ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน นอกจากจะมี “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแล้วยังมีสถานที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมไม่แพ้กัน คราวนี้เราจะพาทุกคนเดินข้าม “สะพานซูตองเป้” ที่เป็นสะพานไม้ไผ่ยาวกลางทุ่งนาไปยังสวนธรรมภูสมะ เพื่อกราบสักการะหลวงพ่อซูตองเป้กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ตามกันมาเลยจ้า! “สะพานซูตองเป้” ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งสะพานแห่งนี้เป็นสะพานแห่งศรัทธาที่พระภิกษุสามเณร, ชาวบ้านกุงไม้สัก และคณะศรัทธาต่าง ๆ ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้น เพื่อให้พระภิกษุสามเณรบิณฑบาตในช่วงฤดูฝนได้สะดวกมากขึ้นและชาวบ้านในบริเวณนั้นใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาทั้งสองฝั่ง โดยมีลักษณะเป็นสะพานไม้ไผ่กว้าง 2 เมตร และยาวประมาณ 500 เมตรที่ทอดยาวผ่านกลางทุ่งนาระหว่าง “หมู่บ้านกุงไม้สัก” กับสถานที่ปฏิบัติธรรม “สวนธรรมภูสมะ” ค่ะ ด้วยความที่คำว่า “ซูตองเป้” นั้นเป็นภาษาไทใหญ่ หมายถึง “การอธิษฐานที่สำเร็จสัมฤทธิ์ผล” สะพานแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนกับคำอธิษฐานที่สำเร็จของทุกคนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันสร้างขึ้นมานั่นเอง และหากเดินมาถึงจุดกึ่งกลางระหว่างสะพานให้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรแล้วเดินข้ามสะพาน คำอธิษฐานขอพรก็จะเป็นจริงหรือสมหวัง ส่วนใครต้องการมาเที่ยวชมสะพานซูตองเป้ในช่วงที่ทุ่งนาเป็นสีเขียวล่ะก็... แนะนำว่าให้มาในช่วงฤดูฝนหรือถ้ามาเที่ยวก่อนช่วงฤดูเก็บเกี่ยว คือช่วงปลายฝนต้นหนาวก็จะเห็นทุ่งนาเป็นสีเหลืองทองสวยงามค่ะ เมื่อเดินข้ามสะพานซูตองเป้มาเรื่อย ๆ ก็ถึง “สวนธรรมภูสมะ” ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ตรงข้ามกับหมู่บ้านกุงไม้สัก ซึ่งสวนธรรมภูสมะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและอบรมธรรมะของพุทธศาสนิกชน สร้างขึ้นโดยเจ้าอาวาส “พระปลัดจิตตะพัฒน์” เมื่อปี พ.ศ.2551 ภายในสวนธรรมภูสมะประกอบด้วยวิหาร, ศาลาหลังเล็ก ๆ และอาคารต่าง ๆ ที่สร้างแบบเรียบง่ายด้วยวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นเป็นหลัก เป็นลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบพม่ากับศิลปะไทใหญ่ค่ะ พอเดินเข้ามาภายในสวนธรรมภูสมะแล้วก็จะพบกับวิหารตั้งอย่างโดดเด่นสวยงาม ซึ่งวิหารที่ว่านี้เป็นวิหารโถงโปร่งโล่ง ไม่มีผนัง ทำให้มีสายลมพัดเข้ามาเรื่อย ๆ เย็นสบาย โดยภายในวิหารมี “หลวงพ่อซูตองเป้” พระพุทธรูปทรงเครื่องแบบพม่าสีทองงามอร่ามตั้งประดิษฐานอยู่ตรงกลางค่ะ ส่วนบริเวณเยื้อง ๆ ฝั่งตรงข้ามกับวิหารเป็นศาลาหลังเล็กทั้งสามศาลา ซึ่งศาลาแต่ละหลังจะเป็นที่ประดิษฐานของ “พระสีวลีเถระ” พระเถระที่ได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะ ผู้เลิศในทาง “ผู้มีลาภมาก”, “พระผ่องต่ออู / พระบัวเข็ม” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวอินคาและชาวไทใหญ่เคารพนับถือหรือศรัทธา เชื่อว่าสามารถปกป้องอันตรายต่าง ๆ ได้ และ “หมอชีวกโกมาภัจจ์” เป็นผู้ที่บำเพ็ญแต่คุณงามความดี ช่วยเหลือผู้เจ็บไข้โดยไม่เลือกฐานะ ทำให้ได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะในด้าน “การเป็นที่รักของปวงชน” รวมทั้งในวงการแพทย์แผนโบราณยังยกย่องท่านว่าเป็น “บรมครูแห่งการแพทย์แผนโบราณ” อีกด้วยค่ะ เขยิบมาอีกหน่อยเป็นศาลาหลังที่อยู่ด้านหลังสุด พอเข้าไปในศาลาแล้วให้สวดอธิษฐานขอพรด้วยการตั้งนะโม 3 จบ แล้วขออธิษฐานทีละข้อเท่านั้นค่ะ ^^ หลังจากกราบไหว้หลวงพ่อซูตองเป้ภายในวิหารและเดินชมรอบ ๆ บริเวณพร้อมถ่ายรูปครบจนทั่วแล้ว เมื่อมองจากสวนธรรมภูสนะลงมาก็จะเห็นสะพานซูตองเป้ทอดยาวมาแต่ไกล ช่างเป็นบรรยากาศที่สวยงามเลยทีเดียวค่ะ สำหรับใครที่วางแผนจะมาเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน อย่าลืมแวะมาเดินข้ามสะพานซูตองเป้ที่เป็นสะพานไม้ไผ่กลางทุ่งนาสีเขียวขจี เพื่อไปกราบไหว้หลวงพ่อซูตองเป้ในวิหารสวนธรรมภูสนะกันนะคะ 😊😊😊 ปักหมุดได้ที่: บ้านกุงไม้สัก หมู่ 2 ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000GPS: https://goo.gl/maps/62SfujzopVDftzLv7โทร: -เปิด: สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน ออกแบบหน้าปกใน Canva โดย: Windy_55 (ผู้เขียน)เครดิตภาพประกอบบทความทั้งหมดโดย: Windy_55 (ผู้เขียน) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !