"หาดไม้ขาว กับ เรื่องราวที่ไม่น่าจดจำ" ผู้เขียนคิดอยู่นานว่าจะตั้งชื่อเรื่องนี้ว่าอย่างไรดีนะ เพราะขึ้นชื่อว่าชายหาด ก็น่าจะหมายถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ที่เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนกาย หย่อนใจ แล้วเก็บเรื่องราวดี ๆ เอาไว้เป็นความทรงจำที่สวยงาม ที่จริงก็น่าจะเป็นแบบนั้นนะครับ แต่ความทรงจำกับที่หาดไม้ขาวแห่งนี้ ของผู้เขียนในทริปนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น กลับได้พบเจอกับความสุข ความสวยงาม แค่ช่วงเวลาไม่นาน เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านกันได้เลยนะครับ เช้าวันหยุด เพื่อนของผู้เขียนได้นัดกับเพื่อนที่สมัยเรียนรุ่นเดียวกันที่โรงเรียนสตรีภูเก็ต เพื่อนัดเจอกันที่ สวนน้ำใกล้หาดไม้ขาว เพื่อนได้ชวนผู้เขียนไปด้วย แต่ผู้เขียนขอไม่ไปสวนน้ำกับเพื่อนนะ เพราะอยากให้กลุ่มเพื่อน ๆ เขาได้มีความสุข รำลึกความหลัง เล่าคุยเรื่องราวในอดีตเมื่อครั้งสมัยวัยเรียนต่อกันและกันอย่างเต็มที่ ผู้เขียนเลยขอไปรอเพื่อนที่ หาดไม้ขาว เส้นทางที่เราต้องผ่านคือเส้นออกสู่สะพานสารสิน แต่ก่อนถึง จะมีถนนแยกเข้าไปยังหาดไม้ขาว ถนนสองข้างทางร่มรื่นเต็มไปด้วยป่าสวนยางพาราของชาวบ้าน ภาพโดย : ผู้เขียน ใช้เวลาไม่นาน เราก็มาถึงหาดไม้ขาว ผู้เขียนหาทำเลที่จะนั่งพักและนอนพัก(คาดว่าเพื่อนจะทิ้งเราไว้ที่นี่อีกนาน) ได้ที่เหมาะ ๆ แล้ว ก็ปูเสื่อที่เตรียมมา พร้อมยกเสบียงอาหาร แบบง่าย ๆ มี ข้าวเหนียว ไก่ทอด ที่ได้แวะซื้อข้างทางก่อนเข้ามา ออกมากินกันก่อน เพราะตอนนี้ผู้เขียนหิวจนตาลายแล้ว วันนี้ฟ้าสวย แดดดี มาก ๆ ครับ ชอบบรรยากาศแบบนี้ เพราะจะทำให้ได้ภาพสวย ๆ มากมายเลยละครับ ภาพโดย : ผู้เขียน เนื่องจากว่าหาดไม้ขาว อยู่ติดกับสนามบินนานาชาติภูเก็ต เวลาเครื่องบินลง จะผ่านหน้าหาดนี้พอดี ผู้เขียนกินข้าวเหนียวไก่ทอดอิ่มเต็มที่แล้ว นั่งชมทะเลสักพัก ก็เดินไปถ่ายรูปเครื่องบินใกล้ ๆ แต่จริง ๆ แล้วไม่ขอแนะนำนะครับ เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ ทั้งต่อตัวเราเองและต่อทัศนวิสัยของการบินของนักบินได้ ถ่ายอยู่ไกล ๆ ก็เห็นได้ครับเพราะเครื่องบินลำใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ภาพโดย : ผู้เขียน ผู้เขียนเล่าเรื่องราวมาถึง แทบจะกลางเรื่องแล้ว ก็เห็นมีความสุขดีนี่นะ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรให้ไม่สบายใจ เรื่องราวน่าเศร้า เริ่มจากจุดนี้ไปนะครับผู้เขียนเริ่มออกเดินถ่ายภาพคลื่นตามชายหาด ถ่ายเครื่องบินที่เตรียมบินลงอยู่เหนือหัว ถ่ายนักท่องเที่ยวที่กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ถ่าย ภาพโดย : ผู้เขียน ขณะกำลังเก็บภาพอยู่ ก็ได้มีชาวบ้านที่อยู่แถวนั้น ถือกระชังกำลังดักอะไรสักอย่างอยู่ริมทะเล ที่มีเกลียวฟองคลื่นขึ้น ๆ ลง เหมือนจะจับสัตว์น้ำทะเลอะไรสักอย่าง แบบนี้น่าจะไม่ใช่หอยแล้วละ ด้วยความสงสัยจึงเดินเข้าไปถาม "พี่ครับ กำลังหาอะไรอยู่เหรอครับ" ว่าแล้วพี่เขาก็หยิบขึ้นมาตัวหนึ่งส่งให้นักท่องเที่ยวที่สงสัยเหมือนผู้เขียนจับดู "มันคือด้วงจั๊กจั่นทะเล จะมากับคลื่นแล้วมุดอยู่ในทราย" ผู้เขียนร้อง "อ๋อ" ถึงบอกก็ไม่เคยรู้จักอยู่ดี ลักษณะเหมือนจั๊กจั่นบนบกเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนได้เจอ ภาพโดย : ผู้เขียน พี่เขาหาจั๊กจั่นทะเลอยู่ได้สักพักด้วยคลื่นลมที่แรง และ อากาศที่ร้อน พี่เขาเลยขึ้นมายืนพักอยู่หน้าจุดที่ผู้เขียนปูเสื่ออยู่พอดี ผู้เขียนสังเกตเห็นว่าได้ยินเสียงพี่เขาถอนหายใจดังมาเป็นระยะ ๆ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร พอหายเหนื่อย หายร้อนแล้ว พี่เขาก็เดินไปเรื่อย ๆ เพื่อหาจั๊กจั่นทะเลต่อ สังเกตดี ๆ ครับ เกลียวคลื่นจะแรงมาก ๆ ถึงแม้จะยืนอยู่บริเวณน้ำตื้น แต่เกลียวคลื่นมาก้อเล่นเอายืนไม่อยู่ได้เลยทีเดียว สักพักใหญ่ ๆ ผู้เขียนมองไปไกล ๆ เห็นคนกำลังมุงอะไรกันอยู่ และเห็นคนวิ่งกันไปมา เหมือนกับว่ากำลังมีเหตุด่วนเหตุรยอะไรสักอย่างเกิดขึ้นแถวนั้น ด้วยความอยากรู้ผู้เขียนรีบคว้ากล้องไปยังจุดที่คนมุงดูในทันที กับภาพที่ได้เห็นร่างที่นอนอยู่ในท่ามกลางความช่วยเหลือจากหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าทีกู้ภัย กู้ชีพ เจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่อยู่ใกล้ชายหาด และ safe Guard ที่ดูแลโซนหน้าหาด เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงลายแดงคาดดำ นี่เป็นพี่ที่หาจั๊กจั่นทะเลที่เราเพิ่งคุยด้วยและถ่ายรูปพี่เขาก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงนี่นา พอทราบแบบนี้ ผู้เขียนขนลุกซู่ ไม่คิดว่าทุกอย่างจะรวดเร็วขนาดนี้ ภาพโดย : ผู้เขียน เมื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นกันสักพัก เจ้าหน้าที่จึงลำเลียงร่างของพี่เขาเพื่อไปยังโรงพยาบาลต่อ เเต่ที่ได้ฟังจากเจ้าหน้าที่เหมือนกับว่าพี่เค้าจมหน้าคว่ำอยู่ในน้ำนานเกินไป กว่านักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณนั้นจะเจอแล้วอุ้มขึ้นฝั่ง พี่เขาน่าจะหมดลมหายใจไปแล้ว สิ่งที่ผู้เขียนทำได้ในเบื้องต้นก็คือให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่และให้เขาดูรูปภาพที่ผู้เขียนได้บันทึกเอาไว้ในกล้อง ความสุขความสนุกของผู้เขียนหมดลงในทันทีกลับกลายเป็นความรู้สึกเศร้าและสงสารพี่เขาจริง ๆ ขอให้พี่เขาไปสู่สุคติ อยู่ในภพภูมิที่ดีนะครับ นี่คงเป็นการบันทึกภาพครั้งแรกของผู้เขียนที่จบลงด้วยภาพของพี่คนนี้ที่ไร้ลมหายใจ ผู้เขียนขออโหสิกรรม ในการนำเรื่องราวนี้มาเขียนบทความ ผู้เขียนขอให้ทุกคนอย่าใช้ชีวิตอยู่ด้วยความประมาท ความตายเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ภาพโดย : ผู้เขียน เมื่อ 1 ชีวิต จากไป อีกหลายชีวิตยังคงมีชีวิตอยู่ ก็ต้องสู้กันต่อไป ... ผู้เขียนรอจนเย็นเพื่อนกลับมารับ เพื่อนขอรอดูพระอาทิตย์ตกก่อนสักพัก แต่ในใจของผู้เขียนอยากออกไปจากตรงนี้แล้วจริง ๆ สงสารพี่เขา ภาพทุกอย่างของพี่เขายังจำติดตาผู้เขียนอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ต้องรอให้เพื่อนได้ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกตามที่เพื่อนต้องการสักนิดหนึ่ง ผู้อ่านคงพอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่า ทำไม ผู้เขียนถึงตั้งชื่อเรื่อง "หาดไม้ขาว กับ เรื่องราวที่ไม่น่าจดจำ" แม้จะเจอเรื่องเศร้า ๆ วันนี้ แต่ก็ยังมีเรื่องราวดี ๆ ให้จดจำอยู่บ้าง เพราะถ้าไม่เจอพี่เขาเราก็ไม่รู้ว่าพี่เขาหาตัวอะไร และจั๊กจั่นทะเลหน้าตามันเป็นยังไง บางครั้ง บางที เมื่อเจอเรื่องเศร้า ๆ เรื่องร้าย ๆ ที่เข้ามาในชีวิต หากเรามีสติ เราก็จะทำให้เรื่องเศร้า เรื่องร้าย กลับกลายเป็นเรื่องดีได้เช่นกัน ปัญหาที่เราเจอก็อาจจะแก้ไขได้โดยง่าย บทความนี้ผู้เขียนขอฝากไว้เท่านี้ครับ ติดตามบทความของผู้เขียนกันด้วยนะครับ