เมื่อปี พ.ศ.2524 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่จังหวัดจันทบุรี และทรงมีพระราชดำรัสแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีในขณะนั้นว่า "...ให้พิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสม จัดทำโครงการพัฒนาด้านอาชีพการประมงและการเกษตร ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลและจังหวัดจันทบุรี..." พร้อมทั้งพระราชทานเงินที่ราษฎรจังหวัดจันทบุรีทูลเกล้าฯ ถวายในโอกาสนั้นเป็นทุนเริ่มดำเนินการ นับแต่นั้นมา “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” จึงได้เกิดขึ้น ณ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี นับว่าเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญของภาคตะวันออก ที่ทำให้ป่าชายเลนเสื่อมโทรมในพื้นที่ดังกล่าว แปรสภาพมาเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านประมงและการเกษตรสมดังพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำรินี้จะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ซึ่งเป็นทางเดินสะพานไม้ระยะทางประมาณ 1,600 เมตร ระหว่างทางจะมีศาลาและป้ายให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ ของพืชและสัตว์ในป่าชายเลนเป็นระยะๆ ตลอดเส้นทาง หลายๆ คนที่ไม่เคยเห็นต้นไม้ในป่าชายเลนหรือเคยได้ยินแต่ชื่อ ก็จะมีโอกาสเห็นของจริงทั้งต้นโกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ ต้นฝาด ต้นฝาดแดง แสมขาว แสมดำ ลำพู ลำแพน ตะบูน ต้นประสัก ตลอดจนสัตว์น้ำ ที่มีปลาตีน ปูก้ามดาบ และนกมากมายหลายชนิด จุดชมวิวและมุมถ่ายรูประหว่างทางเดินก็มีสะพานแขวน รวมทั้งสะพานไม้ที่บริเวณปากอ่าวคุ้งกระเบน ศาลาชมวิวที่ช่วยให้เห็นทะเลที่ไกลสุดตา และมีอนุสรณ์ “หมูดุด” หรือ “พะยูน” หรือที่บางคนเรียกว่า “วัวทะเล” เนื่องจากพะยูนที่อ่าวคุ้งกระเบนในอดีตนั้นมีจำนวนมาก แต่ปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปจนหมดแล้ว ทางศูนย์ศึกษาฯ จึงจัดทำอนุสรณ์หมูดุดไว้เป็นที่ระลึกเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของพะยูนแห่งอ่าวคุ้งกระเบน จุดหมายสุดท้ายของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมีจุดสาธิตบ่อกุ้งกุลาดำระบบปิดที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ และมีป่ารอยต่อระหว่างป่าชายเลน ป่าชายหาด และป่าบก ให้ได้ชมถึงการอยู่ร่วมกันของป่าอันอุดมสมบูรณ์ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. การเดินทางจากตัวเมืองจันทบุรี ไปตาม ถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 301 จะมีแยกเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางหลวงหมายเลข 3399 อีกประมาณ 18 กม. ก็จะถึงยังที่ทำการศูนย์ สรุปการเดินทางไปศูนย์ศึกษาและพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้านการเดินทาง : ดี ด้านทัศนียภาพ : ดีมาก ด้านการเชื่อมโยงความรู้ : ดี ด้านความประทับใจ : ดีมาก สรุปโดยรวมแล้วการเดินทางมาท่องเที่ยงที่นี่ ผู้เขียนให้ผลในเกณฑ์ ดี เพราะบรรยากาศป่าชายเลนที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย คงหาไม่ได้ง่ายเท่าใด ภาพประกอบโดยผู้เขียน วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !