ช่วงนี้คนไปเที่ยวเยอะมาก และก็มีทั้งประเทศที่ตม เคร่งมากและปล่อยชิล ซึ่งจุดหมายในฝันแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนก็หลีกเลี่ยงที่จะไม่เจอตม. ไม่โหดไม่ได้ ดังนั้นเราก็ต้องมาเตรียมรับมือโดยเริ่มจากตัวเราเองก่อน และในบทความนี้เราก็จะมาแชร์วิธีเตรียมตัวไปตอบคำถามตม. ในแบบของเรากัน แต่บอกก่อนว่าบทความนี้คือ "การเตรียมตัว" นะคะ ไม่ใช่แนะนำคำถาม แต่ถ้าใครอยากได้แนวคำถามสามารถดูได้ที่ 10 ประโยคภาษาอังกฤษ ที่ตรวจคนเข้าเมือง(ตม) มักใช้ถาม1. สำหรับคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ลองซ้อมถามตอบตัวเองกับกระจกดูมันจะมีคนที่ไม่รู้สึกมั่นใจในตัวเอง ในบุคลิกและการตอบคำถามของตัวเอง ซึ่งเราก็เป็นเหมือนกัน เวลาที่ต้องไปตอบคำถามหรือไปคุยกับคนอื่นจะมีความรู้สึกประหม่าง่ายกว่าคนอื่นๆ อันนี้เราแนะนำให้ลองฝึกพูดภาษาอังกฤษกับตัวเองหน้ากระจก แล้วลองปรับบุคลิกของตัวเอง สายตา ท่าทาง แต่ถ้าใครกังวลเรื่องสำเนียงก็ให้เปลี่ยนไปลองคุยกับใครสักคนที่พอจะใช้ภาษาอังกฤษได้ หรือลองออกเสียงผ่านแอปกูเกิ้ลทรานสเลช ถ้ากูเกิ้ลแปลได้แสดงว่าสำเนียงเราใช่หรือใกล้เคียงค่ะ ไม่จำเป็นต้องกูเกิ้ลทรานสเลชอย่างเดียวนะ ใครมีแอปแปลภาษาแบบไหนก็ลองฝึกพูดเทสเสียงผ่านแอปและเช็กบุคลิกขณะพูดผ่านกระจกได้เลย 2. เตรียมเอกสารให้ครบ ยื่นเอกสารแล้วสบตาเจ้าหน้าที่อย่างเป็นธรรมชาติใช้เอกสารอะไรบ้างเตรียมไปให้ครบ กรอกใบอะไรบ้างก็กรอกให้หมด และเมื่อเขาเรียกคุณเข้าไป คุณก็ยื่นเอกสารพร้อมสบตาเจ้าหน้าที่ ยิ้มหน่อยๆ ก็ได้ อย่าหลบตาเจ้าหน้าที่เพราะอาจจะทำให้เขารู้สึกไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อเจตนาของเรา แต่ก็อย่าไปจ้องตาเขม็ง เดี๋ยวมันจะดูน่าสงสัยว่าเราดูเตรียมตัวมาเป๊ะเกินไปแบบนี้คือจงใจซ่อนอะไรไหมอีก เอาแบบเป็นธรรมชาติ ถ้าจัดการสายตาตัวเองไม่ได้ หลังสบตาตอนยื่นเอกสารแล้วลองเปลี่ยนจุดมองจากหน้าเจ้าหน้าที่เป็นมือของเขา หรือมองที่กระดุมเสื้อตม. แทน จะได้ดูเหมือนกำลังมองตรง ไม่ได้หลบตาแต่ก็ไม่ได้จ้องเขม็งนะ 10 ขั้นตอนเตรียมตัว เที่ยวต่างประเทศคนเดียว อ่านจบแพลนทริปได้เลย3. พยายามตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษทันทีที่ตม. ถามบางกรณีเราอาจคิดไปเองว่าไม่ตอบเป็นอังกฤษก็ได้ ลักษณะเช่น ตอนเขาถามว่ามากับสายการบินอะไร ไม่ตอบแล้วยื่นบอร์ดดิ้งพาสแทนได้ไหม ถ้าเราไปคนเดียวแนะนำว่าไม่ควรเลี่ยงตอบภาษาอังกฤษควรตอบให้หนักแน่นทุกคำถาม เพราะการเดินทางคนเดียวหมายความว่าเราควรใช้ภาษาอังกฤษได้ระดับหนึ่ง จะมาชี้หรือแค่ยื่นบอร์ดดิ้งพาส ตม.บางคนไม่ยอมนะคะ ล่าสุดเลยค่ะ เรายื่นบอร์ดดิ้งพาสให้ตม. อินเดีย ตามไปกับวีซ่าและพาสปอร์ต บอร์ดิ้งพาสมันอยู่ตรงหน้าตม. เลยค่ะ พอตม. ถามว่ามากับสายการบินอะไร เราก็ชี้ให้ดูไปที่บอร์ดดิ้งพาส มันมีชื่อสายการบินอยูเนอะ หลังจากนั้น ตม ก็มองเราด้วยสีหน้านิ่งๆ แล้วบอกว่า "พูดภาษาอังกฤษแมม" เราก็เลย "โอเค เยส" แต่ก็ยังไม่ตอบชื่อสายการบิน ก็มันวางอยู่ตรงหน้าเขาแล้วไง มันก็เลยเหมือนกำลังไปกวนเขาหรือป่าว หลังจากนั้นเขาก็เลยถามเยอะเลยที่นี้ พอเราไม่ตอบคำถามหนึ่งเขาก็อาจจะอยากวัดสกิลภาษาเรานั่นแหละเขาก็เลยต้องถามเยอะ เพราะฉะนั้นอย่าไปช้งไปชี้อะไรเลย ตอบออกไปให้ชัดเจนไปเลยจะได้จบไวๆ4. นิ่ง สงบ สุภาพ ตื่นเต้นได้แต่ต้องคุมอาการให้อยู่นิ่งให้เป็น...ต่อให้หัวใจข้างในมันจะเต้นจนจะระเบิดออกมาก็ตามก็ต้องนิ่งให้ได้มากที่สุด และอย่าลุกลี้ลุกลน อย่าหันซ้ายหันขวาบ่อยๆ รวมถึงอย่าเอาแต่ก้มหน้า มันดูน่าสงสัยค่ะ ตอบคำถามอย่างมั่นใจ ถ้าฟังคำถามไม่เข้าใจก็ขอให้เขาพูดอีกรอบ หรือขอตม. พูดช้าลงนิดหนึ่ง เรื่องสำเนียงไม่เหมือนกันมันเป็นเรื่องปกติค่ะ 5. แต่งกายให้เหมาะสม ไม่ชิลเกินไปและไม่ดูเหมือนมาเพื่อทำงานข้อนี้สำคัญมากนะ ท่าอากาศยานก็เกือบจะเป็นสถานที่ทางการอยู่นะคะ ดังนั้นก็ให้เกียรติสถานที่นิดหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แต่งให้เหมาะสมกับการเดินทาง ไปหน้าหนาวชุดก็ควรจะพร้อมลุยหน้าหนาว ผู้หญิงไทยที่รักการแต่งตัวเซ็กซี่ถ้าคุณไม่มีปัญหาหากถูกเพ่งเล็งแล้วจะโดนถามเยอะก็แต่งตั้งแต่ออกจากไทยไปเลยก็ได้ แต่ถ้าไม่อยากถูกเพ่งเล็งก็แต่งให้มันสุภาพไปก่อน ในบางประเทศแค่เป็นหญิงไทยก็ถูกเพ่งเล็งไปในทางไม่ดีแล้วค่ะ เช่น ที่อินเดีย เราเช็กอินโรงแรมกับแฟน พอเห็นพาสปอร์ตไทยเขาคืนเลย ไม่ให้เช็คอิน เราเลือกโรงแรมดีแล้วนะ แล้วเขาก็พูดกับแฟนประมาณว่าเพราะเป็นพาสปอร์ตไทยเขาไม่อยากเสี่ยง ( ที่อินเดียถ้าพบเจอการค้าประเวณีในโรงแรม โรงแรมก็จะมีความผิดด้วย ) ตอนนั้นในใจเราคือ "ตัวฉันแทบจะเป็นโอ่งมังกรเดินได้จะเอาอะไรมาขายคะ" ....ดังนั้นในบางประเทศเราอาจถูกเพ่งเล็งตั้งแต่ ตม. เลย การแต่งกายจึงสำคัญมาก ไม่โป๊ไปและไม่ดูเหมือนไปทำงาน จะไปเที่ยวแต่ใส่สูทผูกไทด์มันก็ยังไงๆ อยู่นะ ฮึบไว้ก่อน แต่งเรียบง่าย เน้นสุภาพ สะอาดสะอ้านไปก่อนแล้วค่อยไปแฟชั่นจ้าๆ เมื่อผ่านเข้าประเทศได้ก็ไม่ได้แย่นะ 6. ถึงจะมีแพลนมาเป็นเปเปอร์ แต่ก็ควรจำแพลนไว้เพื่อตอบด้วยนะบางคนอาจจะถนัดทำแพลนแล้วยื่นแพลนทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ แต่ปัจจุบันนี้บางครั้งเจ้าหน้าที่ดูแล้วก็จะตั้งคำถามเพิ่มแล้วถามเรานิดหน่อย ถ้าเราไปเที่ยวจริงๆ เราต้องรู้แพลนตัวเองไง เขาเลยอาจจะลองสุ่มถามอะไรเพิ่มเกี่ยวกับแพลน ดังนั้นเตรียมตอบในลักษณะการถามตอบไปด้วยก็จะเซฟกว่าค่ะ และนี่ก็เป็นการเตรียมตัวไปตอบคำถามตม. หรือก็คือตรวจคนเข้าเมือง และนอกจากเรื่องบุคลิกหรือการแต่งกายแล้วสิ่งสำคัญที่สุดอีกหนึ่งจุดคือ "จุดประสงค์ในการเดินทาง" จะไปเที่ยวก็ต้องตอบว่าทราเวล ไปเรียนหรือไปทำงาน ถ้ามีวีซ่าขอวีซ่าอะไรไปตอนตอบตม. ก็ต้องตรงตามวัตถุประสงค์ในการเดินทางด้วยนะคะ ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่ค่ะ อย่างไรก็ตามขอให้ทุกคนเอนจอยและเซฟทริปกันทุกคนนะคะ ใครชอบบทความนี้ก็แชร์อกไปได้เลย หรือแวะหรือติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราได้ที่ twitter ที่ Artinime หรือ Facebook เพจ แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย ได้เลยค่ะขอบคุณภาพประกอบที่ 1 โดย Mohamed Hassan, ภาพที่ 3 โดย jacqueline macou, ภาพที่ 5 โดย 2211438 จาก Pixabay และภาพที่ 2,4 โดย ครีเอเตอร์ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !