วันเดียวเที่ยวไม่หมด ไปเดินทอดน่อง มองอิฐเก่า ที่บอกเรื่องราวประวัติศาสตร์ก่อนจะมาถึงยุคปัจจุบันของเรา เที่ยวได้แบบมีสาระ งบน้อยเดินทางไม่ไกล ใกล้กรุงเทพฯ การเดินทางสะดวก กับ 6 วัดแรก ที่มีความสำคัญระดับต้นของ อยุธยา " ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา " วันนี้ผมมาชวนทุกคนออกเดินทางไปเที่ยวโบราณสถาน มาเดินทอดน่อง มองภาพอดีต ผ่านโบราณสถานที่เคยเจริญรุ่งและสวยงาม และยิ่งใหญ่ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นแหล่งรวมศิลปหลากหลายแขนงมาอยู่รวมกัน ไม่ไกลจากกรุงเทพเดินทางไปกลับได้ในวันเดียว เดินทางก็สะดวกเพียงแค่ 50 นาทีก็ถึงแล้ว ที่นี้โบราณสถานถูกขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก และเป็นเมืองที่มีความสำคัญในด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมของไทยในปัจจุบันอีกด้วย ของกินก็อร่อย มาไปกันเลยครับ พระนครศรีอยุธยาพิกัด : พระนครศรีอยุธยาโดยสารด้วย : รถไฟรถตู้โดยสาร : กรุงเทพฯ หมอชิต – อยุธยา , กรุงเทพฯ อนุสาวรีย์ - อยุธยา ,รังสิต - อยุธยาphoto credit : https://www.rimkhobfabooks.com/5004418 การเดินทางด้วยรถส่วนตัวบนถนนพหลโยธินเขาออกแล้วไปตัดเข้าถนนสายเอเชียที่อำเภอบางปะอิน วิ่งตรงต่อไปอีก 20 นาทีสังเกตตามป้ายชิดซ้ายเข้าตัวเมือง วิ่งตรงไปเจอเจดีย์องค์ใหญ่ตั้งขว้างอยู่กลางถนน ต้องขออภัยคนที่นี้เรียกว่าเจดีย์นักเลง ชื่อเป็นทางการก็คือ เจดีย์วัดสามปลื้ม เลี้ยวซ้ายตรงวงเวียนวิ่งมาประมาณ 50 เมตร มองเห็นยอดเจดีย์ในระยะไกลได้เลย วัดแรก ที่ผมจะพาเดินก่อนข้ามเข้าไปยังเกาะเมือง คือ วัดใหญ่ชัยมงคล จุดเด่นที่มองเห็นได้จากระยะไกลคือ เจดีย์ชัยมงคลอนุสรณ์ เป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงรบชนะ มังกยอชวาพระมหาอุปราชาของหงสาวดี ด้วยการทำยุทธหัตถีที่ ต.หนองสาหร่าย จ.สุพรรณบุรี เจดีย์ชัยมงคล สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 2135 มีความสูงจากฐานเจดีย์ถึงปลายยอด 42 เมตร เราสามารถเดินขึ้นไปชมวิวมุมสูงจากบนเจดีย์ได้ด้วยนะครับ ที่ระเบียงคดรอบองค์เจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูป ปางมารวิชัย จากมุมมองของตัวผมเองที่พอจะมีความรู้ด้านงานก่อสร้างมาบ้าง เป็นเรื่องที่น่าทึ่งอย่างมากด้วยความสูงขององค์เจดีย์เองและน้ำหนักมหาสารสิ่งปลูกสร้างแบบนี้อยู่มาได้อย่างไรเป็นเวลาหลายร้อยปี และความสวยงามที่สมส่วนยังคงสภาพใกล้เคียงของเดิมมาจนทุกวันนี้ได้ ภายในพระอุโบสถ ยังเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัด อีกด้วยพิกัด : วัดใหญ่ชัยมงคลค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น. ออกจากวัดใหญ่ชัยมงคลให้ย้อนกลับไปทางเจดีย์นักเลงแล้วเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานปรีดี เพื่อเข้าไปยังเกาะเมืองขับตรงไปไฟแดงที่ 2 เลี้ยวขวาขับตรงไปผ่านวงเวียนน้ำพุประมาณ 100 เมตร ซ้ายมือก็จะพบ วัดมหาธาตุ วัดมหาธาตุ เป็นพระอารามหลวง สร้างในสมัยขุนหลวงพะงั่ว แต่ไม่แล้วเสร็จ ทรงเสด็จสวรรคตเสียก่อน และต่อมาในสมัยสมเด็จพระราเมศวร เมื่อพระองค์ได้กลับมาครองราชสมบัติใหม่ โดยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระปรางค์ประธาน และได้อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ มาบรรจุมาประดิษฐานไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดมหาธาตุ เมื่อปี พ.ศ. 1927 ซึ่งเป็นจุดที่พระองค์ทอดพระเนตรเห็นพระบรมสารีริกธาตุเปล่งแสงและลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ในสมัยอยุธยา วัดมหาธาตุ นั้นเป็นศูนย์กลางของเมือง และเป็นสถานที่จัดพระราชพิธีสำคัญๆต่าง ๆ ของกรุงศรีอยุธยา จากพระปรางค์เดินลงมาข้างวิหารหลวงด้านหน้าขวามือเป็น Unseen Thailand โด่งดังไปทั่วโลกมาแล้วของที่นี้ เศียรพระพุทธรูปหินทราย ที่ถูกรากของต้นโพธิ์ห่อหุ้มไว้ เป็นเศียรพระพุทธรูปศิลปะสมัยอยุธยา กรมศิลปากรคาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้หน้าจะหล่นลงมาอยู่ด้านล่างของวิหาร ในตอนที่เสียกรุง ครั้งที่ 2 จนถูกรากของต้นโพธิ์หุ้มให้เห็นในปัจจุบันและยังคงความงดงามของศิลปะสมัยอยุธยาที่มหัศจรรย์แปลกตา จนเลื่องลือและดังไปทั่วโลก นี้แหละครับ Unseen เป็นอะไรที่เหมาะเจาะและพอดีจริง ๆ ที่รากของต้นไม้ทำให้เศียรขององค์พระตั้งตรงขึ้นมาได้ แบบไม่หน้าเชื่อพิกัด : วัดมหาธาตุค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาทเวลาเปิด - ปิด : 08:-30-16:30 น. ออกจากวัดมหาธาตุ เดินเลี้ยวซ้ายมาทางทิศตะวันออกไม่ไกลประมาณ 80 เมตร จนถึง สี่แยกไฟแดงข้ามถนนป่าถ่านไปก็ถึง วัดราชบูรณะ สร้างโดย สมเด็จเจ้าสามพระยา (สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2) สร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้แก่พระเชษฐาทั้ง 2 ของพระองค์ เจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยาที่ต่างทรงยกไพร่พลเข้ามาเพื่อชิงราชสมบัติกัน ทั้งสองพระองค์มารบกันบริเวณสะพานป่าถ่านจนสิ้นพระชนม์พร้อมกัน พระองค์โปรดให้นำพระศพเจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยามาถวายพระเพลิง บริเวณที่ถวายพระเพลิงนั้นให้สถาปนาพระมหาธาตุ พระวิหารเป็นพระอารามแล้วพระราชทานนามว่า วัดราชบุณ (ราชบูรณะ) แล้วโปรดให้ก่อพระเจดีย์สององค์ไว้ที่เชิงสะพานป่าถ่าน แผนผังวัดประกอบด้วยเจดีย์ทรงปรางค์เป็นประธานของวัดมีระเบียงคดล้อมรอบเจดีย์ประธาน ด้านหน้าของเจดีย์ประธาน ด้านหลังเป็นพระอุโบสถและระเบียงคด อันเป็นลักษณะเฉพาะของแผนผังในสมัยอยุธยาตอนต้น พระปรางค์ประธานเคยถูกลักลอบขุดขโมยสมบัติที่อยู่ในพระปรางค์ไปและกรมศิลปากรได้ทำการขุดค้นยังพบสมบัติที่มีค่าอีกมากมายปัจจุบันถูกนำมาเก็บรักษาและจัดแสดงให้ชมที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ครั้งหน้าผมจะพาเช้าไปเยี่ยมชม เป็นการจัดวางผังของกลุ่มอาคารต่าง ๆ ได้ลงตัวและเหมาะสมสอดคล้องกันมาก ทั้งแนวความคิดที่ซ่อนไว้ให้ใช้ประโยชน์ได้จริงเช่น พระปรางค์ประธานที่ซ่อนกรุสมบัติถูกจัดซ้อนกันไว้ถึง 3 ชั้น เก่งมากจริงพิกัด : วัดราชบูรณะค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท เวลาเปิด - ปิด : 08:-00-18:30 น. ไปต่อกันวัดที่สี่ออกจาก วัดราชบูรณะเดินย้อนกลับมาเอาที่จอดไว้ที่จอดรถวัดมหาธาตุ ขับออกมาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนนเรศวรตรงไฟแดง ขับตรงไปเลื่อนๆ สังเกตด้านขวามือเลยวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยานิดเดียวจะเจอทางเข้าด้านหลัง วัดธรรมิกราช ประวัติพอสังเขป ชื่อเดิม วัดมุขราช สร้างโดย พระยามิราช พระราชโอรสพระเจ้าสายน้ำผึ้ง ก่อนกรุงศรีอยุธยามีเจดีย์องค์ใหญ่สิงห์ล้อม 52 ตัว รูปสถาปัตยกรรมแตกต่างกัน สร้างก่อนพุทธศตวรรษที่ 19 ประติกรรมสำริดเป็นแบบอู่ทองคล้ายคลึงพระพุทธรัตนนายกวัดพนัญเชิงพระวิหารหลวงเป็นที่ พระเจ้าอยู่หัวหลายพระองค์ทรงเสด็จมาฟังธรรมในวันพระ และเป็นที่สอบเปรียญธรรม เป็นสถานปฏิบัติและมีพระสงฆ์อยู่จนถึงปัจจุบันนี้ เศียรพระพุทธรูปสำริด เดิมอยู่ที่วิหารทรงธรรม ปัจจุบันกรมศิลปากรนำไปเก็บและจัดแสดงอยู่ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา วิหารพระพุทธไสยาสน์และเจดีย์สิงห์ล้อม ที่วัดธรรมมิกราช เป็นวัดเดียวในอยุธยาที่มีพระสงฆ์ จำพรรษาอยู่ตลอดตั้งแต่ก่อสร้างวัดมาแม้ในช่วงเสียกรุงถึง 2 ครั้งวัดนี้วัดเดียวที่ไม่ถูกปล่อยร้าง ศิลปะที่สุดตาจากการรับอิทธิพลของขอมมาจะมองเห็นได้เด่นชัดสวยแปลกตาไปอีกแบบพิกัด : วัดธรรมมิกราชค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชมเวลาเปิด - ปิด : 08:-00-17:00 น. จากวัดธรรมมิกราชออกมานิดเดียวเป็นเรียกว่าติดกันดีกว่าแค่ทางเข้าบังคับให้เข้าออกทางเดียวก็เลยต้องอ้อมไปนิดนึง เป็นวัดที่มีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดหลวงประจำพระราชวังสมัยอยุธยา สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 1991 โดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ วัตถุประสงค์ในการก่อสร้างให้เป็นวัดส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานโดยไม่มีพระสงฆ์จำวัด ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญมากมาย รวมถึงพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาและ เป็นที่เก็บพระบรมอัฐิของ พระบรมวงศานุวงศ์ จุดที่น่าสนใจที่สำคัญคือเจดีย์ทรงลังกา จำนวน 3 องค์ที่เรียงยาวจากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก องค์แรกสร้างขึ้นทางฝั่งตะวันออก เมื่อปี พ.ศ. 2035 โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2( พระเชษฐา เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 ) เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พระราชบิดา) ต่อมาในปี พ.ศ. 2042 ก็ทรงให้สร้างเจดีย์องค์ต่อมา (องค์กลาง) ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (พระเชษฐาต่างพระมารดาของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2)และในรัชสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 ก็ทรงสร้างเจดีย์อีกองค์ในฝั่งทิศตะวันตกให้ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พระปิตุลา(หรือพระเจ้าอาของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระหน่อพุทธางกูร)) รวมเป็นสามองค์ตามปัจจุบัน วันนี้เป็นวันที่เดินชิล ๆ มากเฉพาะการดื่มน้ำ ดื่มไปแล้วเกือบ 2 ลิตร เดินไม่ต่ำกว่า 6 กิโลเมตร 5555 เป็นเวลาบ่าย 3 โมงตรง วันนี้ยังมีวัดเป้าหมายอีกหลายวัด ด้วยเวลาพาไปคงได้อย่างน้อยอีกวัดเดียว จากตรงนี้เห็นความยิ่งใหญ่และมองโดยรอบแล้วนั่งหลับตานึกดูตอนที่ยังสมบูรณ์อยู่คงจะสวยงามวิจิตรไม่น้อยนึกแล้วก็เสียดายพิกัด : วัดพระศรีสรรเพชญ์ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท เวลาเปิด - ปิด : 08:-00-18:30 น. ออกจากวัดพระศรีสรรเพชญ์เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าวิหารหลวงพ่อมงคลบพิตร วิ่งตรงไปจนสุดทางถึง 3 แยกเลี้ยวขวาผ่านหน้า โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เส้นนี้รถจะติดมากเพราะมีรถจอดซื้อสายไหม อยุธยา แนะนำทางเลี่ยงให้ใช้เส้นทางลัด พอขับมาถึงวงเวียนตรงปรางช้าง ให้เลี้ยวขวาและวิ่งตรงไปข้ามสะคลองท่อจะมีป้ายบอกทางจนถึงทางออกหน้าร้านอาหารมองดูเรือเลี้ยวซ้ายนิดเดียวเลี้ยวขวาขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้า ลงสะพานเบี่ยงซ้ายก็จะถึงทางเข้า วัดไชยวัฒนาราม วัดไชยวัฒนาราม สร้างขึ้นในสมัย พระเจ้าปราสาททอง พ.ศ. 2173 ได้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้นเพื่ออุทิศผลบุญให้กับพระราชมารดาของพระองค์ และอีกประการหนึ่งวัดนี้อาจถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมร ก็เป็นไปได้ส่วนสถาปัตยกรรมกลุ่มอาคารถูกสร้างตามอุดมคติและความเชื่อตามคติในศาสนาพราหมณ์ ศาสนาพุทธ และศาสนาเชน คือภูเขาที่เป็นศูนย์กลางของโลกหรือจักรวาล เป็นที่อยู่ของสิ่งมีวิญญาณในภพและภูมิต่าง ๆ ของสัตวโลก วัดไชยวัฒนาราม ยังถูกใช้เป็นที่ประกอบพระราชกุศล ถวายพระเพลิงให้กับพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ จบวันเดียวกับที่นี้ สิ่งปลูกสร้างที่สร้างจากความเชื่อยิ่งใหญ่และสวยงามมาก แม้สิ่งที่เห็นจะเป็นเพียงซากของอาคาร แต่ความงดงามก็ยังปรากฏให้ได้เห็นอยู่ สวยครับสวยงามตามท้องเรื่องเลยครับพิกัด : วัดไชยวัฒนารามค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท เวลาเปิด - ปิด : 08:-00-18:30 Writer : OvercomingPhoto Credit : Overcoming *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565