ในประเทศไทยมีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่หลายแห่ง หนึ่งในรอยพระพุทธบาทที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ก็คือ รอยพระพุทธบาทพลวง หรือ พระบาทพลวง ซึ่งอยู่บน ยอดเขาคิชฌกูฏ ตั้งอยู่ในอุทธยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี รอยพระพุทธบาทพลวงถือเป็นรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่สูงที่สุดในประเทศไทย ในแต่ละปีจะมีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาเพื่อนมัสการรอยพระพุทธพลวง โดยในแต่ละปีจะมีการจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ในวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ซึ่งในปี 2563 ตรงกับวันที่ 25 มกราคม – 25 มีนาคม 2563 การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาคิชฌกูฏ ต้องนั่งรถโฟวิลไปยังจุดเดินขึ้นเขา มีจุดขึ้นอยู่ 2 ที่ คือ วัดกระทิงและวัดพลวง ค่าโดยสารขึ้นเที่ยวละ 100 บาท ลง 100 บาท และค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานคนละ 20 บาท หรือใครที่ไม่รถขึ้นโฟวิลก็สามารถเดินเท้าขึ้นไปยังยอดเขาได้เช่นกัน ในครั้งผู้เขียนได้มาขึ้นรถที่วัดกระทิง ก่อนขึ้นรถขอแนะนำให้ทุกท่านได้มากราบสรีระสังขาร พระครูธรรมสรคุณ หรือ หลวงพ่อเขียน อดีตเจ้าอาวาสวัดกระทิง ท่านเป็นผู้บุกเบิกทางขึ้นสู่รอยพุทธบาท จนสามาถนำรถยนต์ขึ้นได้ป็นครั้งแรก และพัฒนาเส้นทางให้มีความสะดวกและปลอดภัยเหมือนในปัจจุบัน เมื่อเรากราบขอพรหลวงพ่อเขียนแล้ว ก็จะมาซื้อบัตรคิวเพื่อขึ้นรถกัน ในวันธรรมดาสามารถซื้อบัตรคิวขึ้นได้เลยไม่ต้องรอนาน แต่ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ อาจจะต้องรอนานหลายชั่วโมงหน่อย เนื่องจากมีประชาชนเดินทางกันมาเป็นจำนวนมาก อีกหนึ่งสิ่งที่จะต้องเตรียมให้พร้อม ก็คือ อาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรคประจำตัว เพราะด้านบนไม่มีอาหารจำหน่ายแล้ว เมื่อรับประทานเสร็จแล้วให้นำมาทิ้งยังจุดที่เจ้าหน้าเตรียมไว้ เมื่อซื้อบัตรคิวเรียบร้อยแล้ว รถโฟวิลก็จะนำเราขึ้นสู่ยอดเขา หากท่าใดที่มีอาการเมารถหรือกลัวความสูงผู้เขียนขอแนะนำให้นั่งด้านในของรถจะดีกว่า แต่ท่านใดที่ชอบความตื่นเต้นให้นั่งหลังกะบะ ระยะทางจากวัดกระทิง ถึง ลานพระสีวลี ประมาณ 10 กม. ซึ่งผ่านวัดพลวง สันเขื่อนพลวง หน่วยพิทักษ์อุทยาน หลังจากผ่านหน่วยพิทักษ์อุทยานจะเริ่มเข้าสู่เส้นทางที่มีความลาดชัน และคดเคี้ยว ทำบางช่วงเกิดอาอารหูอื้อขึ้นได้ ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที ก็จะมาถึงยังลานพระสีวลี จุดนี้เราต้องเดินเท้าต่อไปอีก 1.2 กม. เพื่อไปยังรอยพระพุทธบาท นอกจากการเดินแล้วยังมีลูกหาบรับจ้างแบกเสลี่ยงขึ้นอีกด้วย ส่วนราคาสามารถสอบถามได้ที่จุดประชาสัมพันธ์ครับ เมื่อเราเริ่มเดินขึ้นสู่ยอดเขา จะมีพระสงฆ์คอยพระประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนถึงรอยพระพุทธบาท จะพบกับประตูสวรรค์มีลักษณะเป็นช่องแคบ เมื่อผ่านประตูสรววค์ไปจะมีน้ำชาให้ดื่มแก้กระหาย เดินต่อมาก็จะถึงจุดหมายปลายทางของเรานั่นก็คือ รอยพระพุทธบาทพลวง รอยพระพุทธบาทมีลักษณะ เป็นรอยบนหินขาดใหญ่ มีรอยลึกประมาณ 2 เมตร กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตรด้านหลังของรอยพระพุทธบาท มีหินลูกบาตร เป็นก้อนหินขนดใหญ่มีรูทรงคล้ายบาตรคว่ำ ตั้งอยู่ริมหน้าผา ในการมานัสการรอยพระพุทธบาทจะห้ามนำดอกไม้ทุกชนิดขึ้นมา เพื่อเป็นรักษาความสะอาดของสถานที่ เมื่อมาถึงรอยพระพุทธบาท จะมีเจ้าหน้าที่อธิบาย และกล่าวนำคำบูชา เมื่อกล่าวคำบูเสร็จแล้ว ก็จะให้แต่ละคนได้ขอพร โดยสิ่งสำคัญที่สุดของการขอพร สามารถขอได้เพียง 1 ข้อเท่านั้น จุดมุ่งหมายที่สำคัญนั่นก็คือความตั้งใจ ความจริงใจในการทำให้พร 1 ข้อนั้นประสบความสำเร็จซึ่งการที่จะเดินทางไปยังเขาคิชฌกูฏนั้นไม่ได้ง่ายเลย แต่ใครหลายคนมีความเพียรพยายามไปถึงได้ ขึ้นไปเพื่อไหว้พระขอพร ขออธิษฐาน ซึ่งหลายคนขึ้นไปขอก็เป็นจริง ก็เลยเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของความเชื่อและความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจ เหมือนมีแรงฮึดสู้ในการใช้ชีวิต ทำให้ประสบความสำเร็จ จนพรข้อสำคัญนั้นกลายเป็นจริงก็ว่าได้ และห้ามบนบานศาลกล่าวเด็ดขาด อีกหนึ่งจุดที่หลายคนต้องการมาให้ถึงก็คือผ้าแดง ซึ่งในบริเวรนี้จะมีผ้าสีแดงที่มีการเขียนชื่อ - นามสกุล และคำอธิฐานมาผูกไว้เป็นจำนวนมาก แต่ความจริงแล้วเขตผ้าแดงคือจุดที่พระสงฆ์นำผ้าแดงผูกเพื่อให้รู้ว่าเป็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางแล้ว หากเดินต่อไปจะเป็นบริเวณที่อันตรายและมีสัตย์ป่าอาศัยอยู่ การเดินทางเพื่อมานมัสการรอยพระพุทธบาท ณ ยอดเขาคิชฌกูฏ ถือเป็นการพิสูจน์ความศรัทธาแล้วยังเป็นการฝึกความอดทนต่ออุปสรรคต่าง ทั้งระยะทางและสภาพร่างกายอีด้วย อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฎ ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เบอร์โทร 039-609666