มีชาวจีนเคยบอกว่าหากต้องการดูอนาคตของประเทศจีนให้เดินทางไปที่เซี่ยงไฮ้ หากต้องการดูปัจจุบันของจีนให้ไปดูที่ปักกิ่ง และหากต้องการดูอดีตของจีนให้ไปดูที่ซีอาน จากคำพูดนี้เห็นได้ว่าประเทศจีนนั้นเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย โดยเฉพาะบรรยากาศของความเป็นเมืองสมัยใหม่ในแต่ละมณฑล แม้จีนจะเรียกตัวเองว่าเป็นประเทศกำลังพัฒนา แต่ทว่าหลายเมืองในหลายมณฑลนั้นกลับมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และมีตัวเลข GDP ที่สูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ การเดินทางมาเยี่ยมเยือนประเทศจีนในแต่ละครั้งจึงมักเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าหากย้อนไปดูในยุคอดีตเมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อนก็จะเห็นว่าประเทศจีนล้วนเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งอารยธรรม ความเจริญรุ่งเรืองที่เคยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องไม่แพ้ในยุคปัจจุบัน ในครั้งนี้ผู้เขียนจึงอยากจะพาไปเที่ยวชมอดีตอันรุ่งเรืองของประเทศจีน ณ เมืองประวัติศาสตร์ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่และเกรียงไกรของประเทศจีน นั่นก็คือเมือง "ซีอาน" เมืองซีอาน (Xi'an) (西安) เมืองหลวงของมณฑลส่านซี (Shaanxi) (陕西) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งไปทางทิศตะวันตกประมาณ1,200 กิโลเมตร พอพูดถึงซีอานหลายคนมักจะนึกถึง สุสานกองทัพทหารดินเผา ในยุคจิ๋นซีฮ่องเต้ กำแพงเมืองโบราณขนาดใหญ่ เจดีย์ห่านป่าใหญ่ แห่งวัดต้าฉือเอิน หอระฆัง และหอกลองเมืองซีอาน ฯลฯ จะเห็นว่ามีแหล่งท่องเที่ยวมากมายซึ่งล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แทบทั้งสิ้น โดยในครั้งนี้ผู้เขียนอยากจะพาไปท่องเที่ยวและเรียนรู้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลส่านซี ที่ว่ากันว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน โดยเก็บรวบรวมโบราณวัตถุ ของล้ำค่า และชิ้นงานศิลปะ อายุนับพันปีที่มีอยู่เกือบ 400,000 ชิ้น ซึ่งล้วนเป็นสมบัติที่ล้ำค่ายิ่งของประเทศจีน ด้วยการเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน และการเก็บรวบรวมสิ่งของล้ำค่าไว้มากมายนี้ ทำให้ในแต่ละวันมีผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเป็นประชาชนชาวจีน นับเป็นภาพสะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า คนจีนในยุคปัจจุบันสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องราวในยุคประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนจีน เกิดความภาคภูมิใจในชนชาติและบรรพบุรุษ อันถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความสามัคคีกลมเกลียวของคนในชาติ โดยภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ปรากฏห้องจัดแสดงเป็นยุคต่าง ๆ ของประเทศจีนไว้อย่างชัดเจน อาทิ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ยุคประวัติศาสตร์ ยุครวมชาติ และยุคปัจจุบัน ซึ่งแต่ละห้องนั้นล้วนเต็มไปด้วยสิ่งของล้ำค่าซึ่งหาดูได้ยากยิ่งในประเทศจีน และจะล็อกห้องนั้นก็ได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากชาวจีนโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่สนใจใคร่รู้เกี่ยวกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาก ห้องจัดแสดงที่มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นห้องที่จัดแสดงโบราณวัตถุในยุคประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในยุคของจิ๋นซีฮ่องเต้ ที่ได้มีการขุดค้นพบสุสานของพระองค์ รวมทั้งได้มีการค้นพบกองทัพทหารดินเผา ขนาดเท่าคนจริงจำนวนมหาศาล ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ ซึ่งล้วนเป็นของที่ล้ำค่ายิ่งทั้งความงดงามทางศิลปะ และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกฝังรวมกับพระบรมศพของพระองค์ การขุดค้นพบสุสานในครั้งนั้น สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลก ของโบราณล้ำค่าส่วนใหญ่จึงได้ถูกรวบรวมและเก็บไว้เพื่อจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ อาทิเช่น หุ่นรูปปั้นดินเผาขนาดเท่าคนจริงอายุร่วมพันปี ที่คล้ายกับมีชีวิตชีวา ข้าวของเครื่องใช้ในยุคอดีต ไม่ว่าจะเป็นกาน้ำชา ถ้วย ชาม จอกน้ำ และเครื่องประดับโบราณที่เต็มไปด้วยความวิจิตรบรรจง ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์แม้ผ่านกาลเวลามาแล้วหลายร้อยหลายพันปี สำหรับความประทับใจที่มีต่อพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือจำนวนโบราณวัตถุที่จัดแสดง ซึ่งมีจำนวนมหาศาลจนไม่สามารถรับชมได้อย่างถ้วนทั่วภายในเวลาอันจำกัด รวมถึงการได้พินิจพิจารณาความสวยงามของโบราณวัตถุแต่ละชิ้น ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อนมนุษย์เราจะสามารถรังสรรค์ได้ถึงเพียงนี้ จึงทำให้เห็นว่า แม้วิวัฒนาการหรือความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในยุคอดีตจะเป็นไปอย่างจำกัด แต่ก็ไม่สามารถมาขีดคั่นหรือขัดขวางจินตนาการหรือการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะของมนุษย์ได้ สำหรับใครที่สนใจเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของจีนรวมทั้งโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่ค้นพบภายในสุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้ ก็สามารถเข้ามาเที่ยวชมได้ที่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลส่านซี โดยเปิดให้เข้าชมฟรี ทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์)โดยในช่วงฤดูหนาวจะเปิดทำการตั้งแต่เวลา 9.00 -17.30 น. สำหรับในช่วงฤดูร้อนจะเปิดทำการตั้งแต่เวลา 8.00 - 18.00 น. โดยชาวต่างชาติสามารถยื่นพาสปอร์ตได้ที่บริเวณทางเข้าหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะมอบตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์สำหรับชาวต่างชาติให้ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน