15 ที่เที่ยว ญี่ปุ่น จูงมือแฟนเที่ยว
ญี่ปุ่น เป็นอีกประเทศที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองในฝันของคนไทยหลายคน เพราะมีที่เที่ยวหลากหลาย ร้านอาหารก็อร่อย เที่ยวกี่ทีก็ไม่มีเบื่อค่ะ วันนี้เราเลยรวบรวม ที่เที่ยว ญี่ปุ่น จูงมือแฟนเที่ยว ฉบับชิลล์ๆ และโรแมนติกเบาๆ มาฝากกัน เผื่อใครจะหาเวลาไปสวีทกันในช่วงวันหยุด รับรองว่า คุณแฟนจะต้องปลื้มมากๆ ทีเดียว
-1-
Hitachi Seaside Park
อิบารากิ
สวนสวยรายล้อมไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ ริมทะเล ที่ Hitachi Seaside Park เมืองฮิตาชินากา (Hitachinaka) ของจังหวัดอิบารากิ ค่ะ ที่นี่เป็นสวนดอกไม้สวยริมทะเล ที่โด่งดังมากๆ ในแต่ละฤดูจะมีดอกไม้บานไม่เหมือนกัน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ทำให้เราสามารถมาเที่ยวที่นี่ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวจะนิยมมาชม ทุ่งดอกเนโมฟีเลีย สีฟ้าสวยในฤดูใบไม้ผลิ และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนั้น ที่นี่จะสวยงามมากๆ ด้วย ทุ่งโคเชีย ที่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง ทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ทั้งชิลล์ และโรแมนติกเบาๆ แถมยังถ่ายรูปสวยอีกด้วย ได้เดินเล่นชมดอกไม้ท่ามกลางอากาศดีๆ เป็นวันหยุดพักผ่อนที่ชิลล์มากๆ ทีเดียว
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ ที่เที่ยวถ่ายรูปสวย ญี่ปุ่น สวน Hitachi Seaside Park
========================
-2-
Sensoji Temple
โตเกียว
Vincent St.Thomas / Shutterstock.com
วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) หรือ วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) เป็นวัดสำคัญในโตเกียวค่ะ ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ ซึ่งเป็นย่านวัฒนธรรมเก่าแก่ จุดเด่นคือ โคมไฟสีแดงขนาดยักษ์ที่สร้างมากว่าพันปีที่ทางเข้าด้านหน้าของวัด ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันค่ะ
Rabbit_Photo / Shutterstock.com
นอกจากนี้ ยังมี ถนนช้อปปิ้งนากามิเสะ (Nakamise Shopping Street) ที่มีของอร่อยให้เลือกชิมมากมายไปตลอดทาง รวมถึงมีร้านค้ากว่า 50 ร้าน มีสินค้าพิเศษประจำท้องถิ่น และของที่ระลึกให้ได้เลือกช้อปจากบริเวณจากหน้าวัดเซ็นโซจิไป 250 เมตรค่ะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ วัดเซ็นโซจิ อาซากุสะ แวะถ่ายรูปโคมแดง ที่โตเกียว
========================
-3-
Jozankei
อุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ ซัปโปโร
ใครที่อยากพาคุณแฟนไปนอนเรียวกัง แช่ออนเซ็น ชิลล์ท่ามกลางหุบเขา แบบต้นฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ เราชวนให้ลองไป โจซังเค หรือ โจซังเค ออนเซ็น (Jozankei Onsen) ในบริเวณอุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) ห่างจาก ซัปโปโร ไปประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเองค่ะ
ที่ โจซังเค ออนเซ็น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยโรงแรม และเรียวรายล้อมไปด้วยออนเซ็น ซึ่งจะมีทั้งออนเซ็นที่ให้บริการเป็นส่วนตัวในเรียวกัง และออนเซ็นทั่วไป ซึ่งค่าอาบน้ำออนเซ็นจะอยู่ที่ 500-1,500 เยน รวมถึงยังมีบ่อแช่เท้าฟรีที่สามารถพบได้ทั่วเมืองอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่เที่ยวไฮไลท์ในการมาชมใบไม้แดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของซัปโปโรอีกด้วย เพราะจะรายล้อมไปด้วยใบไม้แดงสวยงาม และยังได้แช่ออนเซ็นในบรรยากาศดีๆ
========================
-4-
Sagano Bamboo Forest
เกียวโต
ป่าไผ่ซากาโนะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวควรแวะมาเที่ยวสักครั้งหากได้มาญี่ปุ่นค่ะ และป่าไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในเกียวโต ซึ่งเราสามารถเดินชมความสวยงามได้เป็นระยะทาง 500 เมตร ตลอดสองข้างทางเดินจะประกอบไปด้วยต้นไผ่สูงชะลูด และสวยงาม
psgxxx / Shutterstock.com
นอกจากนักท่องเที่ยวจะมาเดินเล่นชิลล์แล้ว ใครที่อยากได้บรรยากาศในสมกับมาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที แนะนำว่า ลองชวนคนข้างๆ ใส่ชุดกิโมโน หรือ เช่าชุดยูกาตะ มาใส่ แล้วเดินชมเที่ยวเล่นที่นี่ดู จะเป็นอีกทริปที่น่าประทับใจมากๆ เลยทีเดียวค่ะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ ป่าไผ่ซากาโนะ เกียวโต เสน่ห์โลกตะวันออก
========================
-5-
Saga International Balloon Fiesta
ซากะ
traction / Shutterstock.com
แม้ว่า ซากะ จะเป็นจังหวัดเล็กๆ ในญี่ปุ่นที่คนมักจะมองข้าม แต่เพียงไม่กี่ปี ที่นี่กลับคักคักขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ และกลายเป็นที่เที่ยวในใจของคนหลายคนที่กำลังจะวางแผนไปญี่ปุ่นค่ะ โดยเฉพาะงานบอลลูนนานาชาติซากะที่จัดขึ้นทุกปี
traction / Shutterstock.com
งานบอลลูนนานาชาตินี้จัดขึ้น ณ ที่ราบซากะ และยังเป็นงานบอลลูนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย ทำให้มีบอลลูนมากกว่า 100 ลูกจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ส่งเข้าร่วมประกวดการแข่งขัน บรรยากาศในช่วงนี้จะคึกคักมากทีเดียว ใครที่อยากพาแฟนไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่เหมือนใคร ลองเลือกช้อยส์นี้ไว้ในใจดูค่ะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ 7 ที่เที่ยว ซากะ ญี่ปุ่น เที่ยวไหน ไปแล้วต้องฟิน !
========================
-6-
Farm Tomita
ฟูราโน่ ฮอกไกโด
ใครที่กำลังนึกถึง ทุ่งลาเวนเดอร์ และซอฟต์ครีมลาเวนเดอร์สุดอร่อยอยู่แล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดมาเที่ยว ฟาร์มโทมิตะ ที่เมืองฟูราโน่ ฮอกไกโดค่ะ ซึ่งทุกๆ ปี ในเดือนมิถุนายน – กันยายน ทุ่งดอกไม้แห่งนี้จะบานสะพรั่ง พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว คนที่ชอบต้นไม้ใบหญ้า ดอกไม้สวยๆ ก็แวะมาเที่ยวกัน
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ ทุ่งลาเวนเดอร์ ที่จะพร้อมใจกันบานสะพรั่งเต็มที่ ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนสิงหาคม เป็นจังหวะที่สวยงามมากๆ รวมถึงเราจะได้อร่อยกับซอฟต์ครีมลาเวนเดอร์ชื่อดังของฟาร์มอีกด้วย แต่หากใครแพลนมาเที่ยวไม่ทันในช่วงเวลานั้น ก็ยังมี ทุ่งดอกทานตะวัน ดอกซัลเวีย และคอสมอส ไปจนถึงเดือนกันยายนอีกด้วยค่ะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ สุดชิลล์ชมทุ่งลาเวนเดอร์ ฟาร์มโทะมิตะ Farm Tomita
========================
-7-
Okinawa Churaumi Aquarium
โอกินาว่า
ความฝันหนึ่งของหลายคนคือ การได้ลงไปสัมผัสโลกใต้ท้องทะเล ถ้าเรา และแฟนเป็นคู่ที่ชอบโลกใต้ท้องทะเลแล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดมา Okinawa Churaumi Aquarium หนึ่งในอควาเรียมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกค่ะ
Tanachot Srijam / Shutterstock.com
จุดเด่นคือ Kuroshio Sea เป็นแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยกระจกใส มีความสูง 8.2 ม. กว้าง 22.5 ม. และหนา 60 ซม. ภายในเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลมากมาย โดยเฉพาะดาวเด่นอย่างฉลามวาฬขนาดใหญ่อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโซนอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น โซน The Coral Sea ที่เต็มไปด้วยแนวปะการังขนาดใหญ่กว่า 70 ชนิด หรือ โซน The Sea of Tropical Fish พาไปรู้จักกับปลาหลากชนิดที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลโอกินาว่า
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ 5 อควาเรียมน่าเที่ยวในญี่ปุ่น ท่องโลกใต้ทะเล
========================
-8-
Nara
นารา
นารา (Nara) สวนกวางขึ้นชื่อ และวัดสวยๆ ที่ไปเที่ยวง่ายๆ เพราะใกล้กับโอซาก้าเพียงนั่งรถไฟชั่วโมงเดียวเท่านั้นเองค่ะ เสน่ห์ของที่นี่คือ เหล่าฝูงกวางที่จะออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตร โดยเราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับน้องกวางได้ และสามารถให้ขนมเซมเบ้ที่ขายอยู่ด้านหน้าวัดเป็นอาหารกวางได้ค่ะ
Jung Hsuan / Shutterstock.com
นอกจากนี้ยังมี วัดโทไดจิ (Todai-Ji) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า วัดหลวงพ่อโต เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองนาราค่ะ และยังเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกเมืองนาราอีกด้วย ประตูทางเข้าหน้าวัดมีชื่อว่า นันไดมง (Nandaimon) เป็นประตูไม้โบราณแกะสลัก ที่ทุกคนต้องไม่พลาดแวะถ่ายรูปกัน รวมถึงในบริเวณยังมี ศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga Shrine) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ และมีคนมากราบไหว้มากที่สุดในเมืองนาราค่ะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ นั่งรถไฟเที่ยว โอซาก้า – นารา 1 วัน เล่นกับฝูงกวาง
========================
-9-
Hiroshima’s Shimanami Kaido
ฮิโรชิม่า
ทริปนี้สำหรับคู่รักนักปั่นค่ะ เพราะที่ที่เรากำลังจะพูดถึงคือ ฮิโรชิมา ชิมะนะมิ ไคโดะ (Hiroshima’s Shimanami Kaido) เส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยวที่สวยงามของสะพานแขวนที่พาดข้ามทะเลซึ่งจะเชื่อมเกาะอีก 8 เกาะเข้าด้วยกัน และระหว่างทางก็มีแหล่งท่องเที่ยวให้แวะตลอดเส้นทางค่ะ
ใครที่ชื่นชอบความชิลล์แบบแอดเวนเจอร์หน่อยๆ คิดว่านี่จะเป็นอีกทริปที่น่าประทับใจ เพราะระหว่างทางที่เราปั่นจักรยานเที่ยวนั้นจะมีทั้ง ศาลเจ้า ประภาคาร และธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึง จุดชมวิวทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) รวมไปถึง วัดโคซันจิ (Kosanji Temple) บนเกาะอิคุชิ ที่สวยงาม
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ เส้นทางปั่นจักรยาน ชิลล์ข้ามเกาะที่ยาวที่สุดในโลก ญี่ปุ่น
========================
-10-
Shirakawa-Go
กิฟู และโทยามา
หมู่บ้านนินจาตามที่เคยจินตนาการไว้ ตั้งอยู่ที่นี่ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-Go) ค่ะ ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาในเขตจังหวัดกิฟู และโทยามา ด้วยบ้านเรือนรูปร่างแปลกตาที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200-300 ปี และการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลมาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย รวมถึงยังเป็นอีกที่เที่ยวที่โรแมนติกมากทีเดียวในช่วงที่มีหิมะโปรยปราย
Phurinee Chinakathum / Shutterstock.com
จุดท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในการสัมผัสบรรยากาศคือการพักค้างคืนในหมู่บ้านชาวนา มีบ้านหลายๆ หลังเปิดให้เป็นที่พักในแบบที่เรียกว่า Minshuku เพื่อที่นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์ และสัมผัสชาวชีวิตชาวบ้าน สำหรับในช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี จะมีการเปิดไฟตอนเย็นช่วงสุดสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 วันด้วยค่ะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ ชิราคาวาโกะ เมืองมรดกโลก ที่ญี่ปุ่น
========================
-11-
Himeji Castle
เฮียวโกะ
ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น เก่าแก่กว่า 400 ปี นับเป็นปราสาทที่คงสภาพเดิมที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ปราสาทนกกระสาขาว” และยังขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น และมรดกโลกด้วยค่ะ
Mingkwan Doilom / Shutterstock.com
นอกจากความสวยงามของปราสาทแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมที่จัดว่าเด็ดจัดว่าโดนสำหรับนักท่องเที่ยวมากมายหลากหลายตามความชอบมากๆ แต่สำหรับคนที่มากันเป็นคู่แล้ว การเดินเล่นชมปราสาทในชุดกิโมโน และยูกาตะ ก็น่าจะเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมากๆ เพราะนอกจากจะได้เที่ยวชมปราสาท ยังได้ถ่ายรูปสวยๆ ในชุดสวยๆ ไว้เป็นภาพในความทรงจำอีกด้วย
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ 7 กิจกรรมโดนๆ ที่ ปราสาทฮิเมจิ
========================
-12-
Okunikko
นิกโก้
อุทยานแห่งชาติโอคุนิกโก้ (Okunikko) เป็นที่เที่ยวอีกที่ของญี่ปุ่นที่น่าสนใจ เพราะอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากเท่าไหร่ เราสามารถไปเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับจากโตเกียวได้ ค่ะ
ที่นี่เป็นภูเขาที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองนิกโก้ มีธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงน้ำตก ทะเลสาบ ที่ลุ่ม ลำธาร และน้ำพุร้อน จึงทำให้นักท่องเที่ยวสายรักธรรมชาตินิยมมาใช้เวลาในช่วงวันหยุดพักผ่อน ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็จะมีสีสัน ความสวยงามที่ต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังสามารถไปเที่ยวศาลเจ้า และวัดที่สวยงามหลายแห่งในเมืองนิกโก้ต่อได้อีกด้วย
========================
-13-
Ine
เกียวโต
อิเนะ (Ine) เป็นหมู่บ้านชาวประมงอนุรักษ์ ที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต สิ่งที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวที่นี่ก็คือ ความสวยงามของภูมิประเทศ บ้านเรือนที่คลาสสิค รวมไปถึงบรรยากาศที่สงบเงียบ เหมาะกับการมาพักผ่อนเบาๆ
นักท่องเที่ยวนิยมมาที่นี่เพื่อเดินเที่ยวชิลล์ สโลว์ไลฟ์ สูดอากาศที่ดี ดูวิวสวยๆ นอนโฮมสเตย์ และอร่อยกับอาหารทะเลสดๆ ใครที่อยากออกไปล่องเรือ ให้อาหารนกนางนวลที่บินอยู่รอบๆ อ่าว ก็สามารถค่ะ เป็นอีกหนึ่งชุมชนเล็กๆ ที่น่าประทับใจในการมาเที่ยวญี่ปุ่น
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ สโลว์ไลฟ์ ที่ หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ (Ine) เกียวโต
========================
-14-
Tsukiji
โตเกียว
คู่รักสายกิน ต้องไม่พลาดไปหาของอร่อยถึงแหล่ง และที่นี่คือที่สุดของอาหารอร่อยจากทั่วทุกมุมของญี่ปุ่น ตลาดปลาสึกิจิ ตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่โตเกียวค่ะ แน่นอนว่า นอกจากวัตถุดิบสดๆ แล้ว บริเวณรอบๆ ตลาดยังมีโซนร้านอาหารที่การันตีความสดจริง ยิ่งกว่าที่ไหนๆ ในโลกนี้เลยทีเดียว
ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านซูชิรสชาติเยี่ยม และได้เปรียบร้านซูชิจากที่อื่นๆ ในเรื่องของความสดใหม่ ทำให้มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมไปถึงคนญี่ปุ่นเอง ก็มารอต่อคิวเพื่อได้ลิ้มรสรสชาติของปลาพรีเมี่ยมเหล่านี้แทบทุกวันค่ะ ถ้าได้ไปเที่ยวโตเกียวแล้วล่ะก็ ต้องหาจังหวะมาอร่อยกันที่นี่ให้ได้เลยนะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ รวมสุดยอด ร้านซูชิ ที่ ตลาดปลาสึกิจิ ญี่ปุ่น
========================
-15-
Fushimi Inari Taisha
เกียวโต
ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ (Fushimi Inari Taisha) ตั้งอยู่ในเขตฟุชิมิ ที่เกียวโต ซึ่งชาวบ้านเรียกกันโดยทั่วไปว่า “โออินาริซัง” นั่นเองค่ะ ที่นี่ถือเป็นศาลเข้าอินาริที่ใหญ่ที่สุด และมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,300 ปีทีเดียว
ไฮไลท์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกแห่มาเที่ยวอย่างได้ขาดสายก็คือ เสาโทริอิสีแดงส้ม นับเป็นพันๆ หมื่นๆ ต้น ที่ตั้งเรียงรายติดๆ กัน จนกลายเป็นอุโมงค์เสาโทริอิที่ยาวถึง 4 กิโลเมตร ซึ่งแทบจะถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเกียวโตเลยทีเดียวค่ะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ เที่ยวเกียวโต ชมเสาโทริอิเป็นหมื่นต้น ที่ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ไทฉะ