวิว "หม่องเบิ่งตะเวิ่น" อุทยานฯ ภูแลนคา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกระมัง จังหวัดชัยภูมิ ขึ้นชื่อว่าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ย่อมมีความพิเศษมากกว่าอุทยานแห่งชาติ นั่นคือเป็นพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์และมีสัตว์ป่าอยู่เป็นจำนวนมาก คือ “ทุ่งกะมัง” ที่ราบทุ่งหญ้าสีเขียวกว้างใหญ่ลักษณะคล้ายแอ่งกะละมังอยู่กลางผืนป่า ภารกิจหลักที่นี่จึงเป็นเรื่องของงานด้านการอนุรักษ์ เพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่า ภายใต้กลไกธรรมชาติ หากิน สืบพันธุ์ และ ขยายพันธุ์ ปราศจากการรบกวน แต่ที่นี่ก็มีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ผู้สนใจเข้าไปเยี่ยมชมได้เหมือนกัน ด้วยลักษณะของภูมิประเทศ ยามค่ำคืนของที่นี่ท้องฟ้าเปิดกว้างแบบที่เรียกว่า 360 องศา โล่งจนสามารถมองเห็นดวงดาวได้อย่างชัดเจน ไม่มีแสงรบกวนจากชุมชนใกล้เคียง มีลานกางเต็นท์ มีจุดชมดาว บรรยากาศเงียบสงบจนสามารถนอนดูดาวได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้าใครไม่ถนัดนอนดูดาวกลางป่า ยังมีพื้นที่ชานเมือง ชุมชน และ ที่พักผ่อนของเอกชนพื้นที่ส่วนบุคคล อีก 7 พิกัด ได้แก่-ชุมชนออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่-ไร่องุ่นไวน์ อัลซิดินี่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา-โรงแรมเรนทรี เรซิเดนซ์ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา-สนามมวกเหล็ก เอทีวี อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี -บ้านไร่ยายชะพลู อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี -เดอะเปียโน รีสอร์ท อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา-ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ทั้ง 12 พิกัด ทาง NARIT ดูแล้วว่ามีความมืดของท้องฟ้าที่เหมาะสม เปิดโล่งอย่างเพียงพอที่จะสามารถสังเกตท้องฟ้าได้โดยรอบ มองเห็นดาวเหนือ และวัตถุท้องฟ้าเด่นชัด เห็นได้ด้วยตาเปล่า รวมถึงมีบุคลากรในพื้นที่ที่สามารถให้ความรู้ทางดาราศาสตร์เบื้องต้นแก่นักท่องเที่ยวได้และอย่างที่บอกว่าเป็น 12 พิกัดนำร่องให้เป็นทางเลือก ซึ่งความจริงหลายแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นป่าเขา ขึ้นดอยสูง หรือ ชายทะเล ก็สามารถดูดาวได้สวยไม่แพ้กัน แค่ขอให้มีดาวมาให้เห็นก็พอ !! คืนพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์บังแสงดาว ลานกางเต็น "ปางอุ๋ง"คืนเมฆทะมึนที่ชายทะเล "ทับสะแก" ไม่มีดวงดาว แต่ไม่ว่าจะเลือกไปชมดาวที่จุดไหน จะให้สนุกยิ่งขึ้นก็ต้องเตรียมความพร้อม ทำความรู้จักกับดาวบนท้องฟ้าเบื้องต้นกันก่อน ซึ่งก็สามารถดาวน์โหลด # คู่มือดูดาว จาก NARIT นับเป็นอีกกิจกรรมทางเลือกท่องเที่ยวฤดูหนาว ที่นอกเหนือจากขึ้นดอย ชมทะเลหมอก ดูดอกไม้ ลองเปลี่ยนมาดูดาวกัน เริ่มที่หนาวนี้เลย !!ภาพและเรื่อง โดย “เป๋าเป้” ชวนแต่งแฟนซี หลอน สวย เซ็กซี่หรือสร้างสรรค์ ถ่ายภาพหรือวิดีโอ แล้วโพสต์ที่ TrueID Community ห้อง "13 สยองขวัญ"สำหรับผู้ที่ยอดกดไลค์สูงสุด 5 อันดับแรกอันดับที่1 : (ต้องมียอดไลค์เกิน 150 ไลค์) เงินรางวัล 3,000 บาทอันดับที่ 2-5: (ต้องมียอดไลค์เกิน 50 ไลค์) เงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท (รวม 4 ท่าน 4,000 บาท)STAR COVER ส่งภาพเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 65 ถึง 3 พฤศจิกายน 65***