พากันเที่ยว 1 วัน ณ อุทัยธานี หากพูดถึง จ.อุทัยธานี มีสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่ทุกคนอยากมาสัมผัสกับบรรยากาศ โดยสามารถมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ เพราะจังหวัดนี้ถือได้ว่าอากาศค่อนข้างดี และเต็มไปด้วยความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ริมข้างทางของถนนที่ผู้คนสัญจรไปมา แม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็ยังรู้สึกชอบในบรรยากาศความเป็นอุทัยธานี และสถานที่ที่จะมาแนะนำให้ทุกท่านได้ลองไปสัมผัส และท่องเที่ยวกันนั่นก็คือ ทุ่งออกญา นาอำแดง หุบป่าตาด และบ้านชายเขาสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย เมื่อได้อ่านชื่อแล้วยังคงนึกภาพไม่ออกว่าสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นอย่างไร รีบตามมาอ่านกันเลยนะคะ เริ่มกันที่ ทุ่งออกญา นาอำแดง ตั้งอยู่ที่ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งมีทั้งนาข้าวอันเขียนขจี การเลี้ยงไส้เดือน เลี้ยงปลา เป็นต้น สถานที่แห่งนี้ทำไมจึงควรค่าแก่การมาท่องเที่ยวเนื่องจากเป็นที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรจึงทำให้บรรยากาศที่ได้มาสัมผัสนั้นรู้สึกผ่อนคลาย และสดชื่นกันพอสมควร เมื่อก้าวลงมาจากรถไม่รอช้าที่จะเดินเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ด้านทางเข้าจะมีคำแนะนำในการเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ติดอยู่ก่อนที่เราจะลงมาสู่ตัวทุ่งออกญา นาอำแดง เมื่อเข้ามาภายในบริเวณของที่แห่งนี้ สิ่งแรกที่จะมองเห็นได้ชัดเจนคือ ปิ่นโตเถาใหญ่ และหม้ออวยใบใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ทางด้านหนัา แถมยังมีมุมให้ถ่ายรูปกันมากพอสมควร และที่นี่ยังมีร้านกาแฟไว้บริการนักท่องเที่ยวแบบโอเพ่นแอร์อีกด้วย ซึ่งสามารถนั่งได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่างของตัวร้าน ทอดสายตามองข้าวที่เขียนขจีที่อยู่รายรอบของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ และยังมีที่นั่งไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมบรรยากาศตามการทอดยาวของตัวสะพานไม้ไผ่ ที่ถูกออกแบบไว้อย่างลงตัว แถมยังมีอาหารที่เป็นชุดสำหรับผู้ที่มาท่องเที่ยวกันเป็นกลุ่มอีกด้วย ซึ่งทางผู้เขียนเองก็ได้สั่งอาหารเป็นชุดมาเช่นเดียวกัน อร่อยมากบอกเลย ซึ่งในราคาที่สั่งมานั้นคือ 299 บาท ประกอบไปด้วย ข้าวสวย และอาหารอีกจำนวน 4 อย่าง ดังภาพ และที่สำคัญภาชนะที่ใส่มานั้นจะเป็นแบบที่ใช้กันในสมัยก่อนไม่ว่าจะเป็นปิ่นโต ช้อนสังกะสี ที่เหมาะกับบรรยากาศที่ท่องเที่ยวที่นี่เสียจริงๆ สถานที่แห่งนี้จะเปิดเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ นะคะ เมื่ออิ่มท้องแล้ว นั่งพักผ่อนกับบรรยากาศที่แสนจะสบายตามลมที่พัดผ่านกลางท้องนาอันสวยงามที่แห่งนี้ พร้อมทั้งหาจุดหมายไปต่อที่ หุบป่าตาด ซึ่งต้องขับรถต่อไปจากที่แห่งนี้อีกประมาณ 33 กิโลเมตร หุบป่าตาดแห่งนี้เป็นภูเขาหินปูน และมีต้นตาดจำนวนมากภายในด้านในของตัวถ้ำ เมื่อขับมาถึงยังหุบป่าตาด ก่อนที่จะเข้าไปชมความงดงามของธรรมชาติด้านในต้องเสียค่าธรรมเนียมก่อนนะคะ คนละ 20 บาท สำหรับคนไทยพร้อมลงชื่อในสมุดที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ด้วย และหากใครต้องการมัคคุเทศก์น้อย ที่แห่งนี้ก็มีไว้บริการนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน พร้อมแล้ว เดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าไปยังตัวถ้ำ จากด้านหน้าของตัวถ้ำจะมืดสนิท เมื่อเดินเข้าไปเรื่อยๆ จะพบกับแสงสว่างที่ปลายทางอย่างแท้จริง พอพบแสงสว่างก็พบกับความงามของธรรมชาติที่ซ่อนไว้อยู่กลางภูเขาแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นหินงอกหินย้อยของภูเขาแห่งนี้ ต้นตาดที่ยืนต้นสูงใหญ่อยู่ท่ามกลางความเขียวขจีของที่แห่งนี้ และอากาศที่เย็นพอประมาณให้ได้สัมผัสความสดชื่นภายในการเดินสำรวจในหุบป่าตาดแห่งนี้ เมื่อยิ่งเดินเข้าไปยิ่งทำให้ลุ่มหลงกับเสน่ห์ของหุบป่าตาด แต่มาคราวนี้ไม่เจอกิ้งกือสีชมพู ซึ่งเป็นที่ขึ้นชื่อของหุบป่าตาด เนื่องจากอากาศอาจยังไม่ชื้นเพียงพอ จึงไม่พบกิ้งกือสีชมพู แต่ก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศของธรรมชาติอย่างแท้จริง เดินอยู่ตามเส้นทางที่กำหนดไว้อยู่สักระยะ ก็ถึงเวลาที่จะออกจากหุบป่าตาดกันแล้ว เพราะถัดจากหุบป่าตาดไปประมาณ 2 กิโลเมตรนั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกสถานที่หนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกันเป็นจำนวนมาก นั่นก็คือ บ้านชายเขา สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ซึ่งเมื่อมาถึงแล้วจะมองเห็นภูเขาที่โอบล้อมไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยว เพราะหากมากในช่วงเช้าจะถ่ายภาพได้สวยงามมากจากจุดนี้ 1 วันของการท่องเที่ยวที่ จ.อุทัยธานีนั้นคุ้มค่าเหลือเกิน นอกจากจะเดินทางไม่ไกลแล้วยังไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้อีกด้วย หากท่านใดมีเวลาก็สามารถแวะมาเที่ยวกันได้นะคะ ซึ่งใน จ.อุทัยธานีนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่รอให้ท่านมาสัมผัสอีกมากมาย "แล้วคุณจะบอกว่าไปอุทัยไม่ต้องอุทธรณ์ ย้อนมานอนอุทัย" :D