หลังจากเราผ่านเนินวัดใจทั้งหมด 5 เนิน คือ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ และเป็นผู้พิชิตลานสนภูอยดาวที่ระดับความสูง 1,633 เมตร มาแล้ว วันนี้พักผ่อนหย่อนใจแบบสบายๆ ด้วยการเดินเที่ยวป่าสนฤดูหนาวบนภูสอยดาวกันต่อความเดิมตอนที่แล้ววิธีจองคิวเข้า อุทยานภูสอยดาว เปิดเที่ยว 1 ก.ค. 2566 ผ่าน QueQภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ Day 1/3 พิชิตลานสนฤดูหนาวDay 2/3 วันชิวล์กับป่าสนฤดูหนาวตื่นมารับอุณหภูมิเช้านี้ที่ 13 องศา ตามที่พี่เต็นท์ข้างๆ บอก (ส่วนเราไม่ได้เช็คอะไรแล้ว อยู่ในโหมดประหยัดแบต) ตื่นมาเพราะเสียงจอแจของผู้คนที่เตรียมตัวขึ้นยอดที่ความสูง 2,102 เมตร (ซึ่งจะเปิดแค่ 3 เดือน คือพฤศจิกายน-มกราคม เท่านั้น กับระยะทาง 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไปกลับ 7-8 ชั่วโมง พร้อมได้รับใบประกาศในการพิชิตยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 4 ของไทย) บางคนตื่นมาบอกเล่าว่านอนน้ำค้างหยด ฟลายชีทเปียกโชก ส่วนเราไม่ตั้งใจจะขึ้นแต่แรกแล้วก็ไม่ได้ลงทะเบียนมาซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 500 บาท แต่ดูหน้างานแล้วถ้าเปลี่ยนใจก็น่าจะไปได้ เพราะน่าจะมีคนที่จองไว้เทแน่นอน สำหรับมื้อเช้าถ้าคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรทานดี มีข้าวไข่เจียว 40 บาท ที่ต่อคิวกันยาวไว้บริการ ส่วนเราเช็คอินกับถังน้ำ ต้มน้ำร้อนชงกาแฟ แล้วโยนขนมปังใส่เป้ออกไปเดินเล่นดีกว่าเดินเล่นลานสนกิจกรรมแรกไปเดินเล่นกัน เตรียมมื้อเช้าพร้อมในเป้เดินออกด้านหลังศูนย์บริการ เส้นทางเดียวกับที่เขาไปขึ้นยอดและวนออกซ้าย (เราไม่สามารถเดินตรงไปเล่นเส้นทางที่จะขึ้นยอดได้ เขาติดป้ายห้ามเข้า) เป็นเช้าที่มีความสุขกับทุ่งหญ้าและฟ้ากว้าง ทุ่งมณีเทวา ดอกหงอนนาคยังมีแค่พอให้ถ่ายรูปเล่น ส่วนใหญ่แห้งไปแล้ว ผ่านจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นหลังเขา ซึ่งกว่าจะพ้นก็น่าจะสายและคาดว่าจะร้อนเต็มๆ หมุดเขตแดนไทย-ลาวก็มีนะ เมื่อเดินครบรอบก็กลับมาฐานที่มั่น มีผู้คนกระจายตัวอยู่ทั่วไป ระหว่างทำอาหารและนั่งมองดู มีคนมาถึงตั้งแต่ 10 โมงครึ่ง ตัวจ่อยๆ เดินตัวเปล่ามานั่งรอลูกหาบเพราะมาถึงก่อน จากนั้นเริ่มมีแบกเป้แบบมืออาชีพ ทยอยมาเรื่อยๆ ก็หาทำเลกางเต็นท์ กันไปน้ำตกสายทิพย์เมื่อทานมื้อสายเสร็จ ก็ห่อมื้อกลางวันและเผื่อเย็นไปในคราวเดียว เพื่อออกตามหาเมเปิ้ลและต้นบ๊วยที่น้ำตกสายทิพย์ตามที่พี่เจ้าหน้าที่บอก น้ำตกนี้จะเห็นป้ายอยู่ขวามือตั้งแต่เมื่อวานที่เดินเข้าลานสนมา เป็นแบบที่ต้องเดินจากด้านบนลงไป มีป้ายบอกทั้งหมด 15 จุด เป็นน้ำตกที่ความสาวได้เปรียบ ต้องไต่เชือกสาวลงและสาวกลับขึ้นมา แม้จะไม่มีน้ำแต่ชอบในความสีเขียวของมอสและเฟิร์นมากๆ ค่ะ มีแรงอยากให้สาวลงมา ถ่ายรูปสวยมาก แล้วเราก็สาวขึ้นเดินกลับมาที่ตั้งอีกรอบเพื่อพักเบรคอาบน้ำก่อนให้สดชื่นก่อนจะหนาวและจะมีผู้คนมากมายในตอนเย็น-ค่ำชมพระอาทิตย์ตกภารกิจต่อมาคือเดินไปเล่นชมพระอาทิตย์อีกจุดหนึ่งที่ไกลกว่าและเงียบหน่อยตรงจุดที่สุดลานสนและเลยไปหน่อยก็ข้ามไปประเทศลาวแล้ว นั่งทักทายพระอาทิตย์ในหมู่เมฆ ปิกนิกทานข้าวเย็น และกลับมาพบกับความหนาแน่น พร้อมถูกรมควันจากชาบูดอย และเสียงผู้คนคุยอวดว่าได้ผ่านที่นั่นที่นี่มาแล้วรวมทั้งผู้ที่ฉลองความสำเร็จจากการพิชิตยอดด้วย ยอดที่ปลิวมาตามลม คือ วันนี้มีคนเดินขึ้นมาประมาณ 260 คน และมีนักท่องเที่ยวเป็นตระคริวไปสองคนแต่ยืนยันจะเดินขึ้นมาจนได้ระยะทางเดินวนไปวนมาในลานสนไม่ไกลค่ะ เดินรอบน่าจะไม่เกิน 2 กิโลเมตร ความสุขของวันนี้คือการเดินเล่นพักผ่อนสบายๆ กับอากาศเย็นสดชื่นข้อแนะนำ: ควรพกน้ำและอาหารให้เพียงพอ และควรมีไฟฉาย เสื้อกันลม-กันหนาว ติดตัวระหว่างเดินเล่นไปด้วยตลอดเวลา ส่วนคนที่นอนหลับยาก ชอบเงียบๆ ควรหาจุดกลางเต็นท์ไกลจากฝูงชนหน่อยเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 8.00-16.30 น.เวลาแนะนำ : ฤดูฝนชมไอหมอกและทุ่งดอกหงอนนาค ฤดูหนาวชมดาว พิชิตยอดและล่าช้างค่าเข้าชม : ค่าธรรมเนียมตามอัตราเข้าพัก/ ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติพิกัด : อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์เพจ : อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Parkภาพถ่ายโดยผู้เขียน#เที่ยวอุตรดิตถ์ #พิชิตยอดเขา #ภูสอยดาว #สองขาพาเที่ยว #เที่ยวฤดูหนาวอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !