โอ๊ย! ใครว่าไปภูกระดึงเป็นเรื่องง่ายบ้าง ยกมือขึ้น! เรา อ้อมเอง ไม่เคยคิดเลยว่าทริปนี้จะกลายเป็นการผจญภัยสุดบ้าบอในชีวิต ไปภูกระดึงครั้งแรกแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เหมือนเด็กน้อยหลงป่าเลยล่ะ เริ่มต้นด้วยความมั่นใจระดับสิบแต่แรงกายระดับศูนย์! ตอนแรกคิดว่าเดินขึ้นภูกระดึงก็แค่เดินขึ้นเขาชิลล์ๆ วิวสวย อากาศดี อ๋อ...ไม่จ้า! นี่มันสนามทดสอบความอดทนของมนุษย์ชัดๆ เหมือนเอาตัวเองไปเข้าสนามรบมากกว่าเดินทางท่องเที่ยว ตอนขึ้นเขา: เอาใจไปเลยน่อง! บอกเลยว่าจากจุดเริ่มต้นที่ศาลเจ้าภูกระดึง เรานี่เดินแบบนางเอกซีรีส์เรื่อง "ต้องรอด..." ในใจฮึดเต็มที่ แค่เจอ "ซำแฮก" ซำแรก ก็เริ่มรู้แล้วว่าคำว่า "แฮก" นี่ไม่ใช่แค่ชื่อของมัน แต่คืออาการจริงๆ หอบจนคิดว่าปอดหลุดออกมาวางอยู่ข้างนอกแล้ว ช่วงกลางทาง: บนภูกระดึงคือแค่ความฝัน ตอนกลาง ๆ ทาง ทุกอย่างเริ่มเบลอ ๆ เหมือนเราจะได้เห็นภูกระดึงแค่ในความฝัน ความเหนื่อยทำให้สมองเริ่มจินตนาการไปไกล คิดว่าต้องมีฮอปเปอร์จาก Avengers มารับแล้วแหละ ตอนนั้นพยายามหาข้อดีของการเดินขึ้นภูกระดึงให้ตัวเองบ้าง ก็มีแค่ได้เผาผลาญแคลอรี่นี่แหละ! แต่จะบอกว่าเหนื่อยขนาดนี้ จะเป็นลมก่อนผอมก็ว่าได้ โอเค พอขึ้นมาถึงยอดภูกระดึงแล้วนะ หลังจากปากำลังใจตัวเองตลอดทาง “สู้ๆ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” สิ่งที่พบก็คือ... เดินอีกจ้า! คือทางบนภูกระดึงมันไม่ได้มีแค่ที่พักหรู ๆ รอเราอยู่เหมือนในรีสอร์ทแบบนั้นนะ มันคือการเดินบนที่ราบสูงแสนกว้างขวางเหมือนเดินในโลกนาร์เนีย พื้นที่ราบด้านบนเป็นทุ่งกว้างกับป่าสน บางช่วงก็ผ่านลำธารเล็กๆ แต่บอกเลยว่าถ้าเดินไปเจอกระทิง นั่นไม่ใช่เพื่อนนะ ระวังนิดนึง เขาไม่ต้อนรับเราเท่าไหร่ อาหาร: ของกินรอดตาย เรื่องของกินบนภูกระดึงนี่ขอเล่ายาวเลย เพราะตั้งแต่เดินขึ้นเขา เราก็แบกขนมมาด้วยนิดหน่อย แต่บอกเลยว่ากินหมดตั้งแต่ “ซำแฮก” แล้ว พอขึ้นมาด้านบนจริง ๆ มีร้านอาหารอยู่ แต่ขอบอกก่อนนะว่าเมนูพิเศษของที่นี่คือมาม่า หมูกระทะ และข้าวไข่เจียว (ไฮไลท์ของชีวิต) ซึ่งตอนนั้นอะไรอะไรก็อร่อยหมด เพราะหิวจนตาลาย มาม่าชามนั้นเหมือนเป็นอาหารเทพเจ้าเลยล่ะ แต่ราคาก็อาจจะทำให้ตาลุกนิดหน่อย เพราะต้องขนส่งขึ้นมาบนเขา เรียกว่าทุกคำคือความเหนื่อยของคนแบกเลยจ้า ที่พัก: สบายแบบลุยๆ ที่พักบนภูกระดึงเป็นเต็นท์ให้เช่านะ มีพื้นที่กางเต็นท์เป็นสัดส่วน เรานอนเต็นท์กับเพื่อนซึ่งก็โอเคอยู่ ไม่ได้หรูหรามาก แต่ถ้าใครไม่อยากนอนเต็นท์ ก็มีบ้านพักที่เป็นหลังเล็ก ๆ ให้เช่าด้วย แต่บรรยากาศกลางคืนนี่สิสุดยอด หนาวมาก! หนาวแบบที่เราไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ ต้องสวมเสื้อกันหนาวแบบหลายชั้น เพราะลมแรงสุด ๆ แต่ก็มีข้อดีคืออากาศสดชื่นมาก ไม่มีเสียงแตรรถหรืออะไรที่รบกวนความสงบ ยกเว้นเสียงกรนของเพื่อนข้างเต็นท์นะ การอาบน้ำ: มหากาพย์ที่แท้จริง บอกเลยว่าตอนอาบน้ำนี่คือการทดสอบความแข็งแกร่งอีกครั้ง เพราะน้ำเย็นมากกก! แบบเย็นจนชา เหมือนอาบน้ำแข็งกันเลยทีเดียว ไม่มีน้ำอุ่นหรูหราหรอกนะ เตรียมใจไว้เลยว่าต้องอาบน้ำแบบรีบ ๆ แต่ก็บอกเลยว่าหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน การได้ล้างตัวด้วยน้ำเย็นมันก็มีความฟินอยู่บ้างนะ ช่วยรีเฟรชตัวเอง แต่เราจะอาบน้ำแบบไวๆ ไม่ให้คิดนาน เพราะถ้ายืนคิดว่าจะล้างผมดีไหมนานไปอีกนิด เราอาจจะหนาวจนแข็งเป็นรูปปั้นได้! พระอาทิตย์ขึ้นและตก: ความงามที่คุ้มค่าเหนื่อย หนึ่งในไฮไลท์ของการมาเที่ยวภูกระดึงก็คือการได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก แนะนำเลยว่าต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น บรรยากาศตอนเช้าช่วงที่พระอาทิตย์เริ่มขึ้นเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องเงียบกันหมด เหมือนเราถูกสะกดด้วยความงามของธรรมชาติ พระอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่ขึ้นจากเส้นขอบฟ้า แสงสีทองสาดส่องผ่านป่าสน เหมือนกับว่าโลกนี้ช่างสงบสุขเกินบรรยาย ส่วนพระอาทิตย์ตกนั้น ต้องเดินไปที่ผาหล่มสัก วิวตรงนั้นอลังการมาก ต้นสนเก่าแก่ยืนเรียงแถวเหมือนกับเป็นยามเฝ้าภูเขา แสงสุดท้ายของวันที่ลอดผ่านกิ่งไม้และสะท้อนกับทิวเขาไกลๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการปิดฉากวันที่ยาวนานอย่างสมบูรณ์แบบ สรุป: ขึ้นภูกระดึงครั้งแรกของอ้อม บอกเลยว่าทริปนี้คือการทดสอบทุกอย่าง ตั้งแต่ความอดทนในการเดินไกล ความท้าทายของการอาบน้ำเย็น และการรับมือกับความหนาว แต่วิวสวย ๆ ของธรรมชาติ พระอาทิตย์ขึ้นและตก รวมถึงอาหารมาม่ารสเทพเจ้า ทุกอย่างมันคุ้มค่าแบบเกินคาด จะเหนื่อยแค่ไหนก็ถือว่าคุ้มสุดๆ ทริปภูกระดึงครั้งแรกของเรานี่เป็นทั้งความโหด ความบ้าบอ และความมันส์ที่ประสบการณ์ชีวิตต้องมี! ภูกระดึงสอนเราเรื่องของการมีวินัย ความอดทน และการอย่ายอมแพ้ เหมือนชีวิตเรานี่แหละ แต่ถ้าถามว่าจะไปอีกมั้ย... ก็ขอคิดก่อนนะ ปล. ถ้าใครวางแผนจะไป บอกเลยให้เตรียมใจไว้ให้ดี ไม่ใช่แค่เตรียมขา 🤭 อ้างอิง ภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !