สวัสดีครับคุณผู้อ่าน วันนี้ แต้มเอง ขออาสาพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวเฉิงตู เมืองแห่งหมีแพนด้า และอาหารเผ็ดร้อนแบบฉบับเสฉวน แต่จะเที่ยวทั้งทีต้องเซฟงบใช่ไหมครับ ไม่ต้องห่วง เพราะแต้มจะมาแจกแพลนเที่ยวในแบบประหยัด แต่ยังได้ครบทั้งความสนุกและบรรยากาศดีๆ แน่นอนครับผม เฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองแห่งแพนด้าและวัฒนธรรมเสฉวนที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใครครับ ถ้าคุณผู้อ่านกำลังมองหาสถานที่เที่ยวที่คุ้มค่า ครบเครื่องทั้งธรรมชาติ วัดโบราณ และอาหารรสจัดจ้าน เฉิงตูตอบโจทย์ทุกข้อครับ ด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ค่าครองชีพไม่แพง และการเดินทางสะดวก คุณผู้อ่านสามารถสนุกกับการชมแพนด้า นั่งจิบชาชิลๆ ในสวนสาธารณะ หรือเดินเล่นในย่านเก่าอย่างถนนจิ่นหลี่ พร้อมลิ้มรสหม้อไฟหม่าล่าที่เผ็ดชาอันเลื่องชื่อ เฉิงตูจึงเป็นจุดหมายที่เหมาะกับคนงบน้อยแต่รักการเดินทางและอยากสัมผัสเสน่ห์ของจีนแบบเต็มอิ่มครับ วันที่ 1 แพนด้า ชมวัด และเดินถนนคนเดิน ช่วงเช้า ศูนย์อนุรักษ์แพนด้า (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding) เวลา: เดินทางตั้งแต่เช้า 7:30-8:00 เพราะแพนด้าช่วงนี้จะตื่นมากินอาหาร คุณผู้อ่านจะได้เห็นพวกมันน่ารักสดใส การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้า Metro สาย 3 ไปลงสถานี Xiongmao Avenue แล้วต่อรถบัส 2 หยวน หรือใช้ Didi ราคาประมาณ 20-30 หยวน ค่าเข้า: 55 หยวน ซึ่งสามารถเดินชมแพนด้าตัวใหญ่ตัวเล็ก ถ่ายรูปในมุมธรรมชาติสุดน่ารัก https://maps.app.goo.gl/WyXE2VM9J4hFAXCT8 ช่วงบ่าย วัดเหวินซู (Wenshu Monastery) การเดินทาง: นั่ง Metro สาย 1 ไปลงสถานี Wenshu Monastery ค่าเข้า: ฟรี! สิ่งที่ต้องทำ คือการเดินชมวัดจีนโบราณที่สงบเงียบ ถ่ายรูปสถาปัตยกรรมงดงาม และไหว้พระ ทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตครับ https://maps.app.goo.gl/7vsHyriLC9Mwb1Uz8 ช่วงเย็น ซอยกว้างซอยแคบ (Kuanzhai Alley) การเดินทาง: นั่ง Metro สาย 4 ไปลงสถานี Kuanzhai Alley ค่าเข้า: ฟรี! สิ่งที่ต้องทำ คือไปเดินดูซอยแห่งประวัติศาสตร์และเที่ยวซื้อของฝาก ไม่ว่าจะเป็นขนม ของกิน ของที่ระลึก ตุ๊กตาแพนด้าครับ https://maps.app.goo.gl/DP8K6ASJYafKYjPb7 วันที่ 2 เที่ยวธรรมชาติ และช้อปปิ้งในเมืองโบราณ ช่วงเช้า บ้านของ Du fu (Du Fu Thatched Cottage) การเดินทาง: นั่ง Metro สาย 4 ไปลงสถานี Du fu North Road ค่าเข้า: 50 หยวน สิ่งที่ต้องทำ คือมาชมสวนและพื้นที่บ้านของคุณ Du fu ผู้เป็นนักกวีที่มีชื่อเสียงมากๆ และเขาเคยอาศัยที่เฉิงตูแห่งนี้ ซึ่งคุณผู้อ่านจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากๆ เลยละครับ https://maps.app.goo.gl/HqtXsbNTCLZiBNSd9 ช่วงเย็น ถนนคนเดินจิ่นหลี่ (Jinli Street) การเดินทาง: นั่ง Metro สาย 1 ไปลงสถานี Huaxiba แล้วเดินต่อ 10 นาที ค่าเข้า: ฟรี! สิ่งที่ต้องทำ คือการเดินเล่นในบรรยากาศถนนโบราณ ชิมขนมท้องถิ่นอย่างเสี่ยวหลงเปา ไก่เผ็ดหม่าล่า และของฝากน่ารักๆ (งบประมาณ 50-80 หยวนสำหรับมื้อเย็นและของกินเล่น) https://maps.app.goo.gl/CXwqM9SjtjtqqhUr6 วันที่ 3 เช้าเบาๆ ก่อนเดินทางกลับ ช่วงเช้า People’s Park (สวนประชาชน) เวลา: 8:00-10:00 การเดินทาง: นั่ง Metro สาย 2 ไปลงสถานี People’s Park ค่าเข้า: ฟรี! สิ่งที่ต้องทำ คือเดินเล่นสูดอากาศสดชื่นในสวน ชมคนท้องถิ่นเต้นรำและทำกิจกรรม ลองจิบชาจีนที่ Tea House ข้างสระน้ำ รับชมความสงบของเมืองเฉิงตูครับ https://maps.app.goo.gl/pYfo3FEGuWYdsAgr6 ช่วงเที่ยง ย่านชุนซี (Chunxi Road) การเดินทาง: เดินจากร้านอาหารในย่านชุนซีได้เลย ค่าเข้า: ฟรี! สิ่งที่ต้องทำ คือเดินช้อปปิ้งเสื้อผ้า และต้องไปถ่ายรูปกับแพนด้ายักษ์บนห้าง IFS แวะร้านค้าท้องถิ่นและลองของกินเล่นได้ครับ https://maps.app.goo.gl/V6Cz19Dcg3SbbWGZA ช่วงบ่าย-เย็น เดินทางกลับสนามบิน สามารถเดินทางด้วย Metro สาย 10 ไปสนามบินเฉิงตู (ค่าโดยสาร 4-7 หยวนครับ) หรือจะนั่งรถบัสสนามบิน สามารถถึงที่สนามบิน Tianfu International Airtport หรือ Shuangliu Airport ไดเช่นกัน (ค่าโดยสารคนละ 15-25 หยวนครับ) คำแนะนำเพิ่มเติม ตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด หากคุณผู้อ่านอยากเซฟงบ ควรจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าสัก 2-3 เดือน และเลือกบินกับสายการบิน Low-cost อย่าง Spring Airlines หรือ AirAsia ครับผม เพราะนอกจากราคาจะย่อมเยาแล้ว บางทีอาจเจอโปรโมชั่นที่ราคาไปกลับไม่ถึง 5,000 บาทด้วยซ้ำครับ โดยการเดินทางมายังเฉิงตูสามารถใช้เวลาแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ซึ่งใกล้กับประเทศไทยมากๆ อีกทั้งปัจจุบันไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว เรียกได้ว่าเฉิงตูทั้งราคาถูก และมีความโดดเด่นอย่างมาก ที่คุณผู้อ่านต้องลองมาให้ได้ครับ เดินทางในเฉิงตู รถไฟฟ้า (Metro): ถูกและสะดวกสุด! ค่าตั๋วเริ่มต้นแค่ 2 หยวน (ประมาณ 10 บาท) และครอบคลุมสถานที่เที่ยวหลักๆ ในเมือง จักรยานเช่า: จักรยานสาธารณะในเฉิงตูราคาถูกมาก เพียง 1 หยวนต่อครึ่งชั่วโมง เที่ยวได้แบบชิลๆ รถบัส: สำหรับเส้นทางที่รถไฟฟ้าไปไม่ถึง ค่าโดยสารแค่ 2 หยวนเหมือนกันครับ สรุปค่าใช้จ่าย ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ: 5,000 บาท (ประมาณ) ที่พัก: 250-500 บาทต่อคืน (500-1,000 บาทสำหรับ 2 คืน) ค่าเดินทางในเมือง: 50-100 บาท ค่าอาหาร: 600-800 บาท ค่าเข้าชมสถานที่: 350-500 บาท รวมงบประมาณ: 6,500-7,500 บาท (โดยประมาณ) แต่ไม่ว่าคุณผู้อ่านจะไปเที่ยวแบบประหยัดแค่ไหน ก็อย่าได้ชะล่าใจ เพราะทุกอย่างอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แต้มเองอยากจะฝากคุณผู้อ่านว่า อย่าลืมซื้อประกันภัยการเดินทางไว้ครับ กับกรุงไทยพานิชประกันภัย แผนประกันภัยการเดินทางที่คุ้มครองทุกที่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ ดูแลค่ารักษาพยาบาล กรณีเจ็บป่วยนอนโรงพยาบาลต่างประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องสำรองจ่าย เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 90 บาท สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ - https://ttid.co/UAnK/1o8zl539 ครับ อย่างน้อยอุ่นใจเที่ยวแบบไหนก็แฮปปี้ ซึ่งคุณผู้อ่านก็สามารถมาพูดคุยกันได้ในช่อง “แสดงความคิดเห็น” ได้เลยนะครับ แต้มเอง เป็นพื้นที่ในการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจที่แต้มได้ไปเจอมา ทั้งสถานที่ อาหาร การใช้ชีวิต และเรื่องราวการเรียนอีกสารพัด ฝากกดติดตามด้วยนะครับ เครดิต รูปภาพหน้าปก / รูปภาพประกอบบทความ - แต้มเอง(ผู้เขียน) ฝากติดตาม · แต้มเอง อ่านบทความอื่นๆ บน TrueID Creator เข้าร่วม Community กับ แต้มเอง ติดต่อ แต้มเอง ที่ - tamk.nl/contact อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !