หากจะเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ 'รถไฟ' อาจเป็นอีกยานพาหนะที่คนจินตนาการไม่ออกว่า ความรู้สึกและสิ่งที่จะได้กลับมา เป็นเช่นไร และจะคุ้มค่าหรือไม่ หากต้องอยู่บนขบวนชมวิวป่ากว่า 14 ชั่วโมง จากใจคนที่ขึ้นรถไฟครั้งแรก จะมารีวิวให้ฟังกันค่ะเริ่มด้วยการจองตั๋วที่นั่งออนไลน์ เข้าไปที่หน้าเว็บการรถไฟแห่งประเทศไทย (https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home) และเลือกสถานีต้นทาง(กรุงเทพอภิวัฒน์) สถานีปลายทาง(เชียงใหม่) วันเดินทางไป และจำนวนผู้โดยสารด้วยนะคะเมื่อกดค้นหาแล้ว จะขึ้นขบวนโดยสารทั้งหมดที่มี ขบวนที่เป็นรถไฟชมวิวป่า จะเป็นขบวน 51 (ขาไป) กดเลือกได้เลยในขบวนที่ 51 จะมีที่นั่งอยู่หลายแบบ เราเลือกแบบตู้นอนปรับอากาศ ซึ่งจะเป็น 2 โบกี้สุดท้ายของขบวนค่ะ จะมีเตียงล่างและเตียงบน เตียงล่างจะมีหน้าต่าง แต่เตียงบนไม่มีนะคะะ แล้วแต่งบ & ความชอบเลยค่ะก่อนที่จะไปเลือกที่นั่ง ระบบจะให้สมัครสมาชิกก่อน (ต้องสมัครนะคะ ไม่งั้นจองไม่ได้) และกรอกข้อมูลผู้โดยสาร (ใครที่มีเพื่อนไป สมัครแค่คนเดียวก็จองได้แล้วค่ะ) ต่อจากนั้นสามารถจองที่นั่ง/นอนที่ต้องการได้เลยค่ะเมื่อกดถัดไป ระบบจะนำไปที่หน้าสรุปการซื้อตั๋วและจ่ายเงิน สามารถทำตามขั้นตอน และเราจะได้ตั๋วเรียบร้อยแล้วค่ะ ในวันเดินทาง ควรปริ้นตั๋วใส่กระดาษ เพื่อยืนยันการจองตั๋วและความสะดวกรวดเร็วนะคะมาถึงวันเดินทาง เราเข้าทางประตู 3 เจอกับห้องขายตั๋ว เพื่อความชัวร์เลยเอาตั๋วที่ปริ้นไปให้เจ้าหน้าที่เช็คความเรียบร้อย และเดินตรงเข้าไปอีก ไปยังจุดพักคอย รถไฟสายเหนือ หรือโซน B ในสถานีกลาง มีร้านอาหาร ขนม ของฝาก รวมถึงข้าวของจำเป็นอยู่พอสมควร ใครหิวระหว่างลองอุดหนุนกันได้นะคะะก่อนถึงเวลารถไฟออกซัก 10-30 นาที จะมีเสียงเรียกให้มาเตรียมตัวเพื่อตรวจตั๋ว และขึ้นไปที่ชานชาลา สำหรับตั๋วนอน จะต่อแถวคันที่ 6-13 (ทางด้านขวา)เมื่อตรวจตั๋วเรียบร้อย จะเลี้ยวขวา ขึ้นบันไดเลื่อน และเจอกับรถไฟที่เราจะอยู่กับเขาอีก 14 ชั่วโมง9เข้ามาในรถไฟ หาหมายเลขที่นอนที่เราจองได้จากผ้าม่านจะสะดวกที่สุด มีบริเวณให้วางสัมภาระ แอร์เย็นกำลังดี บรรยากาศของรถไฟ ทำให้ตื่นเต้นที่จะพบกับการผจญภัยใหม่ ๆ มากจากที่นอนชั้นบนค่ะแน่นอนว่า ขึ้นรถไฟแล้วนอนเลย จะดูวิวนอกหน้าต่าง แต่มันมีแต่ความมืด(555+) เลยตัดสินใจปิดม่านหน้าต่างและทางเดินเพื่อพักผ่อน ตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับวิวชนบท ที่ร่มรื่นและสงบ เรารบกวนพนักงานให้เก็บที่นอน ซึ่งก็คือการนำผ้าต่าง ๆ เก็บขึ้นที่นอนชั้นบน ปิดที่นอนชั้นบน และพับเบาะให้เป็น 2 ที่นั่งเข้าหากันค่ะเราเดินไปถึงขบวนเสบียง มีหลายเมนูข้าวเช้านะ แต่ตอนนั้นพนักงานแจ้งว่ามีแค่ชุด breakfast เลยสั่งมาทาน รสชาติใช้ได้ ตามมาตรฐานอาหารเช้า แต่พออยู่บนรถไฟ ต้นทุนและราคาก็จะสูงขึ้นหน่อยนะคะ อันนี้เป็นที่นั่งจากอีกคัน (คันที่ 11) ที่พับเก็บเรียบร้อยแล้วค่ะ สีผ้าม่านจะไม่เหมือนกันนะคะนั่งทานข้าวเช้า ชมวิวป่า ที่เราดื่มด่ำกับมันมาก ๆ จนลืมเรื่องถ่ายรูปไปเลย แนะนำว่าให้พกหนังสือ หรือโหลดเพลง/หนังไปด้วย เพื่อความผ่อนคลายขั้นสุด ท่ามกลางธรรมชาติพื้นที่ที่ดึงความสนใจเราได้มากที่สุดคือขุนตาลค่ะ เป็นสถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในไทย นอกจากความเป็นตำนาน บรรยากาศที่นี่ก็ดีมาก ๆ เช่นกัน หากครั้งหน้าได้มาเที่ยวที่นี่คงจะดีมาก ๆ เลยหล่ะค่ะและมาถึงจุดหมายของเรา เชียงใหม่ รถไฟมาถึงตรงเวลาเป๊ะ เช็คสัมภาระและลงจากรถไฟ จบการเดินทางด้วยรถไฟครั้งแรกใช้ชีวิตของเราสำหรับเรา การเดินทางครั้งเป็นความทรงจำและประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ การนั่งรถไฟที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวตามจังหวะของเขา มองวิวรอบ ๆ ที่หาไม่ได้จากการนั่งรถเมล์ในกรุงเทพ นี่อาจจะเป็นเสน่ห์ของรถไฟที่ทำให้ผู้คนหลงรัก ดังนั้นนี่คือความรู้สึกและประสบการณ์ของเราที่มาแชร์ให้กันค่ะ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !