การท่องเที่ยว ที่จัดขึ้นโดยชุมชน เป็นมิติการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ควรได้รับการส่งเสริมและสร้างการรับรู้ เพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ในอาชีพเกษตรกรรม ของชุมชน ที่มีการบริหารจัดการเพื่อเปิดชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดพัทลุง ถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญทางภาคใต้ของประเทศไทย ที่มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ ทั้งภูเขา ป่าไม้ ทุ่งนา และทะเล อีกมิติหนึ่ง ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปสัมผัส คือ การท่องเที่ยว ในชุมชนพอเพียง ในศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านควนกุฎิ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยสามารถเดินทางไปกลับวันเดียว จากหาดใหญ่ไปพัทลุง ภาพโดยผู้เขียน ถ่ายโดยเพื่อนของผู้เขียน การเดินทางไปท่องเที่ยว ในศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่พัทลุง ผู้เขียนได้เริ่มตั้งต้น จากสถานีรถไฟ อำเภอหาดใหญ่ สถานีปลายทางอยู่ที่บ้านต้นโดน เพื่อเดินทางต่อไปยังศูนย์การเรียนรู้ฯ หมู่ 15 ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง โดยในทริปนี้ ต้องตื่นเช้า เพื่อจับรถไฟเที่ยว 06.30 น. เพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง เมื่อถึงสถานีรถไฟบ้านต้นโดน ก็โดยสารรถรับจ้างไปยังศูนย์การเรียนรู้ฯ ส่วนขากลับ ก็โดยสารรถไฟเที่ยวบ่าย 14.30 น. หรือเดินทางไปสู่ตัวเมืองจังหวัดพัทลุง เพื่อไปแหล่งท่องเที่ยวอื่นต่อ อย่างเช่นตลาดสวนไผ่ หรือ นาโปแก ได้อีก ภาพโดยผู้เขียน ถ่ายโดยเพื่อนของผู้เขียน โปรแกรมการท่องเที่ยว โดยชุมชนที่ศูนย์การเรียนรู้ฯ ก็จะมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ ให้ทดลองถอนต้นกล้า ให้ทดลองดำนา และเรียนรู้แนวคิดและวิธีการทำเกษตรแบบพอเพียง ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 15 และชาวบ้านควนกุฎ เป็นพี่เลี้ยง คอยให้ การต้อนรับและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิต การทำนา การปลูกข้าวสังข์หยด การปลูกพืชหมุนเวียน การเลี้ยงสัตว์ เช่น ไก่จักรพรรดิ ฟาร์มไก่ ฟาร์มสุกร หรือการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ เป็นต้น และการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในการพึ่งพาตนเอง แบบวิถีพอเพียง ซึ่งบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยว ก็จะเป็นธรรมชาติแบบวิถีชีวิตชาวบ้าน นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจะได้รับประทานอาหารด้วยเมนูธรรมชาติ ที่อยู่ในพื้นที่เกษตรทั้งหมด โดยสามารถระบุรายการอาหาร ตามที่ต้องการได้ ภาพโดยผู้เขียน ถ่ายโดยเพื่อนของผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน ถ่ายโดยเพื่อนของผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน ถ่ายโดยเพื่อนของผู้เขียน ความสนุกสนานของการท่องเที่ยวแบบนี้ คือ การได้เห็นของจริง และได้ลงมือทำจริง ในพื้นที่จริง ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวิถีชีวิต และความเป็นธรรมชาติของชุมชน ที่สำคัญคือ สร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชน โดยอาศัยต้นทุนจากอาชีพที่ทำอยู่ และได้จำหน่ายสินค้าเกษตร ในราคาต้นทุนให้แก่นักท่องเที่ยว ให้มีสินค้าดีรับประทานได้ ผู้เขียนประทับใจทริปการเดินทางท่องเที่ยวแบบนี้ และหากเพื่อน ๆ สนใจทริปท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนแบบนี้ ก็ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านควนกุฎ ต. ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้านสมศักดิ์ เป็นผู้ดูแลอยู่ ผู้เขียนเชื่อว่า ทริปท่องเที่ยวแบบนี้ เป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยว ที่มีความสนุกสนานและมีมิตรภาพระหว่างการเดินทางด้วยรถไฟ ที่ราคาประหยัด และปลอดภัยสูง